“อนุทิน” สั่งเร่งติดตามการพบสายพันธุ์เบตาใน รร.ประจำที่ยะลา

สธ.21มิ.ย.–“อนุทิน” ย้ำการพบสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้)ในโรงเรียนประจำยะลา ต้องเร่งติดตาม ให้ครอบคลุมทั้งที่มาและแพร่ไปที่ไหนแล้วบ้าง เตรียมชงคณะกรรมการ เพิ่มการกักตัวในสายพันธุ์เบตา เป็น 21 วันหรือ 1 เดือน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีการพบการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้)ในกลุ่มนักเรียนโรงเรียนประจำเอกชน (ศูนย์มัรกัส) ในพื้นที่ จ.ยะลา และกระจายไปใน 12 จังหวัดภาคใต้ว่า เรื่องนี้ ขณะนี้ได้สั่งการให้เข้มมาตรการการควบคุมโรค ไม่ให้ลุกลาม ไม่กังวลให้เชื้อเข้ามาตามระบบ เพราะระบบสาธารณสุข สามารถตรวจจับได้ แต่ในหากเป็นการลักลอบเข้ามาก็คงต้องขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคง เช่น กระทรวงมหาดไทย หรืออื่นๆ ทั้งนี้ การกักตัว ในสายพันธุ์เบตา ต้องมีการกักตัว 21 วันหรือ 1 เดือน

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวยอมรับในโรงเรียนประจำดังกล่าว ขณะนี้พบสายพันธุ์ไวรัสโควิด ทั้งเบตา (แอฟริกาใต้)และอัลฟา(อังกฤษ) แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีกี่สายพันธุ์ และต้องมีการตรวจว่าการรับเชื้อสายพันธุ์แอฟริกา มาจากที่ใด และ ได้กระจายไปในจังหวัดไหนบ้าง จากเดิมที่จำกัดอยู่พื้นที่อำเภอตากใบ จ.นราธิวาส

พร้อมย้ำว่า สายพันธุ์เบตา แม้จะทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง แต่อำนาจในการแพร่กระจายยังน้อยกว่า สายพันธุ์อังกฤษ และ อินเดีย ทั้งนี้การควบคุมโรค ต้องเข้มข้นเน้นการการกักตัวเฝ้าระวังเพิ่มขึ้นจาก 21 วัน เป็น 1เดือน ด้วย แจ้งพื้นที่ให้เร่งคุมโรคให้อยู่ เพื่อไม่ให้เชื้อหลุดรอดออกไปนอกพื้นที่

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับเคสนักเรียนประจำที่ภาคใต้ขอให้ทางจังหวัดเป็นผู้ให้รายละเอียด แต่ได้กำชับให้ทำความเข้าใจในพื้นที่ว่า ที่อาจเข้าใจว่าเมื่อพบผู้ติดเชื้อไม่ใช่แค่ปิดโรงเรียนเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือต้องควบคุมอย่าให้มีการเดินทางออกนอกพื้นที่ ให้คล้ายกับ มาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซิล ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้ก็มีการกักตัวอย่างน้อย 21 วันหรือ 1เดือนเตรียมเสนอให้คณะกรรมการวิชาการพิจารณาอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย