แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย

examples of rare earth on display

เยอรมนีเรียกร้องอียูกดดันจีนเรื่องแรร์เอิร์ธ

ดึสเซิลดอร์ฟ 12 มิ.ย. – สมาคมอุตสาหกรรมเตือนว่า โรงงานและผู้ผลิตอุปกรณ์ในเยอรมนี กำลังประสบปัญหาเรื่องข้อจำกัดด้านอุปทานของธาตุหายาก หรือแรร์เอิร์ธ และเรียกร้องให้สหภาพยุโรป หรืออียู เพิ่มการกดดันจีนที่มีแรร์เอิร์ธมากที่สุดในโลก วีดีเอ็มเอ (VDMA) ซึ่งเป็นสมาคมในเยอรมนีที่มีบริษัทวิศวกรรมเครื่องกลเยอรมันและยุโรปเป็นสมาชิกประมาณ 3,600 แห่งแถลงว่า สมาชิกไม่ได้รับแรร์เอิร์ธมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะแรร์เอิร์ธทั้งหมดมีปัญหาเรื่องข้อจำกัดด้านอุปทาน เช่น ไนโตรเซลลูโลสที่ใช้ในการเคลือบผิว ทำสีน้ำมัน กาว วัตถุระเบิด เจอร์เมเนียมที่เป็นสารกึ่งตัวนำที่ใช้งานหลากหลายด้าน วีดีเอ็มเอเรียกร้องให้อียูเจรจากับจีนเพื่อแก้ปัญหานี้ ขณะเดียวกันต้องหาแหล่งแรร์เอิร์ธจากที่อื่นในระยะกลางและระยะยาว เฟซบุ๊กกรมทรัพยากรธรณีของไทยโพสต์เรื่องแรร์เอิร์ธว่า เป็นธาตุหายากที่เป็นต้นน้ำสำคัญในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูงหลากหลายประเภท แม้จะเรียกว่าธาตุหายาก แต่สามารถพบได้ในเนื้อหินเกือบทุกชนิดที่เป็นส่วนประกอบของเปลือกโลก เว็บไซต์สตาทิสตา (statista) ระบุว่า ปี 2567 จีนมีแรร์เอิร์ธที่พบแล้วมากที่สุดในโลกถึง 44 ล้านตัน หรือเกือบครึ่งหนึ่งของโลก และสกัดแรร์เอิร์ธได้ร้อยละ 70 ของโลก จีนประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนให้ผู้ส่งออกแรร์เอิร์ธต้องมีใบอนุญาตจากรัฐบาลกลาง หลังจากเปิดสงครามการค้ากับสหรัฐเรื่องภาษีศุลกากร แต่เมื่อวานนี้ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการเจรจากันที่กรุงลอนดอนของอังกฤษว่า จีนจะผ่อนคลายมาตรการจำกัดการส่งออกแรร์เอิร์ธ.-814.-สำนักข่าวไทย  

จีนยืนยันข้อตกลงการค้ากับสหรัฐ-ย้ำรักษาคำพูดเสมอ

ปักกิ่ง 12 มิ.ย. – รัฐบาลจีนกล่าววันนี้ ยืนยันข้อตกลงการค้าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศไว้ โดยกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องยึดมั่นในฉันทามติที่ได้ตกลงกันไว้ และเน้นย้ำว่าจีนรักษาสัญญาเสมอ ข้อตกลงดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่นายทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการสงบศึกชั่วคราวในสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ เศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวในการแถลงข่าวตามปกติว่า จีนรักษาสัญญามาโดยตลอด พร้อมกับระบุว่า เมื่อมีฉันทามติเกิดขึ้นแล้ว ทั้งสองฝ่ายควรปฏิบัติตาม การสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายทรัมป์และนายสี ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากข้อตกลงเบื้องต้นที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ได้สะดุดลง ตามมาด้วยการเจรจาเพิ่มเติมในกรุงลอนดอนของอังกฤษ ซึ่งสหรัฐกล่าวว่าได้ “เสริมเนื้อหา” ให้กับข้อตกลงเจนีวา เพื่อบรรเทามาตรการภาษีตอบโต้ระหว่างสองฝ่าย ข้อตกลงเจนีวาหยุดชะงักลงเนื่องจากจีนยังคงจำกัดการส่งออกธาตุบางชนิด ทำให้รัฐบาลทรัมป์ ตอบโต้ด้วยการควบคุมการส่งออก ห้ามการส่งซอฟต์แวร์ออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ เครื่องยนต์ไอพ่นสำหรับเครื่องบินที่ผลิตในจีน และสินค้าอื่นๆ ไปยังจีน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่าเขามีความสุขมากกับข้อตกลงการค้านี้ โดยระบุผ่าน “ทรูธ โซเชียล” (Truth Social) แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของเขา ว่าข้อตกลงกับจีนเสร็จสิ้นแล้ว รอการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากประธานาธิบดีสีและตัวเขา และเสริมว่า “แม่เหล็กและธาตุหายากที่จำเป็นทั้งหมดจะถูกจัดหาโดยจีน ในทำนองเดียวกันสหรัฐจะจัดหาสิ่งที่ตกลงกันไว้ให้จีน […]

U.S.Embassy in Bagdad, Iraq

“ทรัมป์” สั่งถอนกำลังคนจากตะวันออกกลาง

วอชิงตัน 12 มิ.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เผยว่ากำลังถอนกำลังคนของสหรัฐบางส่วนออกจากตะวันออกกลาง เนื่องจากเป็นสถานที่ที่อาจเป็นอันตราย และย้ำว่าสหรัฐจะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ตอบข้อถามผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่นว่า ได้แจ้งให้ถอนกำลังคนของสหรัฐออกมาเพราะตะวันออกกลางอาจกลายเป็นสถานที่อันตราย และสิ่งที่จะลดอุณหภูมิในภูมิภาคนี้ได้ คือ อิหร่านจะต้องไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวในสหรัฐและอิรักว่า สหรัฐกำลังเตรียมอพยพเจ้าหน้าที่บางส่วนในสถานทูตสหรัฐประจำอิรัก และจะให้ครอบครัวของทหารเดินทางออกจากตะวันออกกลาง เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความมั่นคงมากยิ่งขึ้น กระทรวงต่างประเทศสหรัฐได้ปรับปรุงคำแนะนำการเดินทางทั่วโลกเมื่อเย็นวันพุธตามเวลาท้องถิ่นเพื่อสะท้อนถึงท่าทีล่าสุดของทางการว่า กระทรวงฯ มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนเดินทางออกจากภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า นายพีต เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมอนุญาตให้ครอบครัวทหารเดินทางออกจากที่ตั้งทั่วตะวันออกกลางได้อย่างสมัครใจ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในบาห์เรน อย่างไรก็ดี สถานทูตสหรัฐในคูเวตแจ้งว่า ยังคงเปิดทำการตามปกติ เช่นเดียวกับฐานทัพอากาศอัล อุไดด์ ในกาตาร์ ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศใหญ่ที่สุดของสหรัฐในภูมิภาคนี้และสถานทูตสหรัฐในกาตาร์ที่ยังทำการตามปกติ การถอนกำลังคนของสหรัฐออกจากตะวันออกกลางมีขึ้นในช่วงที่ความพยายามบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่านถึงทางตัน และสหรัฐมีข่าวกรองว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ผู้นำสหรัฐยอมรับว่า เริ่มมีความมั่นใจลดลงว่าอิหร่านจะยอมยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมตามความต้องการของสหรัฐ เขาขู่มาโดยตลอดว่า จะโจมตีอิหร่านหากการเจรจาล้มเหลว ด้านอิหร่านประกาศว่า หากอิหร่านตกเป็นเป้าโจมตี ก็จะแก้แค้นด้วยการโจมตีฐานทัพสหรัฐในตะวันออกกลาง ปัจจุบันสหรัฐมีฐานทัพอยู่ในอิรัก, คูเวต, กาตาร์, บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์.-814.-สำนักข่าวไทย

หนุ่มนามิเบียสร้างโทรศัพท์ที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ซิมการ์ด

วินด์ฮุก 12 มิ.ย. – ไซมอน ปีทรัส ชายหนุ่มจากทางเหนือของประเทศนามิเบีย ออกแบบโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ซิมการ์ด หรือแอร์ไทม์ (airtime) หรือปริมาณของบริการโทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้งานได้ โดยอุปกรณ์นี้สามารถโทรออกได้โดยใช้คลื่นความถี่วิทยุ ซึ่งก้าวข้ามเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบดั้งเดิมไปได้ทั้งหมด เขาเริ่มสร้างโทรศัพท์นี้ตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน โดยใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รีไซเคิล เขาเชื่อมต่อส่วนประกอบจากโทรศัพท์บ้านเก่า โทรทัศน์ และระบบวิทยุสื่อสารสองทาง (two-way radio system) เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้งานได้ ซึ่งสามารถสื่อสารโดยตรงกับวิทยุเครื่องอื่นๆ ผ่านคลื่นความถี่วิทยุคลื่นสั้น (shortwave frequencies) ไม่ต้องใช้ซิมการ์ด ไม่ต้องมีแผนบริการอินเทอร์เน็ต เรียกได้ว่าเป็นระบบสื่อสารอิสระอย่างแท้จริง โทรศัพท์เครื่องนี้ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติม ได้แก่ ทีวีขนาดเล็กในตัว ไฟแอลอีดี พัดลม และพอร์ตชาร์จยูเอสบี ทั้งหมดนี้ทำงานโดยวงจรที่เขาประกอบขึ้นเอง หนุ่มนักประดิษฐ์ผู้นี้ได้รับความสนใจจากสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อเขานำสิ่งประดิษฐ์ของตนไปจัดแสดงที่งานประกวดวิทยาศาสตร์ระดับชาติ เขาได้รับรางวัลชนะเลิศ และดึงดูดความสนใจจากสื่อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เรื่องราวของวัยรุ่นชาวนามิเบีย ที่สร้างโทรศัพท์ไร้ซิมจากการใช้วัสดุเหลือใช้จึงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วทางออนไลน์ แม้ว่าสิ่งประดิษฐ์ของเขาจะได้รับความสนใจและคำชื่นชมอย่างมากในช่วงแรก รวมถึงการชนะรางวัลในงานประกวดวิทยาศาสตร์และเป็นข่าวในสื่อต่างประเทศ แต่กระแสความสนใจและการยอมรับเหล่านั้นกลับไม่ได้เปลี่ยนเป็นการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม เช่น เงินทุน การลงทุน หรือการพัฒนาต่อยอดโครงการในระยะยาว ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการนำสิ่งประดิษฐ์ของเขาไปสู่การใช้งานจริงในวงกว้าง ปีทรัส ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย หลังจากจบมัธยมปลาย เขาใช้เวลาหลายปีกว่าจะสามารถสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้ในปี 2023 […]

Donald Trump

“ทรัมป์” พร้อมติดต่อสื่อสารกับ “คิม จองอึน”

วอชิงตัน 12 มิ.ย.- ผู้นำสหรัฐพร้อมจะเปิดการติดต่อสื่อสารกับผู้นำเกาหลีเหนืออีกครั้ง ขณะที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีมีแนวโน้มคลายความตึงเครียดลงหลังผู้นำคนใหม่ของเกาหลีใต้เข้ารับตำแหน่ง นางแคไรโลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังรอการตอบกลับของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ หลังจากที่สหรัฐได้ส่งจดหมายถึงนายคิมเพื่อที่จะฟื้นการติดต่อสื่อสารระหว่างกันอีกครั้ง ตามที่ผู้นำทั้งสองเคยติดต่อและพบปะกันเมื่อครั้งที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ด้านเว็บไซต์ข่าวในเกาหลีใต้ซึ่งเกาะติดความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนือรายงานว่า คณะผู้แทนเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ยังคงปฏิเสธที่จะรับจดหมายจากนายทรัมป์ที่ส่งถึงนายคิม ความพยายามของสหรัฐมีขึ้นหลังจากเกาหลีใต้ได้นายอี แจ มยอง เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งให้คำมั่นว่า จะเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนืออีกครั้ง และเมื่อวานนี้เกาหลีใต้ได้ระงับการเปิดเครื่องขยายเสียงที่เปิดเพลิงเคป๊อปและข่าวสารอื่น ๆ เข้าไปในฝั่งเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ดังกล่าว ต่อมาเกาหลีเหนือได้ยุติการเปิดเครื่องขยายเสียงที่หันลำโพงเข้ามาในฝั่งเกาหลีใต้ด้วยเช่นกัน  คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า ไม่ได้ยินเสียงจากลำโพงของเกาหลีเหนือแล้ว และว่ากองทัพกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของเกาหลีเหนืออยู่.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ธนาคารโลกชี้แผ่นดินไหวซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจถดถอยของเมียนมา

วอชิงตัน 12 มิ.ย. – ธนาคารโลกกล่าวในรายงานที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีว่า เศรษฐกิจที่กำลังประสบปัญหาของเมียนมาถูกคาดหมายว่าจะหดตัวลง ร้อยละ 2.5 เปอร์เซ็นต์ในปีงบประมาณ 2525/2526 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบที่รุนแรงจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปลายเดือนมีนาคม ธนาคารโลกระบุว่า ความเสียหายโดยตรงต่อทรัพย์สินและโครงสร้างพื้นฐานจากแผ่นดินไหวขนาด 7.7 นั้นอยู่ที่ประมาณ 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของเมียนมา โดยประมาณการว่าผลผลิตทางเศรษฐกิจจะลดลงประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์ จากระดับที่ควรจะเป็น หากไม่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ธนาคารโลกระบุว่า แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 17 ล้านคน โดยมี 9 ล้านคนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง รัฐบาลทหารเมียนมาระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า 3,700 ราย นางเมลินดา กู้ด ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเมียนมาของธนาคารโลก กล่าวในแถลงการณ์ว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและการพลัดถิ่นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ซ้ำเติมสภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการทดสอบความสามารถในการฟื้นตัวของชาวเมียนมาต่อไปอีก  ความพยายามในการฟื้นฟูประเทศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยประชากรกลุ่มเปราะบางที่สุด.-813.-สำนักข่าวไทย

นาวิกโยธินจะประจำการตามถนนในแอลเอภายในสองวัน   

ลอสแอนเจลิส 12 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าววันพุธว่า นาวิกโยธินสหรัฐจะเข้าร่วมกับกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ปฎิบัติหน้าที่ตามท้องถนนในนครลอสแอนเจลิสภายในสองวัน และจะได้รับอำนาจในการควบคุมตัวใครก็ตามที่ขัดขวางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในการบุกจับกุม หรือผู้ประท้วงที่เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง กองทัพสหรัฐกล่าวกล่าวว่า กองพันนาวิกโยธินจำนวน 700 นายได้เสร็จสิ้นการฝึกอบรมเฉพาะสำหรับภารกิจในลอสแอนเจลิส ซึ่งรวมถึงการลดระดับความรุนแรงและการควบคุมฝูงชน พวกเขาจะเข้าร่วมกับกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ภายใต้อำนาจของกฎหมายรัฐบาลกลางที่รู้จักกันในชื่อ “ไตเติ้ล 10” (Title 10) ที่ว่าด้วยเรื่องของ กองทัพตามประมวลกฎหมายของสหรัฐ ภายใน 48 ชั่วโมง โดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการปราบปรามพลเรือน แต่เพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่และทรัพย์สินของรัฐบาลกลาง โฆษกกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (Department of Homeland Security) กล่าวในแถลงการณ์ว่า หากผู้ก่อจลาจลคนใดโจมตีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและบังคับใช้กฎหมายศุลกากร หรือ ไอซ์ บุคลากรทางทหารมีอำนาจในการควบคุมตัวพวกเขาไว้ชั่วคราว จนกว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจะดำเนินการจับกุม เจ้าหน้าที่กล่าวว่า นาวิกโยธินเหล่านี้จะไม่บรรจุกระสุนจริงไว้ในปืนของพวกเขา แต่จะพกกระสุนจริงติดตัวไว้.-813.-สำนักข่าวไทย

Chinese J-15 warplane approaches Japanese P-3C patrol aircraft on June 8, 2025

ฝูงบินรบจีนบินเฉียดฝูงบินลาดตระเวนญี่ปุ่น

โตเกียว 12 มิ.ย.- ญี่ปุ่นแสดงความกังวลกรณีฝูงบินขับไล่ของจีนบินใกล้ฝูงบินลาดตระเวนของญี่ปุ่นอย่างผิดปกติ หลังจากญี่ปุ่นตรวจพบเรือบรรทุกเครื่องบินของจีน 2 ลำเดินเรือในมหาสมุทรแปซิฟิกพร้อมกันเป็นครั้งแรก นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงวันนี้ว่า ญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลและร้องขออย่างจริงจังต่อจีนให้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก ซึ่งหมายถึงกรณีที่เครื่องบินขับไล่ของจีนบินเฉียดเครื่องบินลาดตระเวนของญี่ปุ่นในระยะใกล้ที่สุดถึง 45 เมตร กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงเมื่อวานนี้ว่า เครื่องบินขับไล่เจ-15 (J-15) จากเรือบรรทุกเครื่องบินซานตงของจีนได้บินไล่ตามเครื่องบินลาดตระเวนพี-3ซี (P-3C) ของญี่ปุ่นเป็นเวลานาน 40 นาทีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน จากนั้นในวันถัดมาเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีกและเป็นการบินไล่ตามนานถึง 80 นาที โดยบินตัดหน้าเครื่องบินญี่ปุ่นในระยะห่างเพียง 900 เมตร เครื่องบินพี-3ซี ของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลบนเกาะโอกินาวะอยู่ระหว่างการลาดตระเวนน่านน้ำสากลในมหาสมุทรแปซิฟิก การที่เครื่องบินกองทัพจีนบินเข้ามาเฉียดอย่างผิดปกตินี้อาจทำให้เกิดการชนกันได้ อย่างไรก็ดี โฆษกสำนักงานคณะเสนาธิการร่วมของญี่ปุ่นไม่ตอบข้อถามว่า เป็นเครื่องบินลำเดิมในทั้ง 2 เหตุการณ์หรือไม่ ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่นแจ้งเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนว่า เห็นเรือบรรทุกเครื่องบินของจีน 2 ลำ คือ ซานตงและเหลียวหนิงปฏิบัติภารกิจในมหาสมุทรแปซิฟิกพร้อมกันเป็นครั้งแรก ส่งสัญญาณว่าจีนมีเจตนาที่จะขยายอำนาจเกินพรมแดนของตนเอง ขณะที่รัฐบาลจีนยืนยันว่า เป็นการฝึกซ้อมตามปกติที่ไม่ได้เจาะจงประเทศใดเป็นพิเศษ.-814.-สำนักข่าวไทย  

U.S. Treasury Secretary Scott Bessent testifies during a hearing before the Senate Appropriations Committee

สหรัฐอาจขยายการพักใช้ภาษี 90 วันให้คู่ค้าหลัก

วอชิงตัน 12 มิ.ย.- รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐอาจขยายการพักใช้ภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันให้แก่คู่ค้าหลักที่ยังคงเจรจากับสหรัฐอย่างจริงใจ ขณะที่ผู้นำสหรัฐระบุว่า ไม่มีเวลาเจรจากับประเทศที่มีความสำคัญน้อย นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณในวุฒิสภาเมื่อวานนี้ เรื่องรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเมื่อการพักใช้ภาษีศุลกากร 90 วันจะสิ้นสุดลงหลังวันที่ 8 กรกฎาคม นายเบสเซนต์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงมากว่า สำหรับประเทศและกลุ่มการค้าอย่างสหภาพยุโรปหรืออียูที่กำลังเจรจากับสหรัฐอย่างจริงใจ สหรัฐจะขยายเวลาการพักใช้ภาษีศุลกากร 90 วันออกไปเพื่อเดินหน้าการเจรจาอย่างจริงใจต่อไป แต่หากไม่เจรจา สหรัฐก็จะไม่ขยายเวลาให้ เขาย้ำด้วยว่า รัฐบาลกำลังเจรจาการค้ากับคู่ค้าสำคัญอยู่ 18 คู่ค้า ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศใช้ภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่เขาระบุว่าเป็นวันปลดแอก ตอบข้อถามสื่อในเรื่องนี้ว่า ยังไม่คิดว่าจำเป็นต้องขยายการพักใช้ภาษี เขาย้ำว่า รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดลำดับความสำคัญที่มุ่งเจรจากับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และคู่ค้าหลักอื่น ๆ เพราะไม่มีเวลาที่จะเจรจากับอีกมากกว่า 150 ประเทศที่มีความสำคัญน้อยต่อสหรัฐ ดังนั้นสหรัฐจะเป็นฝ่ายส่งสารไปยังประเทศเหล่านี้ภายใน 1 สัปดาห์ครึ่งถึง 2 สัปดาห์ว่า ข้อตกลงการค้าของสหรัฐจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และประเทศเหล่านี้สามารถตอบรับหรือปฏิเสธสารของสหรัฐได้.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือย้ำจะอยู่เคียงข้างรัสเซียเสมอ

โซล 12 มิ.ย. – นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือกล่าวในข้อความที่ส่งถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียว่า เกาหลีเหนือจะยืนหยัดเคียงข้างรัสเซียเสมอ สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือ เคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานวันนี้ว่า นายคิมได้กล่าวในข้อความแสดงความยินดีเนื่องในวันชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นวันเฉลิมฉลองการก่อตั้งสหพันธรัฐรัสเซียโดยเรียกประธานาธิบดีปูตินว่า “สหายที่รักที่สุด” และยกย่องความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศว่าเป็นความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างสหายร่วมรบ นายคิมยังกล่าวด้วยว่า เกาหลีเหนือและตัวเขามีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีและรัสเซียอย่างมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุวันนี้ว่า เกาหลีเหนือดูเหมือนจะยุติการเปิดลำโพงโฆษณาชวนเชื่อบริเวณชายแดนที่มุ่งเป้าไปยังเกาหลีใต้แล้ว  คณะเสนาธิการร่วมระบุว่า ไม่ได้ยินการกระจายเสียงจากลำโพงของเกาหลีเหนือในวันพฤหัสบดี และกองทัพเกาหลีใต้กำลังติดตามกิจกรรมของเกาหลีเหนืออยู่อย่างต่อเนื่อง เกาหลีใต้ได้ระงับการกระจายเสียงจากลำโพงของตนเองใกล้ชายแดนที่พุ่งเป้าไปยังเกาหลีเหนือเมื่อวันพุธ หลังจากที่ได้กลับมาเปิดการกระจายเสียงโฆษณาชวนเชื่อและเพลงป็อปเมื่อปีที่แล้ว ในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดกับเพื่อนบ้านเพิ่มสูงขึ้น ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง ของเกาหลีใต้ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนนี้ ให้คำมั่นว่าจะรื้อฟื้นการเจรจากับเกาหลีเหนือ ได้สั่งการให้ดำเนินการหยุดการกระจายเสียงเพื่อคลี่คลายความตึงเครียด.-813.-สำนักข่าวไทย

‘ไบรอัน วิลสัน’ นักร้องนำ-ผู้ก่อตั้งวง ‘เดอะ บีช บอยส์’ เสียชีวิตแล้ว

ลอสแอนเจลิส 12 มิ.ย. – ไบรอัน วิลสัน นักร้องนำชื่อดัง และผู้ก่อตั้งวง “เดอะ บีช บอยส์” (The Beach Boys) วงดนตรีที่ได้ชื่อว่าโด่งดังที่สุดวงหนึ่งในอเมริกาและของโลก ถึงแก่กรรมด้วยวัย 82 ปี ครอบครัวของ วิลสัน ออกแถลงการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์เมื่อวานนี้ ว่า ครอบครัวเสียใจอย่างมากที่จะแจ้งข่าวว่า วิลสัน ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 82 ปี ขอให้ทุกคนเคารพความเป็นส่วนตัวในช่วงที่สมาชิกในครอบครัวกำลังเศร้าโศกเสียใจต่อความสูญเสียครั้งนี้ โดยจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิต แต่วิลสันถึงแก่กรรมเพียง 1 ปีเศษ หลังจาก เมลินดา เลดเบตเตอร์ ภรรยาคนที่สองซึ่งใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่ปี 1995 ถึงแก่กรรมเมื่อต้นปีที่แล้วด้วยวัย 77 ปี ไบรอัน วิลสัน เกิดขึ้นเมืองฮอว์ธอร์น รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 1942 เขาก่อตั้งวงดนตรี The Beach Boys ร่วมกับน้องชาย 2 คน คือ […]

1 22 23 24 25 26 5,489
...