จีนเดินหน้าหนุนพลิกฟื้นสัมพันธ์ ‘ไทย-กัมพูชา’

ปักกิ่ง 6 ส.ค. – นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าววันอังคารว่าจีนจะยังคงสนับสนุนอาเซียนในการส่งเสริมการเจรจาเพื่อสันติภาพ พร้อมดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในแบบของตนเองเพื่อการพลิกฟื้นความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทย สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า มีการจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี (GBC) ระหว่างกัมพูชากับไทยที่มาเลเซียในวันที่ 4-7 ส.ค. โดยจีนได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมวิสามัญของการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวในวันที่ 7 ส.ค. นี้ นายกัวกล่าวว่าไม่มีการต่อสู้ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย นับตั้งแต่การหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างจีน กัมพูชา กับไทยเมื่อวันที่ 30 ก.ค. โดยสถานการณ์ในพื้นที่มีแนวโน้มคลี่คลาย ขณะกัมพูชาและไทยดำเนินการหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไป กัมพูชาและไทยจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปภายใต้การประสานงานเชิงรุกของมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของอาเซียน เพื่อการสื่อสารหลายระดับผ่านช่องทางต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนากลไกเฝ้าติดตามการหยุดยิง ซึ่งเกื้อหนุนการยุติการสู้รบอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยจีนชื่นชมและยินดีกับสิ่งนี้ จีนยังคงรักษาการสื่อสารใกล้ชิดกับกัมพูชาและไทย รวมถึงมาเลเซียและประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เพื่อส่งเสริมการหยุดยิง การสื่อสาร และการเจรจา ตลอดจนช่วยลดทอนความรุนแรงของสถานการณ์ตามเจตจำนงของกัมพูชาและไทย จีนจะยังคงสนับสนุนอาเซียนในการส่งเสริมการเจรจาเพื่อสันติภาพ รักษาจุดยืนอันเป็นธรรมและยุติธรรม และดำเนินบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในแบบของตนเอง เพื่อการพลิกฟื้นความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทย.-813.-สำนักข่าวไทย

9 ทันโลก : เสียงปืนสงบ แต่กัมพูชาไม่นับศพทหาร

5 ส.ค. – ในการโจมตีไทย กัมพูชาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายครั้ง พอหลังหยุดยิงยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับศพทหารที่ถูกทิ้งคาสนามรบ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามว่า การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายอาชญากรรมสงครามอย่างไร ทหารผู้พลีชีพในสนามรบ ไม่ว่าฝ่ายไหนสมควรได้รับคำยกย่องและให้เกียรติ อย่างน้อยจากผู้บังคับบัญชาที่มอบหมายหน้าที่ แต่ขณะนี้มีร่างทหารกัมพูชามากมายที่ถูกทอดทิ้งมานาน บริเวณชายแดนได้กลายเป็นอีกปมปัญหาเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทหารกัมพูชาเหล่านี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจังหวัดอุดรมีชัย พวกเขายินดีที่รอดชีวิต จนกระทั่งมีข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเพื่อนทหารของพวกเขาที่ไม่ได้กลับออกมาจากสนามรบ กำลังกลายเป็นปมปัญหาใหญ่บนชายแดน รัฐบาลกัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้ศพทหารเป็นเครื่องมือในสงครามจิตวิทยา และหันเหเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความล้มเหลวของกองทัพไทย รวมไปถึงใช้กลบเกลื่อนการสูญเสียกำลังพลและเป็นฝ่ายที่ทอดทิ้งร่างของทหาร เพราะเกรงว่าจะถูกครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวโทษ ส่วนฝ่ายไทยในทุกระดับได้ดำเนินการตั้งแต่แจ้งเตือน เรียกร้อง ไปจนถึงประณามการเพิกเฉยในการดูแลร่างทหารผู้เสียชีวิตที่สมควรได้รับการดูแลตามหลักกฎหมายมนุษยธรรม การปฏิบัติต่อทหารผู้วายชนม์ในการสู้รบ มีหลักการ กฎหมาย และพิธีสารที่ครอบคลุม ให้คู่กรณีนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปสู่ครอบครัวหรือญาติมิตร อนุสัญญาเจนีวา มีหลักปฏิบัติต่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ ตั้งแต่การค้นหาผู้ตายและป้องกันมิให้ร่างถูกทำลาย คู่พิพาทจะต้องทำบันทึกรูปพรรณผู้ตาย ร่างผู้เสียชีวิตต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ ถ้าเป็นไปได้ให้เป็นไปตามพิธีศาสนาของผู้เสียชีวิต ห้ามแยกชิ้นส่วนและห้ามทอดทิ้งร่าง คู่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องอำนวยความสะดวก และพิทักษ์ร่างผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้ง จากการปฏิบัติมิชอบ นอกจากนั้นพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 กำหนดรายละเอียดการค้นหาและป้องกันร่างผู้เสียชีวิต กฎหมายและพิธีสารเหล่านี้ยึดมั่นถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศเคยมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำที่เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีชีวิตหรือเสียชีวิตแล้ว ถือว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามหลายประเทศได้นำหลักกฎหมายเหล่านี้บรรจุในคู่มือทางทหารที่ยึดถือกันด้วย ที่ผ่านมาแม้ฝ่ายไทยชี้ว่ารัฐบาลและกองทัพกัมพูชา เพิกเฉยและละเมิดการปฏิบัติต่อศพทหารของตนเอง ที่ละเมิดกฎหมายและขัดกับหลักศีลธรรม […]

นักการทูตและเยาวชนไทย-จีน ย้ำรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ไทย-จีน คือ ประชาชน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.- นักการทูตและเยาวชนไทย-จีน เห็นพ้องกันว่ารากฐานสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-จีน แน่นแฟ้นยั่งยืนตั้งแต่โบราณกาลถึงปัจจุบัน คือ ความเชื่อมโยงในภาคประชาชน และความรู้สึกฉันท์พี่น้อง เวทีเสวนา “บทบาทของเยาวชนที่มีต่อความสัมพันธ์ไทย-จีนเพื่อการสร้างอนาคตร่วมกัน” มีวัตถุ ประสงค์เพื่อให้เยาวชนนักศึกษาไทยและจีน รวม 50 คน ผู้เข้าร่วมโครงการ “ค่ายทูตเยาวชนไทย-จีน” ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตรอีก 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้มีข้อมูลพื้นฐานและแนวคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จากผู้ร่วมเสวนา ซึ่งประกอบด้วย นางจิราพร สุดานิช เอกอัครราชทูตประจำกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน, นายจ้าว เมิงเทา อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, นาย จ้าว จื้อเจี่ย อดีตประธานสมาคมนักศึกษาจีนและนักวิชาการแห่งประเทศไทย และสมาชิกของสหพันธ์เยาวชนแห่งชาติจีน และนางสาวณัฐต์วรา พิเชษฐพันธ์ คณะกรรมการที่ปรึกษาเยาวชน UNICEF ประเทศไทย และ UNICEF ภูมิภาค East […]

อิสราเอล-ไทย แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องความปลอดภัยไซเบอร์

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระหว่างประเทศไทยและอิสราเอล เป็นครั้งแรก การประชุมเชิงปฏิบัติการนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 สิงหาคม 2568 ที่กรุงเทพฯ โดยมีตัวแทนหน่วยงานทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมมากกว่า 100 คน รวมถึงคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชั้นนำจากอิสราเอลด้วย นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์จากอิสราเอล มาพบกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูง ผู้บริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของไทย เพื่อฝึกอบรมและเรียนรู้ให้ได้วิธีการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการรับมือกับความท้าทายนี้ร่วมกัน การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอิสราเอล และ สกมช. เมื่อปี 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นอีกก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของทั้งสองประเทศ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมืออย่างใกล้ชิด นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวเปิดการประชุมว่า การที่อิสราเอลต้องรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญวันละหลายร้อยครั้ง ทำให้อิสราเอลต้องพัฒนาโซลูชั่นเรื่องไซเบอร์ที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดในโลก ปัจจุบันอิสราเอลมีบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์มากกว่า 500 แห่ง และครึ่งหนึ่งของบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับยูนิคอร์นของโลกล้วนมีจุดกำเนิดในอิสราเอล บริษัทเหล่านี้มีมูลค่ารวมกันราว 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,974 ล้านบาท) เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวด้วยว่า ความปลอดภัยไซเบอร์เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับหลายรัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชน เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีจำนวนมากที่ต้องการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลและประเทศจึงจำเป็นต้องก้าวนำหน้าผู้ไม่หวังดีอยู่เสมอ.-814.สำนักข่าวไทย

สหรัฐระดม จนท.สกัดไฟป่าแคลิฟอร์เนีย

สหรัฐ 5 ส.ค. – ทีมดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์ครบมือ เร่งควบคุมแนวไฟป่ากิฟฟอร์ดที่ลุกไหม้ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนบางส่วนออกจากจุดเสี่ยงแล้ว ทีมดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์ครบมือ ช่วยกันควบคุมแนวไฟป่ากิฟฟอร์ดที่ลุกไหม้ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สภาพอากาศแห้งและลมกระโชกแรงช่วยโหมกระพือไฟป่า ซึ่งลุกไหม้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติลอส ปาเดรส ใกล้เมืองซานตา มาเรีย เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 49,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 123,970 ไร่ และกำลังคุกคามบ้านเรือนประมาณ 360 หลัง เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนบางส่วนออกจากจุดเสี่ยงแล้ว สื่อท้องถิ่นรายงานปฏิบัติการดับไฟป่ากิฟฟอร์ด ใช้ทีมดับเพลิงมากกว่า 1,000 คน ร่วมดับไฟทั้งทางภาคพื้นและอากาศ ขณะที่ลมยังพัดกระโชกแรงอยู่ตลอด จึงวางใจสถานการณ์ไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

50 นักศึกษาไทย-จีน แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมในโครงการค่ายทูตเยาวชนไทย-จีน

กรุงเทพฯ 4 ส.ค.- มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจัดโครงการค่ายทูตเยาวชนไทย-จีน เปิดโอกาสให้นักศึกษาของทั้ง 2 ประเทศ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันและกันในหลากมิติ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงร่วมมือกันในอนาคต ในวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยพันธมิตร คือ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดกิจกรรมค่ายทูตเยาวชน โดยคัดเลือกนักศึกษาระดับอุดมศึกษาจากไทยและจีนประเทศละ 25 คน เข้าร่วมโครงการ “ค่ายทูตเยาวชนไทย – จีน : รู้ราก สานต่อ เพื่อประชาคมไทย – จีน แห่งอนาคตร่วมที่ยั่งยืน” หรือ Thai-Chinese Youth Ambassador Camp 2025 ระหว่าง วันที่ 3 – 25 สิงหาคม 2568 รวมระยะเวลา 23 วัน ทั้งในประเทศไทย คือ กรุงเทพฯ สงขลา เชียงราย และในสาธารณรัฐประชาชน คือ […]

ออสเตรเลียเลือก ‘มิตซูบิชิ เฮฟวี’ ของญี่ปุ่นต่อเรือฟริเกต

ซิดนีย์/โตเกียว 5 ส.ค. – นายริชาร์ด มาร์ลส์ รองนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าววันอังคารว่า บริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ของญี่ปุ่นจะส่งมอบเรือฟริเกตใหม่ลำแรกให้กับกองทัพเรือออสเตรเลียภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ ประมาณ 6,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สัญญาสร้างเรือฟริเกต 3 ลำนี้ จะเป็นการจัดซื้อด้านการป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย นับตั้งแต่รัฐบาลได้ตกลงที่จะสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ร่วมกับสหรัฐและอังกฤษเมื่อปี 2023 และยังเป็นหนึ่งในข้อตกลงการส่งออกอาวุธที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วย นายมาร์ลส์กล่าวว่า การจัดซื้อครั้งนี้จะเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในด้านการเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพเรือของออสเตรเลียในการแสดงแสนยานุภาพ ซึ่งการแสดงแสนยานุภาพที่มีประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญของความท้าทายเชิงยุทธศาสตร์ และเสริมว่า ข้อตกลงนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างออสเตรเลียและญี่ปุ่น ด้านนายเก็น นาคาตานิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่าข้อตกลงนี้คือก้าวสำคัญในการร่วมมือด้านการป้องกันประเทศของญี่ปุ่น โดยเขาให้ข้อมูลในการแถลงข่าวที่กรุงโตเกียวว่า ผลประโยชน์ที่ได้รับคือการยกระดับการปฏิบัติการร่วมกันและความเข้ากันได้ของระบบ (interoperability) ที่ใช้ในออสเตรเลียและสหรัฐ เรือฟริเกตชั้น “โมกามิ” (Mogami) ของบริษัท มิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรีส์ ได้รับการคัดเลือกโดยเอาชนะคู่แข่งคือเรือ “เมโก เอ-สองร้อย” (MEKO A-200) ของบริษัท “ทิสเซนครุปป์ มารีน ซิสเต็มส์” (ThyssenKrupp Marine […]

ฮ่องกงออกประกาศเตือนภัยสภาพอากาศระดับสูงสุด

ฮ่องกง 5 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงแจ้งว่าประกาศเตือนภัยสภาพอากาศขั้นสูงสุด “สีดำ” เนื่องจากมีฝนตกหนักจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงจนถึงเวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันอังคาร หรือ 10.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย หลังจากที่ฝนตกอย่างหนักทำให้โรงเรียน ศาล และแผนกผู้ป่วยในของโรงพยาบาลบางส่วนต้องปิดทำการ พายุฝนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุน้ำท่วมฉับพลันในทางตอนใต้ของจีนเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 รายในมณฑลกวางตุ้ง และต้องมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 1,300 คน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกง (Hong Kong Observatory) ได้แจ้งเตือนบนเว็บไซต์ว่า พายุฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดน้ำท่วมถนนและการจราจรติดขัดอย่างรุนแรง ขอให้ประชาชนอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฮ่องกงรายงานว่ามีฟ้าผ่าเกือบ 10,000 ครั้งในฮ่องกงระหว่างเวลา 6.00 น. ถึง 6.59 น. หรือ 05.00-15.59 น. ตามเวลาในประเทศไทย ทั้งฮ่องกงและเมืองกวางโจวที่อยู่ใกล้เคียงมีฝนตกหนักถึง 60-90 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง โดยปกติแล้วฮ่องกงจะมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 2,220 มิลลิเมตร และมากกว่าครึ่งหนึ่งจะตกในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงยังคงเปิดทำการตามปกติ เนื่องจากได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเมื่อปลายปีที่แล้วให้สามารถซื้อขายได้ไม่ว่าจะสภาพอากาศเป็นอย่างไร ด้านหน่วยงานโรงพยาบาลของฮ่องกงประกาศว่า แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ยังคงเปิดให้บริการ […]

มาเลเซีย-อินโดนีเซีย ขัดแย้งพื้นที่พิพาทในทะเลสุลาเวสี

กัวลาลัมเปอร์ 5 ส.ค. – นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ประกาศกร้าวจะไม่ยอมเสียดินแดนในรัฐซาบาห์แม้แต่ตารางนิ้วเดียวให้อินโดนีเซีย จากกรณีการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนพื้นที่พิพาทในทะเลสุลาเวสีที่มีทรัพยากรน้ำมันมหาศาล นายอันวาร์กล่าวระหว่างการเยือนเมืองโกตาคินาบาลูว่า มาเลเซียจะปกป้องสิทธิและอธิปไตยของรัฐซาบาห์ ในการหารือกับอินโดนีเซียเกี่ยวกับพื้นที่พิพาทในทะเลสุลาเวสีที่อุดมไปด้วยทรัพยากรน้ำมัน โดยนายอันวาร์กล่าวตามที่หนังสือพิมพ์มาเลย์ เมล์ อ้างเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงการพูดคุยระหว่างการปรึกษาหารือประจำปีครั้งที่ 13 ระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศเมื่อวันอังคารที่แล้ว นายอันวาร์กล่าวเสริมว่า จะปกป้องดินแดนทุกตารางนิ้วของรัฐซาบาห์ในนามของรัฐบาลกลาง มาเลเซียและอินโดนีเซียต่างอ้างสิทธิ์ทับซ้อนเหนือพื้นที่ทางทะเลหมายเลขเอ็นดี6 (ND6) และ เอ็นดี7 (ND7) นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะบอร์เนียว ซึ่งมาเลเซียเรียกว่าทะเลสุลาเวสี และอินโดนีเซียเรียกว่าอัมบาลัต ขณะที่การหารือระหว่างอันวาร์และประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย ที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว มีการคาดหวังว่า ทั้งสองประเทศจะสามารถหาหนทางข้างหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาทวิภาคีที่มีมายาวนานได้ โดยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาร่วมกันอาจได้รับการเปิดเผยจากการประชุมของผู้นำในอีกหนึ่งเดือนต่อมา อย่างไรก็ตาม เมื่อสมาชิกรัฐสภาจากรัฐซาบาห์ ของมาเลเซีย ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่ใกล้กับพื้นที่พิพาทมากที่สุด ซักถามนายอันวาร์ในรัฐสภาเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้าย เนื่องจากการหารือยังคงดำเนินต่อไป นายอันวาร์ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า การหารือของมาเลเซียกับทางอินโดนีเซียเกี่ยวกับพื้นที่พิพาทอัมบาลัต ถือเป็นสัญญาณของมิตรภาพที่ดี แม้จะเป็นปัญหาพรมแดนระหว่างสองประเทศ แต่อินโดนีเซียเป็นพันธมิตรกับมาเลเซีย […]

เจ้าหน้าที่กลาโหมฝ่ายไทย-กัมพูชาเริ่มหารือที่มาเลเซีย

กัวลาลัมเปอร์ 5 ส.ค. – เจ้าหน้าที่กลาโหมฝ่ายไทยและกัมพูชาเริ่มเจรจาเบื้องต้นที่ประเทศมาเลเซียเมื่อวานนี้ ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหมในวันพฤหัสบดี ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างทั้งสองฝ่ายยังเปราะบาง การเจรจาเบื้องต้นระหว่างเจ้าหน้าที่กลาโหมของไทยและกัมพูชา เริ่มต้นขึ้นเมื่อวานนี้ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรีในวันพฤหัสบดี ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบาง ยังคงดำเนินต่อไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ที่มีขึ้นหลังมีการปะทะกันตามแนวพรมแดนระหว่างกัมพูชาและไทยนาน 5 วัน ในที่ประชุมที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อวันจันทร์สัปดาห์ที่แล้ว โดยมีสหรัฐฯ และจีนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย การประชุมระดับเลขาธิการ ซึ่งกองทัพมาเลเซียเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่โรงแรมวิสมา เปอร์วีรา มีตัวแทนจากทั้งสองประเทศเข้าร่วม 54 คน เพื่อวางรากฐานสำหรับเสถียรภาพที่ยั่งยืน หลังเกิดการปะทะทางทหารบริเวณแนวพรมแดนครั้งเลวร้ายที่สุดระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรอบกว่าทศวรรษ รวมถึงการยิงปืนใหญ่และใช้เครื่องบินรบนานหลายวัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 43 ราย ชาวบ้านทั้งสองฝ่ายอพยพรวมกันมากกว่า 300,000 คน โมฮัด นิซัม จัฟฟาร์ ผู้บัญชาการกองทัพบกมาเลเซีย เผยว่า ขณะนี้ ทั้งไทยและมาเลเซียอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการหารือเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ หรือ ทีโออาร์ (TOR) ที่เสนอไว้ และการจัดตั้งกองกำลังติดตามผู้ช่วยทูตฝ่ายกลาโหมชั่วคราว ซึ่งจะนำไปสู่การจัดตั้งคณะผู้ตรวจสอบอาเซียนอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังมีการหารือเรื่องการปรับปรุงรูปแบบการสนับสนุนที่อาจต้องการจากมหาอำนาจ พร้อมเสริมว่า มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีนจะเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

9 ทันโลก : “โดรน” เขี้ยวเล็บไทยในการรบสมัยใหม่

4 ส.ค. – ในความขัดแย้งกับกัมพูชา เราได้เห็นบทบาทของโดรนทางการทหารเป็นครั้งแรก รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปรู้จักกับโดรนในฐานะตัวเปลี่ยนโฉมการรบยุคใหม่ เมื่อไทยเราถูกผลักให้เข้าสู่การสู้รบ สิ่งหนึ่งที่เป็นผลพวงตามมาคือ การเปิดใช้ยุทธวิธีรบแบบใหม่ด้วยอากาศยานไร้คนขับ หรือที่เรียกว่าโดรน ซึ่งมีบทบาทสูงมากในความขัดแย้งทั่วโลก และชี้ถึงความจำเป็นต้องปรับตัวและพัฒนาให้เท่าทันการรบยุคใหม่ “โดรนโจมตี” ลำนี้กำลังเข้าสู่เป้าหมายในเมืองเพนซาของรัสเซีย ส่วนหนึ่งของสงครามโดรนที่ดุเดือดที่สุดบนโลก จากกำเนิดของโดรนที่คิดค้นมากว่าร้อยปีแล้ว ถูกพัฒนามาใช้ประโยชน์ด้านการทหารเริ่มจากใช้เป็นเป้าฝึกทางการทหารช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ต่อมาจึงประยุกต์ใช้ร่วมกับเครื่องยนต์ไอพ่น เติมเทคโนโลยีเข้าไปไม่หยุดนิ่ง ปัจจุบันโดรนจึงมีบทบาทสูงในการรบยุคใหม่ ด้วยจุดเด่นที่มีขนาดเล็ก เงียบ ยากต่อการตรวจการณ์ เป็นเหมือนอากาศยานรบจู่โจมขนาดเล็กกว่า ใช้การควบคุมจากระยะไกลด้วยรีโมต จึงลงความเสี่ยงต่อกำลังพล สามารถติดตั้งอุปกรณ์และอาวุธได้หลากหลาย ในการรบอาจแบ่งลักษณะของโดรนเป็นสองประเภทกว้างๆ คือ 1.โดรนลาดตระเวนที่ใช้สอดแนม เฝ้าตรวจสนามรบ เพื่อสนับสนุนข่าวกรองการรบ เป็นสายตาในอากาศที่ช่วยให้การรบแม่นยำ และ 2.โดรนสำหรับการโจมตี เป็นอาวุธที่ถูกนำมาใช้ควบคู่กับปืนใหญ่ประเภทต่างๆ เพื่อยิงทำลายศัตรู เหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญและทำให้โลกเห็นถึงศักยภาพของโดรนคือ เหตุการณ์เมื่อปี 2563 ที่สหรัฐโดยคำสั่งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีในเวลานั้น ได้ลอบสังหารนายพลกาเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ผู้ทรงอิทธิพลของอิหร่าน ใช้โดรนสังหาร “MQ-9 Reaper” เพียง […]

Morrocco King Mohammed VI

“ทรัมป์” สนับสนุนอำนาจอธิปไตยโมร็อกโกบนพื้นที่ซาฮารา

ราบัต 4 ส.ค.- ผู้นำสหรัฐส่งสาส์นเนื่องในวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก ให้การยอมรับอำนาจอธิปไตยของโมร็อกโกบนพื้นที่ซาฮารา และให้การสนับสนุนเต็มที่กับแผนการปกครองตนเองที่เสนอโดยโมร็อกโก สถานเอกอัครราชทูตโมร็อกโกประจำประเทศไทยแจ้งว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ส่งสาส์นถึงสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งโมร็อกโก (Throne Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 30 กรกฎาคม เนื้อหาใจความของจดหมายถือเป็นพัฒนาการที่มีความสำคัญยิ่ง เนื่องจากระบุว่า สหรัฐให้การยอมรับอำนาจอธิปไตยของโมร็อกโกบนพื้นที่ซาฮารา และให้การสนับสนุนเต็มที่กับแผนการปกครองตนเองที่เสนอโดยโมร็อกโก ซึ่งถือว่าเป็นแผนการเดียวที่อยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม และมีความยั่งยืนในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง สถานเอกอัครราชทูตโมร็อกโกฯ ระบุว่า ในทางการเมือง การย้ำถึงจุดยืนนี้ถือเป็นการยืนยันการสนับสนุน ซึ่งสหรัฐได้เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2563 ส่งผลให้ประเทศอื่น ๆ ดำเนินการสนับสนุนแผนการปกครองตนเองนี้ด้วยเช่นกัน สมเด็จพระราชาธิบดีตรัสไว้ว่า แผนการนี้ ไม่มีผู้ใดชนะหรือแพ้ แต่เป็นทางออกที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องต้องกัน ประเทศที่ให้การสนับสนุนแผนการปกครองตนเองนี้ต่อจากสหรัฐ คือ สเปนและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศอดีตเจ้าอาณานิคมของโมร็อกโก สหราชอาณาจักร โปรตุเกส ประเทศในฝั่งยุโรป แอฟริกา เอเชีย อาหรับ และลาตินอเมริกา สถานเอกอัครราชทูตโมร็อกโกฯ ระบุต่อไปว่า ข้อความในสาส์นของประธานาธิบดีทรัมป์แสดงถึงการเป็นผู้นำอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐในการส่งเสริมการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของโมร็อกโก ที่ร่วมกันรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคง รวมถึงการจัดการการก่อการร้าย ซึ่งถือเป็นด้านสำคัญในความร่วมมือของทั้งสองประเทศ ในทางเศรษฐกิจ […]

1 13 14 15 16 17 5,529
...