red zone in Surin

สื่อจีนสำรวจสถานการณ์เหตุปะทะใน จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 27 ก.ค.- สื่อทางการจีนลงพื้นที่สำรวจสถานการณ์ในจังหวัดสุรินทร์ของไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็น (CGTN) ของจีนรายงานว่า เหตุปะทะที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ได้ทำให้กิจกรรมทางการค้าในจังหวัดสุรินทร์ที่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ยุติลงอย่างสิ้นเชิง และทำให้ชาวบ้านต้องไปหลบภัยในบังเกอร์ ทีมข่าวของซีจีทีเอ็นตระเวนสำรวจและบันทึกสภาพบ้านเมืองที่เงียบเหงาเมื่อวันเสาร์ และรายงานว่า ยังคงได้ยินเสียงระเบิดดังต่อเนื่อง จุดผ่านแดนที่ปกติเต็มไปด้วยผู้คนและรถบรรทุกสินค้าในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะนี้กลายเป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งหมายถึงพื้นที่เสี่ยงอันตราย พร้อมกับสัมภาษณ์ชาวบ้านที่หลบภัยในบังเกอร์แห่งหนึ่งว่า กินนอนในบังเกอร์มา 4 วัน 3 คืนแล้วนับจนถึงวันเสาร์ สื่อทางการจีนอ้างการเปิดเผยของนายวิรัตน์ เศรษฐวิพัฒนชัย ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชาในจังหวัดนี้มีมูลค่าเดือนละ 300 ล้านบาท การค้าเหล่านี้หายไปตั้งแต่มีการปิดด่านเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม หลายคนยังชีพด้วยการค้าข้ามพรมแดน  จึงไม่มีงานและไม่มีรายได้.-814.-สำนักข่าวไทย  

Cambodia says it agrees with Trump's demands for immediate, unconditional ceasefire

กัมพูชาย้ำตกลงหยุดยิงและอ้างไทยยิงใส่หลายจุดเช้านี้

พนมเปญ 27 ก.ค.- รัฐบาลและกองทัพกัมพูชาแถลงย้ำเนื้อหาของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตเรื่องตกลงหยุดยิงตามที่ผู้นำสหรัฐเสนอ และได้อ้างว่าไทยยิงใส่กัมพูชาหลายจุดในเช้าวันนี้ โฆษกรัฐบาลกัมพูชากล่าวในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นรายวัน นับตั้งแต่เกิดการปะทะกันบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า นายฮุน มาเนตโพสต์ได้ประกาศชัดเจนในเฟซบุ๊กช่วงเช้าวันนี้ว่า กัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเรื่องทั้งสองประเทศหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชากล่าวในการแถลงข่าวเดียวกันว่า ช่วงเวลา 02-04.30 น.วันนี้ ทหารไทยได้ยิงปืนใหญ่ไปยังพื้นที่ของปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาเมือนควาย จากนั้นในช่วง 06.00 น.ทหารบกของไทยได้โจมตีที่ตั้งของภูเขาผี จังหวัดโพธิสัตว์ ด้านกองทัพไทยแถลงว่า กัมพูชาได้ยิงเข้ามาในหลายพื้นที่ รวมถึงพื้นที่ใกล้บ้านเรือนพลเรือน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ของไทยเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า มีการยิงปืนใหญ่เข้ามาหลายลูก ทำให้บ้านเรือนเสียหายและปศุสัตว์ล้มตาย รอยเตอร์รายงานด้วยว่า การปะทะระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 13 ปี ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีคนเสียชีวิตรวมแล้วมากกว่า 30 คน และต้องอพยพออกจากบ้านเรือนมากกว่า 130,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย

Aid trucks move towards Gaza from Egypt's Rafah border crossing

ส่งความช่วยเหลือเข้ากาซาที่ถูกจำกัดมาหลายเดือน

กาซา 27 ก.ค.- ขบวนรถบรรทุกขนส่งสิ่งของช่วยเหลือจากฝั่งอียิปต์มุ่งหน้าเข้าสู่ฉนวนกาซาแล้วในวันนี้  หลังจากนานาชาติเตือนเรื่องภาวะอดอยากกำลังแพร่ขยาย เนื่องจากอิสราเอลจำกัดการลำเลียงสิ่งของเข้ากาซา ขณะที่อิสราเอลได้เริ่มหย่อนสิ่งของช่วยเหลือให้ทางอากาศเมื่อวานนี้ สถานีโทรทัศน์อัล กาเฮรานิวส์ สังกัดทางการอียิปต์รายงานว่า ขบวนรถบรรทุกขนส่งสิ่งของช่วยเหลือเริ่มเคลื่อนไปที่ด่านคาราม อาบู ซาเลม ในภาษาอาหรับหรือด่านเคเรม ชาลอม ในภาษาฮีบรู และข้ามเข้าไปพื้นที่ตอนใต้ของกาซา เพื่อนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้แก่ชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเผชิญภาวะอดอยาก หลังจากนานาชาติกดดันมาหลายเดือนและองค์กรบรรเทาทุกข์เตือนเรื่องวิกฤติความอดอยากที่กำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางกับผู้คนในกาซาที่มีอยู่ทั้งหมด 2.2 ล้านคน เนื่องจากอาหารใกล้หมดตั้งแต่อิสราเอลสั่งห้ามส่งสิ่งของช่วยเหลือทั้งหมดเข้าไปในกาซาเมื่อเดือนมีนาคม ก่อนผ่อนปรนในเดือนพฤษภาคมแต่ยังคงมีมาตรการจำกัดเข้มงวด ขณะเดียวกันกองทัพอิสราเอลได้เผยแพร่คลิปวีดิโอบันทึกภาพเครื่องบินใช้ปฏิบัติการหย่อนสิ่งของช่วยเหลือทางอากาศในกาซาเมื่อช่วงกลางดึกวันเสาร์ และภาพกล่องบรรจุสิ่งของช่วยเหลือติดร่มชูชีพทยอยหย่อนลงสู่พื้นดิน ภายในกล่องบรรจุแป้ง น้ำตาลและอาหารกระป๋อง กองทัพอิสราเอลระบุในแถลงการณ์ว่า ปฏิบัติการนี้เป็นความร่วมมือกับองค์กรความช่วยเหลือสากล และย้ำยืนยันว่าไม่มีภาวะอดอยากในฉนวนกาซา เรื่องนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อผิด ๆ ของกลุ่มฮามาส ที่ผ่านมาอิสราเอลได้ยินยอมให้มีการลำเลียงอาหารเข้าไปในกาซาอย่างเพียงพอ แต่สหประชาชาติหรือยูเอ็นเป็นฝ่ายล้มเหลวในการแจกจ่าย ด้านยูเอ็นแย้งว่า ได้ทำอย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ภายใต้มาตรการเข้มงวดของอิสราเอล ต่อมากองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า แจ้งเวลาและสถานที่ที่จะพักกิจกรรมทางทหารในกาซาทั้งหมด 3 แห่ง เพื่อปกป้องพลเรือนและสร้างระเบียงมนุษยธรรม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

Mahathir Mohamad joins rally against Anwar Ibrahim

ชาวมาเลเซียชุมนุมไล่นายกฯ

กัวลาลัมเปอร์ 27 ก.ค.- ชาวมาเลเซียจำนวนมากรวมตัวชุมนุมในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ขับไล่นายอันวาร์ อิบราฮิม พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่พอใจปัญหาค่าครองชีพสูง และการที่เขาไม่สามารถปฏิรูปได้ตามที่หาเสียง ผู้ชุมนุมที่มีไม่ต่ำกว่า 18,000 คนตามการประเมินของตำรวจ รวมตัวกันในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อวานนี้  เพื่อเรียกร้องให้นายอันวาร์ลาออกจากตำแหน่ง ในช่วงที่ประชาชนมีความไม่พอใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากปัญหาค่าครองชีพสูง และข้อกล่าวหาว่าเขาล้มเหลวในการปฏิรูปตามที่เคยสัญญาไว้ ผู้ประท้วง ซึ่งส่วนใหญ่สวมเสื้อยืดสีดำและผ้าโพกศีรษะที่มีข้อความเรียกร้องให้อันวาร์ก้าวลงจากตำแหน่ง เดินขบวนผ่านใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ แล้วไปรวมตัวกันที่จัตุรัสเมอร์เดกา เพื่อฟังคำปราศรัยของผู้นำฝ่ายค้านระดับสูง รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด ซึ่งเพิ่งมีอายุครบ 100 ปีเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายมหาเธร์กล่าวหานายอันวาร์ว่า ใช้ตำแหน่งในทางมิชอบเพื่อดำเนินคดีกับคู่แข่งทางการเมือง เป็นข้อกล่าวหาที่นายอันวาร์เคยปฏิเสธมาก่อน อันวาร์ วัย 77 ปี ชูนโยบายปฏิรูปในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 และชนะเลือกตั้งได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาลเซีย ขณะนี้เขากำลังเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ที่มุ่งเพิ่มรายได้ของรัฐบาล รวมถึงการขยายภาษีการขายและบริการและการแก้ไขเงินอุดหนุน ซึ่งชาวบ้านและนักวิเคราะห์กังวลว่าอาจนำไปสู่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่พุ่งสูงขึ้น.-815(814).-สำนักข่าวไทย

Hun Manet speaks with Trump

กัมพูชาพร้อมหยุดยิงหลัง “ทรัมป์“ กดดัน

พนมเปญ 27 ก.ค.- นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ขานรับข้อเสนอผู้นำสหรัฐพร้อมหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขกับไทย ด้านนักวิเคราะห์ชี้สหรัฐอาจถูกมองไม่ดี หากทั้ง 2 ประเทศไม่ได้ข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Hun Manet ว่า เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับความขัดแย้งทางอาวุธในพื้นที่ชายแดนกัมพูชาและไทย นายทรัมป์ได้แสดงความประสงค์ที่จะไม่เห็นสงครามหรือการสู้รบที่จะส่งผลให้เกิดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจำนวนมากทั้งสองฝ่ายทั้งทางทหารและพลเรือน และต้องการให้มีการหยุดยิงและเกิดสันติภาพระหว่างสองประเทศโดยทันที นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า ได้แจ้งว่ากัมพูชาเห็นด้วยกับคำขอให้มีการหยุดยิงโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไขระหว่างกองทัพทั้งสอง และได้มอบหมายให้นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ดำเนินงานนี้ต่อไป เพื่อนำหลักการที่ตกลงกันไว้ไปปฏิบัติอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถยุติการเสียชีวิตและการบาดเจ็บของทหารและพลเรือนทั้งสองฝ่าย ผู้นำกัมพูชาโพสต์ดังกล่าวหลังจากผู้นำสหรัฐโพสต์ผ่านสื่อออนไลน์ Truth Social ของตนเองว่า ได้โทรศัพท์สนทนากับผู้นำไทยและกัมพูชาเพื่อเรียกร้องให้ยุติการสู้รบ และบังเอิญว่าสหรัฐกำลังเจรจาการค้ากับทั้งสองประเทศนี้ ดังนั้นสหรัฐจะไม่ทำข้อตกลงกับประเทศใด หากทั้งสองฝ่ายกำลังสู้รบกันอยู่ จากนนั้นได้โพสต์เพิ่มเติมว่า ผู้นำของกัมพูชาและไทยได้ตกลงที่จะพบกันทันทีเพื่อหาข้อยุติการหยุดยิงโดยเร็ว ซึ่งเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น และสันติภาพอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาตั้งตารอที่จะสรุปข้อตกลงการค้ากับทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ดี นายทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเจรจาหยุดยิงที่เขาระบุว่าทั้งสองประเทศตกลงจะจัดขึ้น เช่นเดียวกับทำเนียบขาวยังไม่ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับกำหนดการและสถานที่สำหรับการเจรจา ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทยและสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ นายทรัมป์เข้ามาแสดงบทบาทต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ก่อนที่มาตรการภาษีศุลกากรที่สหรัฐประกาศใช้กับทั้ง 2 ประเทศจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

AI ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย-จีน

26 ก.ค. – ปัจจุบันนี้ไทยและจีน มีความร่วมมือด้าน AI กันในหลายภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แรงงานไทยมีทักษะด้านการใช้ปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น ติดตามจากคอลัมน์ “Silk Road Tide – เส้นทางสายไหม สายใยไทยจีน” .-สำนักข่าวไทย #SilkRoadTide #GreenNanning

กัมพูชาเผยมีผู้เสียชีวิต 13 ราย จากเหตุปะทะกับไทย

พนมเปญ – กัมพูชาแถลงวันนี้ว่า ทหาร 5 นาย และพลเรือน 8 คน เสียชีวิตจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เข้าสู่วันที่สามในวันนี้ นางมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน และผู้ที่ต้องพลัดถิ่นมากกว่า 130,000 คน จากการปะทะครั้งรุนแรงที่สุดระหว่างกัมพูชากับประเทศไทย ในรอบ 13 ปี ส่วนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ประธานกลุ่มอาเซียน กล่าวว่า เขาจะยังคงผลักดันข้อเสนอหยุดยิงต่อไป โดยกัมพูชาได้ให้การสนับสนุนแผนของนายอันวาร์ ขณะที่ประเทศไทยกล่าวว่าเห็นด้วยในหลักการ สำนักข่าวเบอร์นามา ของทางการมาเลเซีย รายงานว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงใช้อาวุธต่อกัน โดยนายอันวาร์ กล่าวว่า เขาขอให้รัฐมนตรีต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศของประเทศที่เกี่ยวข้อง และหากเป็นไปได้ เขาจะติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายด้วยตนเอง อย่างน้อยก็เพื่อหยุดการปะทะกัน.-813.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐยังเปิดกว้างสำหรับการติดต่อกับผู้นำเกาหลีเหนือ

วอชิงตัน 26 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวของสหรัฐกล่าวในวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ยังคงเปิดกว้างสำหรับการติดต่อกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ เพื่อให้เกาหลีเหนือ “ปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์” หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐประกาศมาตรการหลายอย่าง เพื่อขัดขวางแผนการสร้างรายได้ที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือเมื่อวันก่อน รัฐบาลของนายทรัมป์ได้เปิดเผยมาตรการหลายอย่างต่อเกาหลีเหนือเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการเสนอเงินรางวัลสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับพลเมืองเกาหลีเหนือ 7 คน ที่เกี่ยวข้องกับแผนการที่เชื่อกันว่าเป็นการระดมทุนสำหรับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยกับสำนักข่าวยอนฮับ ของเกาหลีใต้ ผ่านทางอีเมลว่า ในช่วงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ดำรงตำแหน่งในวาระแรก เขาจัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ 3 ครั้ง กับนายคิม ซึ่งช่วยให้คาบสมุทรเกาหลีมีเสถียรภาพและบรรลุข้อตกลงระดับผู้นำเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า นายทรัมป์ยังคงรักษาวัตถุประสงค์เหล่านั้นไว้และยังคงเปิดกว้างสำหรับการมีส่วนร่วมกับนายคิม เพื่อบรรลุการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ของเกาหลีเหนือ ขณะนี้มีความคาดหวังว่านายทรัมป์อาจพยายามกลับมาสานต่องานการทูตส่วนตัวกับนายคิม ซึ่งนำไปสู่การประชุมสุดยอดแบบตัวต่อตัวสามครั้ง ได้แก่ ครั้งแรกที่สิงคโปร์ในปี 2018 ครั้งที่ 2 ที่กรุงฮานอยของเวียดนาม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 และครั้งที่ 3 ที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งเป็นเขตปลอดทหารระหว่างเกาหลี ในเดือนมิถุนายน 2019 เมื่อเดือนที่แล้ว นายทรัมป์กล่าวว่าเขาจะ “แก้ไขความขัดแย้ง” กับเกาหลีเหนือหากมี ซึ่งเป็นคำกล่าวที่เพิ่มความคาดหมายว่าเขาอาจต้องการเริ่มต้นการเจรจากับนายคิมอีกครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเตรียมหารือการค้ากับ ‘ทรัมป์’

สกอตแลนด์ 26 ก.ค. – นางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน (Ursula von der Leyen) ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป จะพบกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในวันอาทิตย์ ที่สกอตแลนด์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่และนักการทูตของสหภาพยุโรป หรือ อียู (EU) ระบุว่าพวกเขาคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงการค้ากรอบหลักระหว่างสหรัฐกับอียูได้ในสุดสัปดาห์นี้ จ้าหน้าที่และนักการทูตของสหภาพยุโรปกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะรวมถึง ภาษีพื้นฐานร้อยละ 15 สำหรับสินค้าจากอียูทั้งหมดที่ส่งไปยังสหรัฐและอาจรวมถึง ภาษีร้อยละ 50 สำหรับเหล็กและอลูมิเนียมจากยุโรป นางฟ็อน แดร์ ไลเอิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า หลังจากได้พูดคุยทางโทรศัพท์ที่ดีกับประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะพบกันที่สกอตแลนด์ในวันอาทิตย์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และวิธีการที่จะรักษาความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์นี้เอาไว้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายทรัมป์กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ 50-50 หรืออาจจะน้อยกว่านั้น ที่สหรัฐจะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหภาพยุโรป โดยเสริมว่าอียูต้องการทำข้อตกลงอย่างมาก นายทรัมป์มีกำหนดการไปเล่นกอล์ฟที่สนามกอล์ฟของเขาในสกอตแลนด์ จากนั้นจะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษในวันจันทร์.-813.-สำนักข่าวไทย

ไทยชี้แจงสถานการณ์ชายแดนต่อยูเอ็นเอสซี

นิวยอร์ก, 26 ก.ค. – คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอสซี (UNSC) เปิดประชุมส่วนตัวเมื่อวานนี้ ที่สำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ค ภายใต้หัวข้อวาระ “ภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ” นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรของประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ได้แถลงชี้แจงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างละเอียด โดยเน้นย้ำถึงการกระทำที่ยั่วยุของกัมพูชา และความจำเป็นที่ไทยต้องป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ นายเชิดชาย เริ่มต้นด้วยการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ต้องมากล่าวต่อที่ประชุมภายใต้สถานการณ์ที่ร้ายแรงที่สุด โดยระบุว่า การรุกรานที่ไม่ได้เกิดจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชานั้น คุกคามอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และที่สำคัญที่สุดคือชีวิตพลเรือนผู้บริสุทธิ์ของประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มุ่งมั่นในสันติภาพ เอกอัครราชทูตไทยเน้นย้ำว่า ประเทศไทยถือว่ากัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดและเป็นสมาชิกในครอบครัวอาเซียนเสมอมา ไทยได้ให้การสนับสนุนกระบวนการสันติภาพ การสร้างชาติ และการพัฒนาของกัมพูชามาโดยตลอดนับตั้งแต่การได้รับเอกราชในปี 2496 แต่ก็ยอมรับว่าในฐานะเพื่อนบ้านย่อมมีความท้าทายและความไม่เห็นด้วย ซึ่งควรแก้ไขด้วยการเจรจา ไม่ใช่ความรุนแรง นายเชิดชาย กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะเล็กน้อยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม โดยระบุว่ากองกำลังไทยกำลังลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย และถูกบังคับให้ต้องป้องกันตนเองจากการยิงที่ไม่ได้มาจากการยั่วยุ จากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งไทยเชื่อว่าการแก้ไขปัญหาผ่านช่องทางทวิภาคีเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด และได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญแล้ว อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ได้บานปลายขึ้นเมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ทหารของกองทัพไทยเหยียบทุ่นระเบิดในขณะที่ลาดตระเวนตามปกติในเขตแดนไทย […]

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแสดงจุดยืนของไทย

กรุงเทพ 26 ก.ค. – นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) ชี้แจงสถานการณ์ความจริงที่เกิดขึ้น ว่า ”การปะทะกันบริเวณชายแดนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นี้ มีรายงานว่าฝ่ายไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน เป็นพลเรือน 13 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 2 คน และทหารอีก 1 นาย“ ”แม้ดูเหมือนว่า สถานการณ์เช้านี้ จะดีขึ้นกว่าเมื้อวาน แต่ไทยก็ต้องปกป้องอธิปไตยในเขตแดน และประชาชนของตน“ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบ : “ ไทยได้ติดต่อไปยังกัมพูชาแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุตึงเครียดขึ้น เรายืนยันมาตลอดว่าไทยต้องการหาทางออกให้สถานการณ์นี้ด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกระดับทวิภาคีซึ่งมีหลากหลายทางให้นำมาใช้แก้ปัญหา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า กัมพูชาไม่ตอบสนองแนวคิดนี้ในเชิงบวก ในทางตรงกันข้าม เมื่อวานนี้กัมพูชากลับยิงใส่กองกำลังของไทยทำให้เกิดความสูญเสียอย่างที่เห็น

1 21 22 23 24 25 5,530
...