Hun Sen in vdo call

“ฮุน เซน” ยืนยันไม่หนีออกจากกัมพูชา

พนมเปญ 24 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่า ยังอยู่ในกัมพูชา หลังจากมีข่าวว่าเขาหนีออกนอกประเทศไปจีน นายฮุน เซน โพสต์เป็นภาษาเขมรในหน้าเฟซบุ๊กชื่อ Samdech Hun Sen of Cambodia ที่มีผู้ติดตาม 14 ล้านคน และไม่ได้ติดตามใคร เมื่อช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยอ้างว่า หนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งรายงานว่า เขาเดินทางออกจากกัมพูชาไปจีน เขาขอยืนยันว่า ขณะนี้กำลังประชุมทางวิดีโอกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารในทุกระดับ เพื่อสู้รบกับไทย เขาไม่ได้วิ่งหนี ดังนั้นขอให้เพื่อนร่วมชาติอย่าได้กังวล นายฮุน เซนโพสต์ว่า เขามาประชุมเรื่องนี้ตั้งแต่แม่ทัพภาค 2 ของไทยประกาศจะปิดทางเข้าปราสาทตาเมือนธม พร้อมกับลงภาพตนเองขณะกำลังคุยโทรศัพท์และประชุมทางวิดีโอหลายภาพ.-814.-สำนักข่าวไทย

U.S.Embassy's statement on fighting on the Thailand-Cambodia border with border

สถานทูตสหรัฐเตือนชาวอเมริกันที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยแจ้งเตือนพลเรือนอเมริกันที่อาศัยหรือเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของไทย หลังเกิดเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐและสถานกงสุลในประเทศไทย แจ้งเตือนด้วยหัวเรื่อง “การสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา” ว่า สถานทูตฯ ได้รับรายงานในวันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) เรื่องการสู้รบ ซึ่งรวมถึงการยิงจรวดและยิงปืนใหญ่ ระหว่างกองกำลังกัมพูชากับไทย ตามแนวพรมแดน มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และรัฐบาลไทยได้สั่งให้อพยพประชาชนในบางพื้นที่ ดังนั้น ขอให้พลเรือนอเมริกันที่อาศัยหรือเดินทางใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานความมั่นคงของไทย และขอข้อมูลล่าสุดจากทางการท้องถิ่นของไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

ชี้จีน-อียูควรหนุนสร้างเสถียรภาพโลกผ่านความสัมพันธ์ทวิภาคี

ปักกิ่ง 24 ก.ค. — ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบปะกับอันโตนิโอ คอสตา ประธานคณะมนตรียุโรป และอัวร์ซูลา ฟอนแดร์ ไลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งของจีนเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดจีน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 25 โดยนายสี เรียกร้องให้จีนและสหภาพยุโรปมีบทบาทสร้างเสถียรภาพและความแน่นอนให้แก่โลกมากยิ่งขึ้น ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปที่มั่นคงและแข็งแรง สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายสี ชี้ว่าปี 2025 ถือเป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-สหภาพยุโรป และวาระครบรอบ 80 ปี การก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ พร้อมระบุว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหภาพยุโรปดำเนินมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์  จีนและสหภาพยุโรปบรรลุผลลัพธ์ด้านการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือ อีกทั้งส่งมอบความสำเร็จร่วมกันและเอื้อประโยชน์ต่อทั่วโลกตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา โดยข้อสรุปและแนวคิดสำคัญที่ได้รับมาคือทั้งสองฝ่ายควรเคารพกันและกัน สงวนจุดต่างแสวงจุดร่วม ยึดมั่นในความเปิดกว้างและความร่วมมือ และแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน นายสี กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้เป็นหลักการสำคัญและเป็นทิศทางที่ถูกต้องสำหรับความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรปในอนาคต ผู้นำจีนและสหภาพยุโรปควรแสดงวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำอีกครั้ง และเลือกดำเนินกลยุทธ์อย่างถูกต้องที่จะสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชนและยืนหยัดผ่านบททดสอบแห่งกาลเวลา ขณะเผชิญการเปลี่ยนผ่านของโลกที่รวดเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบศตวรรษ และสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน ผู้นำจีนย้ำถึงความสำคัญของจีนและสหภาพยุโรปซึ่งต่างเป็นขุมพลังสร้างสรรค์สำหรับพหุภาคี การเปิดกว้าง และความร่วมมือ โดยชี้ว่าทั้งสองฝ่ายควรเสริมสร้างการสื่อสาร ยกระดับความไว้วางใจ และกระชับความร่วมมือท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่สลับซับซ้อนและท้าทายกว่าที่เคย เพื่อมอบเสถียรภาพและความแน่นอนให้กับโลกมากขึ้นผ่านความสัมพันธ์จีน-สหภาพยุโรปที่มั่นคงและแข็งแรง  […]

เครื่องบินรัสเซียตกในตะวันออกไกล-คาดเสียชีวิตทั้งลำ

มอสโก 24 ก.ค. – เครื่องบินโดยสารอันโตนอฟ เอเอ็น-24 (Antonov An-24) ที่มีคนอยู่บนเครื่องทั้งหมดประมาณ 50 คน ได้ตกลงในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย ในวันนี้ และข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่าทุกคนบนเครื่องบินเสียชีวิตทั้งหมด เฮลิคอปเตอร์พบซากเครื่องบินที่ไฟลุกไหม้ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารในยุคโซเวียต อายุเกือบ 50 ปี อยู่บนพื้นดินแล้ว และทีมกู้ภัยกำลังเร่งรุดไปยังที่เกิดเหตุ เครื่องบินลำนี้มีหมายเลขที่บริเวณหางเครื่องบินที่ระบุว่าสร้างขึ้นในปี 1976 และดำเนินการโดยสายการบิน “อังการา” (Angara) ที่มีสำนักงานอยู่ในเขตไซบีเรีย เครื่องบินลำดังกล่าวเดินทางจากเมืองบลาโกเวชเชนสค์ (Blagoveshchensk) ไปยังเมืองตีนดา (Tynda) และหายไปจากจอเรดาร์ขณะกำลังเข้าใกล้เมืองตีนดา ซึ่งเป็นเมืองห่างไกลในภูมิภาคอามูร์ที่อยู่ติดกับประเทศจีน วาซิลี ออร์ลอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคอามูร์ กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้น มีผู้โดยสาร 43 คน รวมถึงเด็ก 5 คน และลูกเรือ 6 คน อยู่บนเครื่อง สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ รายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉินที่ระบุว่า เศษซากเครื่องบินถูกพบบนเนินเขาห่างจากเมืองตีนดาประมาณ 15 กิโลเมตร โดยในระหว่างปฏิบัติการค้นหา เฮลิคอปเตอร์ได้ค้นพบตัวเครื่องบินที่กำลังลุกไหม้อยู่ที่พื้นดินในป่าลึก […]

จีนกังวลอย่างยิ่งต่อการปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา

ปักกิ่ง 24 ก.ค. – กระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าววันนี้ว่า จีนมีความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ไขปัญหาอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ กัว เจียคุน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวประจำวันว่า จีนจะแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมแนวทางการลดความตึงเครียด พร้อมเสริมว่าจีนยึดมั่นในจุดยืนของความยุติธรรมและเที่ยงตรง.-813.-สำนักข่าวไทย

จีนปราบคดีฉ้อโกงโทรคมนาคมกว่า 1.7 ล้านคดี

ปักกิ่ง 24 ก.ค. — เจียง กั๋วลี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสของจีน แถลงข่าววันพุธว่าช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 ของจีน (ปี 2021-2025) หน่วยงานตำรวจจีนได้ปราบปรามคดีฉ้อโกงทางโทรคมนาคม 1,739,000 คดี และจับกุมผู้ต้องสงสัย 366,0000 ราย ซึ่งเป็นผู้จัดหาเงินทุนรายใหญ่และสมาชิกหลักของกลุ่มอาชญากรรม 3,442 ราย สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า ช่วงแผนพัฒนาฯ ระยะ 5 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนสามารถสกัดกั้นสายโทรศัพท์หลอกลวง 1.24 หมื่นล้านสาย และข้อความสั้นหลอกลวง 1.09 หมื่นล้านข้อความ รวมถึงกระชับความร่วมมือบังคับใช้กฎหมายกับนานาชาติ จัดส่งคณะทำงานไปยังเมียนมา ไทย และกัมพูชา เพื่อร่วมปฏิบัติการปราบปรามคดีฉ้อโกงทางโทรคมนาคม เจียงกล่าวว่าความพยายามเหล่านี้นำสู่การทลายแหล่งซ่องสุมการฉ้อโกงในต่างประเทศกว่า 2,000 แห่ง และจับกุมผู้ต้องสงสัยมากกว่า 80,000 ราย แต่ยังคงเตือนว่าปัจจุบันสถานการณ์การฉ้อโกงทางโทรคมนาคมในต่างประเทศยังคงรุนแรงและซับซ้อน แม้การปราบปรามภายในจีนมีความคืบหน้าอย่างมาก เจียงกระตุ้นเตือนสาธารณชนยังคงระมัดระวังกลโกงต่างๆ เช่น ข้อเสนอตำแหน่งงานในต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูง และเสริมสร้างความตระหนักรู้ความปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของขบวนการหลอกลวงเหล่านี้.-813.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินรัสเซียสูญหายในตะวันออกไกลพร้อมผู้โดยสาร 50 คน

มอสโก 24 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศขาดการติดต่อกับเครื่องบินโดยสารรุ่น “เอเอ็น-24” (An-24) ที่บรรทุกผู้คนประมาณ 50 คน ในดินแดนแถบตะวันออกไกลของรัสเซีย ในวันพฤหัสบดี และการค้นหากำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กล่าวว่า เครื่องบินซึ่งดำเนินการโดยสายการบิน “อังการา” (Angara) ที่มีสำนักงานอยู่ในเขตไซบีเรีย ได้หายไปจากจอเรดาร์ขณะกำลังเข้าใกล้จุดหมายปลายทาง คือเมืองตีนดา ซึ่งเป็นเมืองในภูมิภาคอามูร์ที่อยู่ติดกับประเทศจีน วาซิลี ออร์ลอฟ ผู้ว่าการภูมิภาคอามูร์กล่าวผ่านทางแอปพลิชันเทเลแกรมว่า จากข้อมูลเบื้องต้นมีผู้โดยสาร 43 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 5 คน และลูกเรือ 6 คน อยู่บนเครื่องบิน ขณะนี้ได้มีการระดมกำลังและทรัพยากรที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อค้นหาเครื่องบินแล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย

ตำรวจเกาหลีใต้บุกค้น ‘ไฮบ์’ -ค่ายเพลง เค-ป็อป ยักษ์ใหญ่

โซล 24 ก.ค. – ตำรวจเกาหลีใต้ได้บุกค้นสำนักงานใหญ่ของ “ไฮบ์” (HYBE) ซึ่งเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ต้นสังกัดศิลปิน “เค-ป็อป” (K-pop) ในวันนี้ เกี่ยวกับข้อกล่าวหาการซื้อขายหุ้นที่ไม่เป็นธรรมที่เกี่ยวข้องกับตัวประธานบริษัท สื่อของเกาหลีใต้รายงานว่า หน้วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของเกาหลีใต้ อ้างอิงชื่อของ บัง ชี-ฮย็อก ประธานบริษัทไฮบ์ให้กับอัยการเพื่อสอบสวนการกระทำต่างๆ ของเขาในช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ก่อนการเสนอขายหุ้น หรือ ไอพีโอ ในปี 2020 นายบังและผู้บริหารอีกสามคนถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงนักลงทุนให้ขายหุ้นที่มีอยู่ให้กับบริษัทลงทุนที่พวกเขาเป็นผู้ควบคุมดูแลและสุดท้ายก็ได้กำไรจากการขายหุ้นหลังจากการมีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ “ไฮบ์” เป็นบริษัทต้นสังกัดของวงบอยแบนด์ เค-ป๊อป ระดับโลกอย่าง “บีทีเอส” (BTS) ตำรวจนครบาลกรุงโซลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการบุกค้นครั้งนี้ ในขณะที่ “ไฮบ์” อ้างถึงแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า บริษัทฯ ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับหน่วยงานต่างๆ รวมถึงตำรวจ ในการสืบหาข้อเท็จจริง บัง ชี-ฮยอก เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ “ไฮบ์” (HYBE).-813.-สำนักข่าวไทย

พายุวิภากระทบหนักเวียดนาม-ฟิลิปปินส์

ฮานอย 24 ก.ค. – อิทธิพลของพายุวิภาส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงในเวียดนาม ขณะที่ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมทั่วประเทศมีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายคน เวียดนามระบุว่า พายุโซนร้อนวิภาส่งผลเกิดน้ำท่วมสูง ชาวบ้านในพื้นที่ภาคกลางหลายร้อยครัวเรือนต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เนื่องจากเส้นทางหลักได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมฉับพลัน ประชาชนราว 12,500 คนในพื้นที่เสี่ยงสูงต้องอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย เขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในจังหวัดเหงะอานทางตอนกลางของประเทศต้องพร่องน้ำออกจากเขื่อน ชุมชนหลายแห่งได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำที่ท่วมสูงจนถึงหลังคาบ้าน ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ในที่สูง ผู้ได้รับผลกระทบบอกว่าระดับน้ำในปีนี้สูงและน่ากลัวยิ่งกว่าน้ำท่วมเมื่อปี 2531 แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตในเวียดนาม ส่วนที่ฟิลิปปินส์แม้ว่าพายุวิภาเคลื่อนผ่านไปตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์แต่อิทธิพลของพายุก็ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทั่วประเทศ รวมทั้งในกรุงมะนิลาที่ยังมีน้ำท่วมสูง ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการใช้ชีวิตของประชาชน โดยที่กรุงมะนิลาต้องประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติ สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นบริเวณกว้างทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 7 คน และมีผู้สูญหายอีก 8 คน มีประชาชนได้รับผลกระทบมากกว่า 1,410,000.-816.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย

พนมเปญ 24 ก.ค. – รัฐบาลกัมพูชาประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยเป็นระดับต่ำสุด ขณะที่สื่อกัมพูชารายงานข่าวสถานการณ์ชายแดนเช้าวันนี้ว่าเป็นการตอบโต้ของกองทัพกัมพูชาต่อการรุกรานของไทยและการปิดปราสาทตาเมือนธม วันนี้รัฐบาลกัมพูชาประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงเป็นระดับต่ำสุด เพื่อตอบโต้รัฐบาลไทยที่เมื่อวานนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีประกาศตัดสินใจลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา หลังเกิดเหตุทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดเป็นครั้งที่สองเมื่อวานนี้ กัมพูชาระบุว่าจะตอบสนองด้วยการลดความสัมพันธ์ทางการทูตลงเหลือเพียงระดับ “อุปทูตลำดับที่สอง” เท่านั้น นอกจากนี้นักการทูตกัมพูชาทุกคนที่ประจำการอยู่ที่สถานทูตกัมพูชาในกรุงเทพ ยังได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับบ้านด้วยและทางฝ่ายไทยได้รับคำสั่งให้นักการทูตไทยเดินทางออกจากกัมพูชาด้วยเช่นกัน อีกด้านหนึ่งกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โดยนางมาลี โสเชตา ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อคืนนี้แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาของฝ่ายไทยอย่างเด็ดขาดเรื่องทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อวานนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าเหตุเกิดในพื้นที่หมู่บ้านอัน เสส ตำบลและอำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารของกัมพูชา นางมาลีระบุว่าข้อกล่าวของไทยที่ว่ากับระเบิดในอยู่เขตแดนไทยและเป็นระเบิดฝังใหม่โดยทหารกัมพูชานั้นไม่มีมูลความจริงซึ่งกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง กัมพูชาเรียกร้องให้ไทยหลีกเลี่ยงการกระทำที่ขัดต่อการใช้เส้นทางลาดตระเวนที่กำหนดเอาไว้ในเอ็มโอยี 43 นอกจากนี้นางมาลียังบอกด้วยว่าเป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ประเทศไทยไม่เพียงแต่ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำที่ก้าวร้าวของตนเท่านั้น แต่ยังกล่าวหากัมพูชาว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ในขณะที่กัมพูชาเองเป็นเหยื่อของความ อยุติธรรมจากการละเมิดของฝ่ายไทย ขณะที่สื่อของกัมพูชารายงานสถานการณ์เช้าวันนี้ว่า“กองทัพกัมพูชาเปิดฉากโจมตีตอบโต้การรุกรานของทหารไทยและการสั่งปิดปราสาทตาเมือนธม” โดยอ้างข้อมูลจากนายทหารระดับสูงของกัมพูชาที่ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเฟรชนิวส์จากพื้นชายแดนในเช้าวันนี้ ซึ่งทางกัมพูชาอ้างว่าจุดปะทะอยู่ในจังหวัดพระวิหาร และหลังจากการปะทะที่ตาเมือนธมในจังหวัดอุดรมีชัยแล้ว ขณะนี้การสู้รบได้ขยายพื้นที่ออกไปยังพนมกมุช ในจังหวัดพระวิหาร เวลานี้กำลังมีการยิงตอบโต้กันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งซึ่งกัมพูชาได้อ้างรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทหารไทยบาดเจ็บ 2 นายแต่ฝั่งกัมพูชาไม่มีผู้บาดเจ็บ.-816.-สำนักข่าวไทย

พายุวิภาทำเวียดนามจมน้ำ

ฮานอย 24 ก.ค. – อิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภาที่แม้จะเคลื่อนผ่านเวียดนามและอ่อนกำลังลงตามลำดับ แต่ก็ยังส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างหลายพื้นที่ของประเทศ สถานีโทรทัศน์ของเวียดนามรายงานว่า จังหวัดเหงะอานทางภาคกลาง เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนวิภาที่เคลือนขั้นฝั่งพัดถล่มตั้งแต่เมื่อวันอังคารมากที่สุด ฝนที่ตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันเป็นบริเวณกว้าง บางพื้นที่น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านหลายพันครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ตลอดคืนวันอังคารจนถึงเช้าวันพุธฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตร ทางการท้องถิ่นเตือนให้ประชาชนระวังดินโคลนถล่มโดยเฉพาะพื้นที่เชิงเขา ทหารกว่า 350,000 นายได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมทั่วประเทศ แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ แต่บ้านเรือนชาวบ้านจมน้ำกว่าพันหลังคาเรือน พื้นที่เพาะปลูกเสียหายอีกหลายหมื่นไร่ สำหรับพายุโซนร้อนวิภาได้อ่อนกำลังลงตามลำดับ ล่าสุดเหลือเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง บริเวณแขวงหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว และคาดว่าจะอ่อนกำลังลงอีก มีแนวโน้มจะเคลื่อนที่ออกไปทางประเทศเมียนมาในช่วงวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ แต่อิทธิพลของพายุวิภา ยังคงส่งผลให้เกิดฝนตกหนักทั้งใน สปป. ลาว เวียดนาม และไทยไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์นี้.-815.-สำนักข่าวไทย

South Korea's seminar on digital in Southeast Asia

เกาหลีใต้ส่งเสริมความสามารถนวัตกรรมดิจิทัลในอาเซียน

กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-  เกาหลีใต้จัดการเสวนาส่งเสริมความสามารถด้านนวัตกรรมดิจิทัลให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน ตอกย้ำพันธกิจร่วมในการสร้างระบบธรรมาภิบาลดิจิทัลที่ยั่งยืนในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมารัฐบาลสาธารณรัฐเกาหลีร่วมกับศูนย์ฝึกอบรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ (UN-APCICT) จัดเวทีเสวนาว่าด้วยการส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ผ่านนวัตกรรมภาครัฐในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมดิจิทัลและส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนและองค์กรระหว่างประเทศให้ความสนใจเข้าร่วมแลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เวทีเสวนาในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายปาร์ค ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย, คุณหลิน หยาง รองเลขาธิการบริหารฝ่ายโครงการของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก (UNESCAP) และนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมกล่าวเปิดงาน โดยเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการผลักดันนวัตกรรมภาครัฐและการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม รวมถึงการยกระดับความร่วมมือภายในภูมิภาคอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ในช่วงแรกของงานเป็นการนำเสนอเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยผู้แทนจากบรูไน อินโดนีเซีย สปป.ลาว สาธารณรัฐเกาหลี และไทย ได้ร่วมแบ่งปันยุทธศาสตร์ระดับชาติในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อยกระดับการดำเนินงานของภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาบริการสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมของประชาชน และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ทั้งนี้ ผู้แทนแต่ละประเทศได้แลกเปลี่ยนถึงความท้าทายต่าง ๆ เช่น ความต่างด้านศักยภาพเชิงสถาบัน ความเหลื่อมล้ำระหว่างภูมิภาค และความเสี่ยงด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นของกรอบนโยบายที่ชัดเจนและความร่วมมือข้ามพรมแดนเพื่อเร่งรัดการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างยั่งยืน ช่วงที่สองเป็นเวทีเสวนาภายใต้หัวข้อ “การให้บริการสาธารณะด้วย AI” โดยมีผู้แทนจากอินโดนีเซีย สปป.ลาว ไทย สาธารณรัฐเกาหลี และสำนักเลขาธิการอาเซียนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น […]

1 24 25 26 27 28 5,530
...