กรุงเทพ 26 ก.ค. – นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอัลจาซีรา (Al Jazeera) ชี้แจงสถานการณ์ความจริงที่เกิดขึ้น ว่า
”การปะทะกันบริเวณชายแดนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นี้ มีรายงานว่าฝ่ายไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 คน เป็นพลเรือน 13 คน ในจำนวนนี้ เป็นเด็ก 2 คน และทหารอีก 1 นาย“
”แม้ดูเหมือนว่า สถานการณ์เช้านี้ จะดีขึ้นกว่าเมื้อวาน แต่ไทยก็ต้องปกป้องอธิปไตยในเขตแดน และประชาชนของตน“
- เมื่อพิธีกรถามว่า ไทยได้หารือโดยตรงกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อลดความขัดแย้งและเหตุปะทะหรือเปล่า และถ้าได้สื่อสารแล้ว ผลออกมาอย่างไร?
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศตอบ :
“ ไทยได้ติดต่อไปยังกัมพูชาแล้ว นับตั้งแต่เกิดเหตุตึงเครียดขึ้น เรายืนยันมาตลอดว่าไทยต้องการหาทางออกให้สถานการณ์นี้ด้วยสันติวิธี ผ่านกลไกระดับทวิภาคีซึ่งมีหลากหลายทางให้นำมาใช้แก้ปัญหา แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า กัมพูชาไม่ตอบสนองแนวคิดนี้ในเชิงบวก ในทางตรงกันข้าม เมื่อวานนี้กัมพูชากลับยิงใส่กองกำลังของไทยทำให้เกิดความสูญเสียอย่างที่เห็น
- อีกข้อความหนึ่งในการสื่อสารให้สัมภาษณ์ คือ ไทยพร้อมหากจะมีประเทศที่ 3 มาช่วยเป็นคนกลางเข้ามาไกล่เกลี่ย และประตูยังเปิดเสมอเพื่อการเจรจากับกัมพูชา ดังนั้นตอนนี้ ไทยรอการสนองตอบในทางบวกจากกัมพูชา และถ้าหากจะพูดถึงใครก็ตามที่จะเข้ามาช่วยเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย .. “สมาคมประชาชาติแห่งภูมิภาคเอเชียตัวนออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน” เป็นฝ่ายที่เหมาะสมที่สุดที่จะช่วยหาทางออกให้กับปัญหาความขัดแย้งไทย-กัมพูชาได้ .. มาเลเซีย เป็นประเทศหนึ่งที่ติดต่อเข้ามาในฐานะประธานอาเซียน และเมื่อวานนี้ รองนายกฯ ของไทย ก็ได้โทรศัพท์หารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อดำเนินความพยายามหาทางออกแล้ว.-810.-สำนักข่าวไทย