กรุงเทพฯ 28 มิ.ย. – รอง ผบช.น. เผยขณะนี้มีผู้ชุมนุม 1,019 คน มีกล้องวงจรปิดกว่า 200 จุด รถพยาบาล 7 คัน สุนัข K9 จำนวน 8 ตัว ชุด EOD และกำลังตำรวจ 2,500 นาย ดูแลความปลอดภัย ย้ำบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด เฝ้าระวังอาวุธและบุคคลต่างชาติ รถจีโน่เตรียมพร้อมตามขั้นตอนปกติพร้อมรับมือหากยืดเยื้อ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยรองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตราชเทวี และรองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ มีการรายงานผลความคืบหน้าในการดูแลผู้ชุมนุมและการรักษาความเรียบร้อย โดยมีการแบ่งหน้าที่รับผิดชอบวันนี้ แบ่งเป็น พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานมั่นคง, พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานสืบสวน, พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานจราจร, พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานป้องกันและปราบปราม และ พล.ต.ต.ชัยพัชร์ ศรีประเสริฐ รอง ผบช.น. รับผิดชอบ ศปก.ส่วนหน้า เขตราชเทวี
เบื้องต้นมีการใช้โดรนบินขึ้นนับยอด ตอนนี้มียอดผู้ชุมนุมจำนวน 1,019 คน พื้นที่ชมนุมโดยรอบมีจุดคัดกรอง 5 จุด ปัจจุบันตรวจพบมีดสปาต้า 1 เล่ม คัตเตอร์ 3 เล่ม เป็นไรเดอร์ที่คาดว่าไม่ได้เข้าร่วมชุมนุม ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
นอกจากนี้บริเวณโดยรอบยังมีกล้องวงจรปิด CCTV กว่า 200 จุด ทั้งกล้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เพื่อคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัย มีรถพยาบาล 4 คัน รถกู้ภัย 3 คัน โดยมีเส้นทางพิเศษเพื่อลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งในที่ชุมนุมและด้านนอก โดยมีการประสานโรงพยาบาลไว้ 3 ที่คือ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลพระมงกุฎ และโรงพยาบาลราชวิถี
นอกจากนี้ยังมีสุนัข K9 จำนวน 8 ตัว ลาดตระเวนทั้งพื้นราบและบน sky walk หาสิ่งแปลกปลอมและวัตถุต้องสงสัย และยังมีชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD เข้ามาสมทบด้วย
ส่วนอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ที่จะขึ้นบินในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและใกล้เคียง ต้องได้รับอนุญาตจากกองบินพลเรือน และศูนย์ บช.น. เท่านั้น ณ ปัจจุบันมีการขออนุญาตมาเพียง 3 ราย ถ้ามีโดรนแปลกปลอม ทางตำรวจต้องทำการต่อต้านไม่ให้บิน เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด
โดยวันนี้ (28 มิ.ย.) มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 กองร้อย กว่า 2,500 นาย ขณะเดียวกันได้รับการเสริมจากเทศกิจของกรุงเทพมหานครอีกกว่า 140 คน ที่จะเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ ย้ำในการชุมนุม เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ขอให้หลีกเลี่ยงการนำอาวุธเข้ามา เพราะเจ้าหน้าที่ต้องยกระดับการเฝ้าระวังเพื่อความปลอดภัยของประชาชน อีกทั้งในขณะนี้ประเทศไทยยังมีข้อพิพาทกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะมีการเฝ้าระมัดระวังในการคัดกรองไม่ให้บุคคลสัญชาติดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพื้นที่การชุมนุม ซึ่งในแต่ละด่านตรวจจะมีเจ้าหน้าที่ สตม. ประจำจุดคอยช่วยคัดกรองด้วย เพื่อป้องกันการสร้างสถานการณ์โดยมือที่สาม
ส่วนการเตรียมรถจีโน่ ยอมรับว่ามีการเตรียมจริงแต่ว่าเป็นการเตรียมตามขั้นตอนการชุมนุมปกติ ไม่ได้มีการนำมาในพื้นที่การชุมนุม
ทั้งนี้ ในการชุมนุมเบื้องต้นยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมหากการชุมนุมในครั้งนี้มีการยืดเยื้อ แม้จะมีการขออนุญาตการชุมนุมถึงแค่เวลา 21.00 น. โดยทั้งผู้บัญชาการการตำรวจแห่งชาติ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นห่วง ไม่อยากให้การชุมนุมกระทบต่อประชาชนที่สัญจรและใช้ชีวิตตามปกติ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่จุดศูนย์กลางการเดินทาง แต่หากหลีกเลี่ยงได้ก็ไม่อยากให้ผ่านเข้ามาในจุดนี้ เพราะอาจจะไม่ได้รับความสะดวกมากนัก.-420-สำนักข่าวไทย