ญี่ปุ่น 23 ก.ค. – ญี่ปุ่นเป็นประเทศล่าสุดที่บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐได้ เบื้องต้นชาวญี่ปุ่นขานรับในเชิงบวก และสำหรับญี่ปุ่นดีลนี้ยังมีความสำคัญด้านการเมืองด้วย
สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้ากับคู่ค้าและพันธมิตรสำคัญคือ ญี่ปุ่น เศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในเอเชีย แต่กำลังอยู่ในภาวะลำบาก มีหลายเรื่องที่เป็นข่าวดีสำหรับชาวญี่ปุ่น ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีแม้จะปิดดีลได้แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะช่วยให้เขารักษาเก้าอี้ไว้ได้อีกนานขนาดไหน
เช้าวันนี้มีข่าวดีมาถึงมือชาวญี่ปุ่น ผลการเจรจาการค้ากับสหรัฐ ทำให้ชาวกรุงโตเกียวยิ้มออก ญี่ปุ่นจะเผชิญภาษีในอัตราต่ำลง นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์คนนี้ดีใจ เพราะดัชนีหุ้นบริษัทยานยนต์พุ่งพรวด ดัชนินิคเคอิเพิ่มขึ้น 2.6 เปอร์เซ็นต์ ไปสู่ระดับสูงสุดของปี
จากการเปิดเผยโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ดีลนี้เป็นดีลยักษ์ ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จากการตั้งโต๊ะเจรจาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มา 8 รอบ ญี่ปุ่นจะต้องเสียภาษีศุลกากร 15 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเดิม 25 เปอร์เซ็นต์ แล้วจะเข้าไปลงทุนในสหรัฐ มูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ด้วย
สำหรับคณะผู้เจรจาญี่ปุ่น นี่เป็นภารกิจที่ลุล่วงกับคู่ค้าใหญ่ที่ญี่ปุ่นได้เปรียบดุลการค้าอยู่ราว 7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะยานยนต์ ซึ่งครองสัดส่วนส่งออกไปสหรัฐ กว่า 1 ใน 4 จะต้องเสียภาษีลดลงเป็น 15 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับสินค้าอื่นๆ โดยรวมอัตราภาษีพื้นฐานสำหรับรถยนต์นำเข้า 2.5 เปอร์เซ็นต์ ไปแล้วด้วย
เนื้อหาสำคัญอีกด้านของข้อตกลงคือ การนำเข้าข้าวจากสหรัฐ แหล่งข่าวระบุว่า ญี่ปุ่นจะนำเข้าข้าวจากสหรัฐ เพิ่มขึ้น ช่วยลดราคาข้าว บรรเทาภาระของครัวเรือน ซึ่งกำลังประสบปัญหาราคาเพิ่มเท่าตัวจากปีที่แล้ว และขาดแคลนอยู่ในเวลานี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจะเป็นเพียงระยะสั้น เนื่องจากญี่ปุ่นปกป้องเกษตรกรชาวนาอย่างเข้มแข็ง กำหนดโควตานำเข้าข้าว โดยไม่เสียภาษีปีละประมาณ 770,000 ตัน เมื่อเพิ่มนำเข้าจากสหรัฐ จะเป็นการลดนำเข้าจากประเทศอื่นๆ จึงยังไม่แน่ชัดว่าจะกระทบข้าวไทยที่ส่งออกไปญี่ปุ่นเฉลี่ยประมาณ 3 แสนตันต่อปี มากน้อยขนาดไหน
สำหรับนายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่อยู่ในภาวะเจียนไปเจียนอยู่ในทางการเมือง ชูจุดเด่นจากดีลนี้ว่าลดภาษีให้ยานยนต์และอะไหล่ โดยเป็นประเทศแรกที่ไม่มีเงื่อนไขข้อจำกัดโควตาเหมือนชาติอื่นๆ เขายืนยันเรื่องบริษัทญี่ปุ่นจะเข้าไปลงทุนในสหรัฐในหลายด้าน มั่นใจว่าตอบโจทย์ญี่ปุ่น สร้างงาน และเป็นประโยชน์กับทั้งสองชาติและของทั้งโลก ที่สำคัญเน้นย้ำว่ามาในจังหวะเวลาสำคัญ เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น แต่ความมั่นคงต่อตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นนั้น ดีลนี้จะส่งผลอย่างไร จังหวะเวลาของการบรรลุข้อตกลง มีนัยทางการเมืองที่อาจต่ออายุลมหายใจให้กับนายอิชิบะ ที่กำลังตกที่นั่งลำบาก เขาอาจยกผลงานนี้ว่าเป็นชัยชนะจากการคร่ำเคร่งเจรจาต่อรองนานหลายเดือน มีมุมบวกจากการปิดดีลได้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นขานรับอย่างดียิ่ง แล้วอาจทำให้ค่าเงินเยนสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของญี่ปุ่น ที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดในการลดค่าใช้จ่ายผู้ผลิต กระตุ้นการเติบโต ลดความเสี่ยงภาวะถดถอย
แต่ผลงานนี้ในสายตาประชาชนและฐานเสียง ยังไม่รู้ว่าจะออกหัวออกก้อย เพราะภาวะเศรษฐกิจซึมยาว ส่งผลต่อคะแนนนิยม เห็นได้ชัดเจนจากการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่พรรคเสรีประชาธิปไตยของเขาต้องสูญเสียเสียงข้างมากไปอย่างหมดรูป เท่ากับเป็นการพลาดท่าในการเลือกตั้งสองครั้งติด หลังจากเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ต้องสูญเสียเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรไป ทุกอย่างถาโถมมาเป็นแรงกดดัน เช้าวันนี้เพิ่งมีข่าวลือว่าเขาถอดใจจะลาออกในเดือนหน้า เจ้าตัวปฏิเสธทันควันว่าเป็นความเท็จ และจะต้องนำทัพศึกสงครามการค้าต่อไป แต่สำหรับสมรภูมิการเมืองในประเทศแล้ว นายอิชิบะยังมีศึกหนักรออยู่อีกหลายยก ยกต่อไปเป็นไปได้สูงคือ ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ.-สำนักข่าวไทย