5 ส.ค. – ในการโจมตีไทย กัมพูชาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายครั้ง พอหลังหยุดยิงยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับศพทหารที่ถูกทิ้งคาสนามรบ รายงาน 9 ทันโลก วันนี้ พาไปติดตามว่า การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายอาชญากรรมสงครามอย่างไร
ทหารผู้พลีชีพในสนามรบ ไม่ว่าฝ่ายไหนสมควรได้รับคำยกย่องและให้เกียรติ อย่างน้อยจากผู้บังคับบัญชาที่มอบหมายหน้าที่ แต่ขณะนี้มีร่างทหารกัมพูชามากมายที่ถูกทอดทิ้งมานาน บริเวณชายแดนได้กลายเป็นอีกปมปัญหาเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ทหารกัมพูชาเหล่านี้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจังหวัดอุดรมีชัย พวกเขายินดีที่รอดชีวิต จนกระทั่งมีข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเพื่อนทหารของพวกเขาที่ไม่ได้กลับออกมาจากสนามรบ กำลังกลายเป็นปมปัญหาใหญ่บนชายแดน
รัฐบาลกัมพูชากล่าวหาว่าไทยใช้ศพทหารเป็นเครื่องมือในสงครามจิตวิทยา และหันเหเบี่ยงเบนความสนใจไปจากความล้มเหลวของกองทัพไทย รวมไปถึงใช้กลบเกลื่อนการสูญเสียกำลังพลและเป็นฝ่ายที่ทอดทิ้งร่างของทหาร เพราะเกรงว่าจะถูกครอบครัวผู้เสียชีวิตกล่าวโทษ ส่วนฝ่ายไทยในทุกระดับได้ดำเนินการตั้งแต่แจ้งเตือน เรียกร้อง ไปจนถึงประณามการเพิกเฉยในการดูแลร่างทหารผู้เสียชีวิตที่สมควรได้รับการดูแลตามหลักกฎหมายมนุษยธรรม
การปฏิบัติต่อทหารผู้วายชนม์ในการสู้รบ มีหลักการ กฎหมาย และพิธีสารที่ครอบคลุม ให้คู่กรณีนำศพของผู้เสียชีวิตกลับไปสู่ครอบครัวหรือญาติมิตร
อนุสัญญาเจนีวา มีหลักปฏิบัติต่อผู้เสียชีวิตจากการสู้รบ ตั้งแต่การค้นหาผู้ตายและป้องกันมิให้ร่างถูกทำลาย คู่พิพาทจะต้องทำบันทึกรูปพรรณผู้ตาย ร่างผู้เสียชีวิตต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ ถ้าเป็นไปได้ให้เป็นไปตามพิธีศาสนาของผู้เสียชีวิต
ห้ามแยกชิ้นส่วนและห้ามทอดทิ้งร่าง คู่พิพาทแต่ละฝ่ายจะต้องอำนวยความสะดวก และพิทักษ์ร่างผู้เสียชีวิตจากความขัดแย้ง จากการปฏิบัติมิชอบ นอกจากนั้นพิธีสารเพิ่มเติมฉบับที่ 1 กำหนดรายละเอียดการค้นหาและป้องกันร่างผู้เสียชีวิต
กฎหมายและพิธีสารเหล่านี้ยึดมั่นถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศเคยมีคำวินิจฉัยว่า การกระทำที่เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีชีวิตหรือเสียชีวิตแล้ว ถือว่าเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามหลายประเทศได้นำหลักกฎหมายเหล่านี้บรรจุในคู่มือทางทหารที่ยึดถือกันด้วย
ที่ผ่านมาแม้ฝ่ายไทยชี้ว่ารัฐบาลและกองทัพกัมพูชา เพิกเฉยและละเมิดการปฏิบัติต่อศพทหารของตนเอง ที่ละเมิดกฎหมายและขัดกับหลักศีลธรรม ละเมิดเกียรติยศกองทัพกัมพูชา ละเลยศักดิ์ศรีของทหาร และขัดต่อหลักศาสนาของกัมพูชา ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
แต่ฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ในหลายทางว่าไทยบิดเบือนข้อมูล โดยยืนกรานว่ากองทัพกัมพูชาปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาเจนีวา ไม่ว่าจะต่อทหารตนเองหรือทหารชาติอื่น จึงมีการวิเคราะห์เหตุผลของกัมพูชาในหลายแนวทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้หลักนิยม มุ่งการรุก รบอย่างเดียว ไม่ใส่ใจกำลังพลผู้ตาย หรือเพื่อสยบข่าวการสูญเสียทหารจำนวนมาป้องกันการเสียชวัญกำลังใจ หรืออาจเป็นเพราะปิดทางจ่ายเงินเยียวยาหรือเงินชดเชย ซึ่งจะทำได้ต้องระบุรูปพรรณให้ชัดเจน
ดังนั้น เพื่อกำจัดอาชญากรรมสงครามที่กำลังกลายเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขด้วย ไทยอาจเลือกใช้แนวทางสร้างความกระจ่างด้วยการเข้าพึ่งคณะกรรมการกาชาดสากล ขอให้ใช้ความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบและดูแลกระบวนการจัดการศพอย่างเหมาะสม ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อคืนศักดิ์ศรีให้กับทหารกัมพูชาผู้รับคำบัญชาให้ออกรบ.-สำนักข่าวไทย