sign of Canada election

พรรครัฐบาลแคนาดาชนะเลือกตั้ง

ออตตาวา 29 เม.ย.- สื่อแคนาดารายงานว่า พรรคเสรีนิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชนะการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นก่อนกำหนดเมื่อวานนี้ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะชี้ชัดว่า จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้หรือไม่ คูหาเลือกตั้งในพื้นที่ฝั่งตะวันตกสุด คือ รัฐบริติชโคลัมเบีย และดินแดนยูคอน ปิดเป็นพื้นที่สุดท้ายของประเทศเมื่อเวลา 22.00 น.วันจันทร์ตามเวลาตะวันออกของแคนาดา ซึ่งช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง สถานีโทรทัศน์ซีทีวี (CTV) และบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแคนาดารายงานคาดการณ์ว่า พรรคเสรีนิยมของนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์คว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว 152 ที่นั่งจากทั้งหมด 343 ที่นั่ง โดยต้องได้อย่างน้อย 172 ที่นั่งจึงจะครองเสียงข้างมาก ขณะที่พรรคอนุรักษนิยมตามมาที่ 131 ที่นั่ง ทั้งนี้หากพรรคเสรีนิยมไม่สามารถครองเสียงข้างมาก จะต้องเจรจากับพรรคอื่นเพื่อให้สามารถบริหารประเทศต่อไป ที่ผ่านมารัฐบาลเสียงข้างน้อยในแคนาดามักบริหารประเทศได้ไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน อย่างไรก็ดี ผลคะแนนที่ออกมาสะท้อนว่า พรรคเสรีนิยมทำคะแนนตีตื้นกลับมาได้ หลังจากมีคะแนนนิยมตามหลังพรรคอนุรักษนิยมถึง 20 จุดในเดือนมกราคม ก่อนที่นายจัสติน ทรูโดประกาศลาออกจากตำแหน่ง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเริ่มขู่ใช้มาตรการภาษีศุลกากร การขู่ของผู้นำสหรัฐปลุกกระแสชาตินิยมขึ้นในแคนาดา และเป็นเสียงสนับสนุนให้แก่นายคาร์นีย์ อดีตผู้ว่าการธนาคารกลาง วัย 60 ปี […]

people at Saint Peter's Square

ประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่ 7 พ.ค.

สำนักวาติกัน 29 เม.ย.- ที่ประชุมพระคาร์ดินัลกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) เมื่อวานนี้ พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) ที่ประชุมตกลงให้วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปองค์ต่อไป ตามปกติแล้ว คอนเคลฟจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พ.ค. สำหรับคอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยของคอนเคลฟ 10 ครั้งหลังสุดคือ 3 วัน โดยในคอนเคลฟครั้งนี้ จะมีในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะได้ร่วมประชุมลับและลงคะแนน […]

passengers stranded at airport in Lisbon from power outage

สเปน-โปรตุเกส ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่

มาดริด 29 เม.ย.- หลายพื้นที่ของสเปนและโปรตุเกส เผชิญกับปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ กระทบต่อหลายภาคส่วนในประเทศ จนรัฐบาลสเปนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน หลายพื้นที่ขนาดใหญ่ของสเปนและโปรตุเกส ซึ่งตั้งอยู่บนคาบสมุทรไอบีเรีย รวมถึงบางส่วนของฝรั่งเศส เผชิญปัญหาไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ตั้งแต่ช่วงสายของเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วประเทศ การขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟโดยสาร รถไฟใต้ดิน และเครื่องบินโดยสารเป็นอัมพาต การจราจรติดขัดอย่างหนัก เนื่องจากสัญญาณไฟจราจรตามแยกต่าง ๆ ใช้การไม่ได้ เที่ยวบินโดยสารล่าช้าและยกเลิกจำนวนมาก โรงพยาบาลและโรงเรียนไม่มีไฟฟ้าใช้ ผู้คนจำนวนมากติดอยู่ในรถไฟใต้ดิน รถไฟโดยสาร และในลิฟต์ เฉพาะในกรุงมาดริด เมืองหลวงสเปน ประชาชนนับพันคน ออกมายืนอยู่ตามถนนนอกอาคารสำนักงาน มีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมการจราจร ขณะที่ทหารถูกส่งไปช่วยเหลือผู้โดยสารที่ติดค้างอยู่ในรถไฟโดยสารหลายขบวน บริษัทไฟฟ้าและผู้ประกอบการไฟฟ้าทั้งในสเปนและโปรตุเกส พยายามอย่างหนักในการแก้ปัญหาเพื่อกลับมาจ่ายกระแสไฟฟ้าอีกครั้ง ขณะที่รัฐบาลสเปนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเรียกประชุมกับรัฐบาลโปรตุเกสเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาไฟฟ้าดับ บริษัท Red Eléctrica ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่งไฟฟ้าของสเปนแจ้งว่า ไฟฟ้าดับ ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุในทันทีอาจกินเวลานาน 6 ถึง 10 ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชส ของสเปน แถลงเมื่อกลางดึกวานนี้ว่า กว่าครึ่งหนึ่งประเทศเริ่มกลับมามีไฟฟ้าใช้แล้ว ส่วนที่เหลือของประเทศน่าจะกลับมาใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติในวันนี้ รัฐบาลกำลังดำเนินการเพื่อหาสาเหตุและผลกระทบของเหตุการณ์นี้ พร้อมทุ่มเททรัพยากรที่มีทั้งหมดเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด โดยยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เหตุไฟฟ้าดับจะเกิดจากการโจมตีทางไซเบอร์ ด้านรัฐบาลสเปนส่งเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจและฝ่ายความมั่นคงกว่า […]

Catholic cardinals meet to discuss date of conclave for new pope

พระคาร์ดินัลประชุมกำหนดวันประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่

สำนักวาติกัน 28 เม.ย. – พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมในวันนี้ เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) พระคาร์ดินัลประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 โดยมีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมตั้งแต่วันนี้ เพื่อเตรียมการสำหรับการลงคะแนนเลือกโป๊ปองค์ใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พฤษภาคม คอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน พระคาร์ดินัลลอร์ส อันเดรส อาร์บอเรลิอุส บิชอปแห่งสตอกโฮล์มของสวีเดน ผู้เป็นหนึ่งในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี และจะได้ร่วมลงคะแนน ให้ความเห็นในวันนี้ว่า คอนเคลฟในครั้งนี้อาจยาวนานกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากพระคาร์ดินัลหลายรูปที่ได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ยังไม่เคยได้พบปะกับพระคาร์ดินัลรูปอื่น ๆ มาก่อน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา […]

aftermath of earthquake in Myanmar

คนในเมียนมายังเดือดร้อนหลังแผ่นดินไหวผ่านไป 1 เดือน

มัณฑะเลย์ 28 เม.ย. – สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า คนในเมียนมาที่รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อ 1 เดือนก่อน ยังคงดิ้นรนเพื่อหาทางกอบกู้ชีวิตที่เสียหายไปพร้อมกับแผ่นดินไหว ขณะที่ยูเอ็นระบุว่า รัฐบาลทหารเมียนมายังคงโจมตีฝ่ายต่อต้านทั้งที่ประกาศหยุดยิง เว็บไซต์บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค (NHK) รายงานว่า วันนี้เป็นวันครบ 1 เดือนของการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม สร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่ตอนกลางของเมียนมา พร้อมกับอ้างรัฐบาลเมียนมาว่า มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,700 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วนหรือทั้งหมดราว 60,000 หลัง เอ็นเอชเครายงานว่า ผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวยังคงต้องอยู่ในที่พักชั่วคราวกลางแจ้ง อีกทั้งยังประสบปัญหาขาดแคลนอาหารและยา ชายวัย 64 ปี อาศัยอยู่ในเต็นท์บริเวณจัตุรัสเมืองมัณฑะเลย์ ที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เขาไม่กล้ากลับเข้าไปนอนในบ้านเพราะเกรงว่าอาจจะเกิดแผ่นดินไหวกลางดึก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตเช่นนี้ได้นานเท่าใด เนื่องจากเริ่มขาดแคลนอาหาร ส่วนที่ภาคสะกาย ทางตะวันตกเฉียงเหนือที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว หลายพื้นที่ยังคงไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปาใช้จนถึงขณะนี้ ขณะเดียวกันสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็น อ้างรายงานที่ได้รับว่า ช่วงวันที่ 28 มีนาคมถึงวันที่ 24 เมษายน กองทัพเมียนมาได้ใช้ปฏิบัติการโจมตีอย่างน้อย 207 ครั้ง […]

Zhao Chenxin, Vice Chair of the National Development and Reform Commission

จีนมั่นใจบรรลุเป้าหมายพัฒนาปี 2568

ปักกิ่ง 28 เม.ย.- คณะผู้กำหนดนโยบายของจีนแสดงความมั่นใจว่า จีนจะบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมปี 2568 หวังคลายความกังวลเรื่องภาษีศุลกากรของสหรัฐจะกระทบต่อธุรกิจ การจ้างงาน พลังงานและสินค้าเกษตรของจีน สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นายจ้าว เฉินซิน รองประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนแถลงข่าวในวันนี้ว่า จีนมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะบรรลุเป้าหมายและพันธกิจการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของปี 2568ด้วยการดำเนินนโยบายที่ครอบคลุมและเพียงพอ จีนจะเร่งดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ เพื่อรักษาเสถียรภาพการจ้างงานและเศรษฐกิจ กระตุ้นการออกและบังคับใช้นโยบาย และให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินนโยบายยิ่งขึ้น เพื่อรับประกันว่าจะเกิดประโยชน์โดยตรงต่อธุรกิจและสาธารณชน ขณะเดียวกันจีนจะเพิ่มความพยายามรับประกันผลลัพธ์ของนโยบายที่บังคับใช้อยู่เดิม ทั้งโครงการพิเศษเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการใช้เงินลงทุน 5 ล้านล้านหยวน (ราว 23 ล้านล้านบาท) ในระดับชาติอย่างมีประสิทธิภาพ นโยบายเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสสอง (เมษายน-มิถุนายน) จีนจะเสริมสร้างความสอดคล้องของนโยบายอย่างต่อเนื่อง ดำเนินการวิจัยนโยบายแบบปลายเปิดเป็นประจำ เตรียมแผนฉุกเฉินอย่างครบถ้วน และปรับปรุงชุดเครื่องมือนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพการจ้างงานและเศรษฐกิจ นอกจากนั้นจีนจะออกนโยบายสำรองเพิ่มเติมอย่างทันท่วงทีเพื่อรับมือกับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และจีนจะยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการกิจการของตนเองให้ดี ไม่ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซินหัวระบุว่า จีนตั้งเป้าหมายบรรลุการเติบโตทางเศรษฐกิจตลอดปี 2568 ไว้ที่ราวร้อยละ 5 ขณะผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) เติบโตร้อยละ 5.4 เมื่อเทียบปีต่อปี.-814.-สำนักข่าวไทย

South Korea’s Defence Ministry spokesperson condemns North Korea

เกาหลีใต้ประณามเกาหลีเหนือเรื่องส่งทหารไปรัสเซีย

โซล 28 เม.ย.- เกาหลีใต้ประณามเกาหลีเหนืออย่างรุนแรง หลังจากเกาหลีเหนือยอมรับต่อสาธารณะเป็นครั้งแรกว่าส่งทหารไปรัสเซียเพื่อช่วยรบในยูเครน กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า การที่เกาหลีเหนือยอมรับต่อสาธารณะว่าส่งทหารไปช่วยรัสเซียรบในยูเครนเท่ากับว่าเป็นการยอมรับว่ากระทำผิดจริง เพราะการกระทำของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ   ขณะที่กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงประณามว่า การส่งเยาวชนไปร่วมรบ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อค้ำจุนรัฐบาลเกาหลีเหนือนั้น เป็นการการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและจริยธรรม  พร้อมทั้งเรียกร้องให้เกาหลีเหนือถอนทหารออกจากสงครามยูเครนโดยทันที ไม่เช่นนั้นเกาหลีใต้จะร่วมมือกับประชาคมโลกตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างแข็งกร้าว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

sign of India-Pakistan border

อินเดีย-ปากีสถานยิงตอบโต้กันเป็นคืนที่ 4 แล้ว

ศรีนคร 28 เม.ย.- อินเดียแจ้งว่า ได้ยิงตอบโต้การยิงยั่วยุจากปากีสถานเป็นคืนที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนที่ผ่านมา ในระหว่างที่อินเดียเพิ่มการไล่ล่ากลุ่มติดอาวุธที่ก่อเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ในอินเดียเมื่อหลายวันก่อน กองทัพอินเดียแถลงวันนี้ว่า ได้ยิงตอบโต้การยิงยั่วยุเมื่อช่วงเที่ยงคืนวันอาทิตย์ เป็นการใช้อาวุธขนาดเล็กยิงมาจากที่มั่นทางทหารหลายแห่งของกองทัพปากีสถาน ตามแนวพรมแดนอย่างไม่เป็นทางการยาว 740 กิโลเมตรที่แบ่งแคชเมียร์ออกเป็นส่วนของอินเดียกับปากีสถาน ด้านกองทัพปากีสถานไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ แต่แถลงเรื่องสังหารสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ 54 คนที่พยายามข้ามพรมแดนจากอัฟกานิสถานเข้ามาทางฝั่งตะวันตกของปากีสถานในช่วง 2 วันที่ผ่านมา กองทัพอินเดียฝึกซ้อมทางทหารทั่วประเทศตั้งแต่เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายกราดยิงนักท่องเที่ยวในเมืองพาฮัลกัม ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์เมื่อวันที่ 22 เมษายน สังหารนักท่องเที่ยว 26 คน เป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาล 1 คน อินเดียระบุว่า ผู้ต้องสงสัย 2 ใน 3 คนเป็นชาวปากีสถาน ขณะที่ปากีสถานยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องและขอให้อินเดียสอบสวนอย่างเป็นกลาง เจ้าหน้าที่อินเดียและผู้รอดชีวิตเปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายได้คัดแยกเฉพาะผู้ชาย โดยได้สอบถามชื่อและจ่อยิงระยะเผาขนเฉพาะผู้ที่เป็นชาวฮินดู เหตุสะเทือนขวัญดังกล่าวจุดกระแสไม่พอใจอย่างยิ่งในอินเดีย ทั้ง 2 ประเทศซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองได้ดำเนินมาตรการตอบโต้กันหลายอย่าง เจ้าหน้าที่อินเดียตระเวนตรวจค้นบ้านเรือนต่าง ๆ ร่วม 1,000 หลัง รวมทั้งตามป่าเขาในแคชเมียร์ เพื่อไล่ล่าสมาชิกกลุ่มติดอาวุธ […]

Japan, Vietnam pledge to support free trade as PM Ishiba visits Hanoi

ผู้นำญี่ปุ่น-เวียดนามเห็นพ้องหนุนการค้าเสรีรับมือภาษี “ทรัมป์”

ฮานอย 28 เม.ย.- ผู้นำญี่ปุ่นและเวียดนามเห็นพ้องกันเรื่องจะส่งเสริมการค้าทวิภาคีและปกป้องระเบียบโลกเรื่องการค้าเสรี ในขณะที่ทั้ง 2 ประเทศอยู่ระหว่างการเจรจากับสหรัฐเรื่องภาษีศุลกากร นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะของญี่ปุ่นแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีฝ่าม มิงห์ จิ๋งห์ของเวียดนาม หลังจากพบหารือกันที่กรุงฮานอยของเวียดนามในวันนี้ว่า เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ญี่ปุ่นและเวียดนามจะร่วมมือกันคงไว้ซึ่งระเบียบสากลที่เสรีและเปิดกว้างบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม ขณะที่นายกรัฐมนตรีฝ่ามกล่าวว่า ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องกันเรื่องปกป้องระเบียบโลกเรื่องการค้าเสรีที่ตั้งอยู่บนระเบียบสากล รอยเตอร์ระบุว่า การแถลงข่าวดังกล่าวไม่เปิดให้ผู้สื่อข่าวซักถาม และมีขึ้นหลังจากผู้นำญี่ปุ่นและเวียดนามได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ 4 ฉบับ เช่น การส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์ที่เกื้อหนุนการเปลี่ยนผ่านเชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นแหล่งพลังงานที่ยั่งยืน การวิจัยและพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายนตามเวลาสหรัฐ เรียกเก็บภาษีศุลกากรกับเวียดนามและญี่ปุ่นในอัตราร้อยละ 46 และ 24 ตามลำดับ เพิ่มเติมจากภาษีร้อยละ 10 ที่สหรัฐเรียกเก็บแบบถ้วนหน้ากับสินค้านำเข้าจากทุกประเทศ ขณะนี้ทั้ง 2 ประเทศกำลังหาทางเจรจาให้สหรัฐยกเว้นการเก็บภาษีดังกล่าว และในช่วงหลายวันมานี้เวียดนามได้ให้การต้อนรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนและรัฐมนตรีของเกาหลีใต้ ขณะที่ญี่ปุ่นเปิดการประชุม 3 ฝ่ายกับจีนและเกาหลีใต้ เว็บท่าของรัฐบาลเวียดนามรายงานว่า นายโต เลิม เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ได้เรียกร้องหลังจากพบหารือกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเมื่อวันอาทิตย์ ให้ญี่ปุ่นเพิ่มการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานของเวียดนาม รอยเตอร์อธิบายเพิ่มเติมว่า ญี่ปุ่นอยู่ระหว่างการศึกษาเบื้องต้นเรื่องการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อกรุงฮานอยที่อยู่ทางเหนือกับนครโฮจิมินห์ที่เป็นศูนย์กลางทางพาณิชย์ที่อยู่ทางใต้ มูลค่าโครงการประมาณ 67,000 […]

Drone shot of soldier believed by Ukrainian Military to be North Korean

เกาหลีเหนือยืนยันครั้งแรกเรื่องส่งทหารไปรัสเซีย

เปียงยาง 28 เม.ย.- เกาหลีเหนือยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ได้ส่งทหารไปรัสเซียเพื่อร่วมรบในสงครามยูเครน และกล่าวยกย่องทหารเหล่านี้ว่าเป็นวีรบุรุษ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานในวันนี้ยืนยันเป็นครั้งแรกว่า เกาหลีเหนือได้ส่งทหารไปร่วมรบในสงครามยูเครนจริงตามคำสั่งของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุด และทหารเหล่านี้มีส่วนช่วยรัสเซียในการยึดคืนดินแดนของรัสเซียที่เคยตกอยู่ในการยึดครองของยูเครน  คณะกรรมาธิการทหารกลางของพรรคแรงงานเกาหลีเหนือระบุว่า ชัยชนะในการปลดปล่อยแคว้นคุสค์ของรัสเซียแสดงให้เห็นถึงยุทธศาสตร์ระดับสูงสุดของความสัมพันธ์ทางทหารอันแข็งแกร่งระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย คณะกรรมาธิการดังกล่าวเปิดเผยด้วยว่า ภายใต้คำสั่งของนายคิมทหารเกาหลีเหนือจะต้องต่อสู้ในสงครามยูเครนด้วยความมุ่งมั่นเหมือนกับต่อสู้เพื่อประเทศของตนเอง โดยนายคิมกล่าวยกย่องว่าผู้ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมล้วนเป็นวีรบุรุษและเป็นตัวแทนแห่งเกียรติยศของประเทศ  และเกาหลีเหนือถือว่าเป็นเกียรติที่ได้เป็นพันธมิตรกับประเทศที่มีอำนาจอย่างรัสเซีย การยืนยันของทางการเกาหลีเหนือในวันนี้มีขึ้นหลังจากรัสเซียได้ยืนยันเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ว่า มีทหารจากเกาหลีเหนือมาร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารรัสเซียอยู่ในแคว้นคุสค์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทั้งสองประเทศต่างไม่เคยยอมรับหรือปฏิเสธเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด ด้านยูเครนเปิดเผยว่า เกาหลีเหนือส่งทหารร่วมรบทั้งสิ้นราว 14,000 คน ในจำนวนนี้มี 3,000 คนที่ถูกส่งไปเสริมเพื่อทดแทนกำลังพลที่เสียชีวิตจากการสู้รบ ยูเครนระบุว่า จากการที่ทหารเกาหลีเหนือขาดประสบการณ์ในการทำสงครามด้วยโครนและการใช้ยานยนต์หุ้มเกราะจึงทำให้เกิดการสูญเสียอย่างมาก  แต่ทหารเหล่านี้ก็สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Trump wearing white hat

“ทรัมป์” คะแนนนิยมดิ่ง ต่ำสุดในรอบ 7 ทศวรรษ

แอตแลนตา 28 เม.ย.- สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีคะแนนนิยมหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 ครบ 100 วัน เพียงร้อยละ 41 ถือว่าต่ำสุดในรอบ 7 ทศวรรษ ซีเอ็นเอ็นเผยแพร่ผลสำรวจที่ดำเนินการโดยเอสเอสอาร์เอส (SSRS) เป็นการสอบถามผู้ใหญ่ชาวอเมริกันทั่วประเทศจำนวน 1,678 คน ระหว่างวันที่ 17-24 เมษายน 2567 ผลสำรวจระบุว่า นายทรัมป์กลับมารับตำแหน่งสมัยที่ 2 ด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดในอาชีพการเมืองของเขา แต่หลังจากรับตำแหน่งครบ 100 วันแรก เขากลับมีคะแนนนิยมเพียงร้อยละ 41 ต่ำกว่าเมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก และต่ำที่สุดในบรรดาผู้นำสหรัฐเมื่อนับย้อนไปถึงดไวต์ ไอเซนฮาวร์ ประธานาธิบดีคนที่ 34 ในปี 2496 อย่างไรก็ดี ข้อมูลในเว็บไซต์ดิอเมริกัน เพรสซิเดนซี โปรเจกต์ (The American Presidency Project) ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาลัยซานตา บาร์บาราระบุว่า ช่วงครบ 100 วันแรกในการดำรงตำแหน่งสมัยแรกปี […]

1 25 26 27 28 29 5,448
...