ผู้เสียหายร้อง ตร.ถูกบริษัทคนจีนหลอกลงทุน กดไลค์ยูทูปปั่นยอดแลกเงิน

บช.ก. 26 ธ.ค. – “ทนายไพศาล” พาผู้เสียหายกว่า 100 คน แจ้งความบริษัทคนจีน หลอกลวงให้ทำงาน แค่กดไลค์ยูทูปก็ได้เงิน- ผู้เสียหายกว่า 5,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่าพันล้านบาท


ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วย นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานคณะกรรมการ ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมระหว่างเพศ พรรคประชาธิปัตย์ พาผู้เสียหายกว่า 100 คน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกบริษัท JN RICH GROUP หลอกลวงให้ลงทุน ทำงานในโทรศัพท์ แค่กดไลค์ช่องยูทูปที่ทีมงานส่งมาให้แล้วก็จะได้เงินเป็นค่าตอบแทนสูง โดยคดีนี้มีผู้เสียหาย กว่า 5,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท

ทนายไพศาล กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายผ่าน เพจทนายไพศาลช่วยด้วย ภายใน 1 วัน มีผู้เสียหายมาร้องเรียนกว่า 100 คน จึงตัดสินใจเปิดไลน์กลุ่มใหญ่ ปรากฏว่ามีผู้เสียหายกว่า 5,000 คน มาร้องเรียนในเรื่องเดียวกันว่าถูก บริษัท JN RICH GROUP หลอก โดยทำงานง่าย ๆ ผ่านโทรศัพท์มือถือ แค่เข้าไปดู ไปคอมเมนท์ช่องยูทูปที่ทีมงานส่งมาให้ ตามจำนวนเงินที่เราลงทุน เราก็จะได้เงินแล้ว เริ่มจากให้ร่วมลงทุน 300 บาท เพื่อเปิดบัญชี จากนั้นก็ทำงานตามที่ทีมงานบอก โดยจำนวนลงทุน มีผลกับจำนวนงานที่ได้รับ หากลงทุนเยอะ ทีมงานก็จะส่งงานมาให้ทำเยอะ ก็จะสมัคร id หลายช่อง จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและร่วมลงทุนด้วย


ซึ่งเงินที่ได้จากการทำงาน ก็จะถูกฝากในแอพพลิเคชั่นของบริษัทดังกล่าว ผู้เสียหายส่วนใหญ่ก็ลงทุนเยอะเพราะต้องการได้ผลตอบแทน จึงลงทุนไปเรื่อย ๆ ช่วงแรกก็จะได้เงินเร็ว ค่าตอบแทนเฉลี่ยสูงสุด เงินปันผลจะให้กำไร 1,300% ต่อปี ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ ลักษณะคล้ายกับแชร์ลูกโซ่ และ Forex 3d โดยคดีนี้มีผู้เสียหายมากสุดถึง 15 ล้านบาท

โดยผู้เสียหายรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอกเนื่องจากมีข้อความส่งมาทางแอพพลิเคชั่นที่ใช้ทำงาน ว่า YouTube ได้ยกเลิกสัญญากับบริษัท ทำให้ไม่สามารถเข้าไปทำงานในช่องทาง YouTube ได้จึงให้ย้ายไปทำในช่องทาง IG แทน และทำให้ผู้เสียหายต้องลงทุนใหม่ ส่วนเงินที่ได้จาก YouTube นั้นก็ไม่สามารถถอนออกมาได้ เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอก จึงได้นำข้อมูลมาร้องเรียนกับตน

จากการตรวจสอบชื่อของบริษัท พบว่าเป็นนายทุนชาวจีน ที่ใช้นอมินีเป็นคนไทย ในการสวมรอยจดทะเบียน มาเปิดบริษัทได้ 2 ปี โดยใช้เงินในการจดทะเบียนเปิดบริษัท 2 ล้านบาท งบการเงินมีไม่ถึงหลักหมื่น แต่บริษัทระดมทุนถึงหลักพันล้านบาท และจากการตรวจสอบแล้วบริษัทนี้ไม่มีที่ตั้งและตัวตนอยู่จริง โดยบริษัทนี้มีแม่ข่ายเป็นคนไทยด้วยกัน เบื้องต้นทราบมาว่าเจ้าของบริษัทได้หนีไปยัง ปอยเปรต ประเทศกัมพูชาแล้ว


สำหรับแนวทางกฎหมายที่สามารถดำเนินคดีได้ มีความผิดในฐาน พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน, ฉ้อโกงประชาชน, การฟอกเงิน ซึ่งก็จะให้สำนักงานป้องกันและปรับปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน ซึ่งก็จะเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย คดีในลักษณะนี้ศาลเคยตัดสินจำคุกเป็นแสนๆ ปีมาแล้ว โดยตนได้ประสานกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ไว้แล้ว

ด้านนายแทนคุณ กล่าวว่า ในส่วนของตนก็มีผู้เสียหายมาร้องเรียน ว่าถูกบริษัทนี้หรอกเช่นเดียวกัน และมีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงได้พาผู้เสียหายมารวมกับทนายไพศาล เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีพร้อมกัน อย่างกรณีของตนส่วนใหญ่แล้วผู้เสียหายจะลงทุนในการซื้อหุ้นของบริษัท แล้วให้ทีมงานเป็นคนทำงานให้ ผู้เสียหายมีหน้าที่รับเงินอย่างเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วผู้เสียหายจะลงทุนหลักแสนถึงหลักล้าน ขณะนี้ทราบว่าแอพพลิเคชั่นของบริษัทดังกล่าวยังสามารถเปิดให้ร่วมลงทุนและส่งงานมาให้ทำอยู่ ตนอยากจะฝากย้ำเตือนประชาชนว่า บริษัท JN RICH GROUP หลอกลวงแน่นอน อย่าหลงเชื่อการลงทุนที่ได้เงินในจำนวนที่มหาศาล ถ้าหากไม่มีสินค้าบริการที่จับต้องได้จริงๆ อย่าหลงเชื่อ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินทราบว่า มีการโอนเงินมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จึงคาดว่าตัวการใหญ่น่าจะอยู่ต่างประเทศ

ด้านนางหญิง อายุ 50 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตัวเองรู้จักการลงทุนกับญาติในหมู่บ้านเดียวกัน เห็นว่าทำงานแล้วได้เงินจริง ตนจึงสนใจ เพราะอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร จึงได้ไปซื้อโทรศัพท์และเปิดบัญชีไว้เผื่อทำงาน โดยเชื่อสนิทใจว่าการทำงานจะได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเพราะมีข้อมูลเอกสารทุกอย่างครบ คนที่ให้การแนะนำก็น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจลงทุนไปเริ่มแรก 1 แสนบาท และทิ้งโทรศัพท์ให้แม่ทีมเอาไปดำเนินการทั้งหมด โดยที่ตัวเองแค่โอนเงินจ่ายเท่านั้น เหตุที่ทำแบบนี้เพราะว่าเชื่อในคำพูดของแม่ทีมมารู้อีกทีก็สูญเงินไปกว่า 10 ล้านบาทแล้ว

ด้านนายเฉลิม เดชสงคราม อายุ 33 ปี กล่าวว่า ตัวเองเป็นนายหน้าและเป็นผู้เสียหายด้วย ตัวเองเริ่มจากการเป็นลูกค้า ก่อนหลังจากนั้นก็มีแม่ทีมชักชวนให้มาช่วยเป็นแอดมิน รับเรื่องและส่งงานให้กับลูกข่ายทุกคน โดยเริ่มแรกให้ค่าตอบแทน 500 บาท ก่อนจะขยับขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายนเป็น 1,000 บาท โดยหน้าที่หลัก ๆ คือช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการทำงานให้แก่ลูกค้า และส่งเรื่องให้กับแม่ทีมทุกทีม และตนก็จะได้ค่าหักเปอร์เซ็นต์ หากสามารถชวนคนมาร่วมลงทุนได้ โดยตอนนี้ตนก็เสียหายกว่า 70,000 บาท

ส่วนตัวไม่คิดว่านี่คือการหลอกลวง เนื่องจากเงินเข้าออกตลอดเวลา จนมาเจอกับตัวเองเพราะเงินที่ว่าจ้างไม่สามารถถอนออกมาได้และถูกหลอกให้ทำงาน แม้แต่หน้าแม่ข่ายตัวเองก็ไม่เคยเห็น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]