กรุงเทพฯ 24 ส.ค. – ผู้เสียหาย 2 ราย เข้าพบทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังถูกมิจฉาชีพขอบัตรประชาชนไปเปิดบริษัทและบัญชีธนาคาร แลกกับการสร้างความน่าเชื่อถือทางการเงิน และสเตทเมนต์เพื่อใช้ในการยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคาร แต่กลับถูกสรรพากรโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเกือบพันล้านบาท
โดยผู้เสียหายรายแรก เป็นหญิงอายุ 29 ปี ไม่ได้ประกอบอาชีพ แต่ต้องการยื่นกู้เงินเพื่อซื้อบ้าน จึงมีคนรู้จัก 2 สามีภรรยา มาเสนอขอยืมบัตรประชาชนไปเปิดบริษัท โดยจะใช้ชื่อผู้เสียหายเป็นกรรมการบริษัททำธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ผู้เสียหายมีสเตทเมนต์การเงินที่มั่นคง สามารถนำไปใช้ยื่นกู้สินเชื่อได้ แต่มีเงื่อนไขว่าเงินที่กู้มาจะต้องแบ่งอีกฝ่าย 50/50 ผู้เสียหายจึงตกลงยินยอมให้ใช้ชื่อตนเองเปิดบริษัทแรก แต่ต่อมากลับมีการนำบัตรประชาชนและชื่อของตนเองไปใช้เปิดอีกบริษัทหนึ่ง โดยที่ตนเองไม่ทราบและไม่อนุญาต ก่อนที่จะโดนสรรพากรเรียกเก็บภาษีในเวลาต่อมากว่า 800 ล้านบาท
ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย เป็นชายอายุ 42 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว ก็ถูก 2 สามีภรรยาคู่นี้มาหลอกในลักษณะเดียวกัน โดยตอนนี้กำลังถูกสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ซึ่งคาดว่าอาจสูงเกือบพันล้านบาทเช่นกัน จึงตัดสินใจปรึกษาข้อกฎหมายกับทนายษิทรา เพื่อหาแนวทางในการต่อสู้คดีต่อไป เนื่องจากเป็นการแอบอ้างนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะ 2 สามีภรรยามีญาติเป็นตำรวจด้วย. -สำนักข่าวไทย