กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ร่วมกันจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ระหว่างประเทศไทยและอิสราเอล เป็นครั้งแรก

การประชุมเชิงปฏิบัติการนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 สิงหาคม 2568 ที่กรุงเทพฯ โดยมีตัวแทนหน่วยงานทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมมากกว่า 100 คน รวมถึงคณะผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ชั้นนำจากอิสราเอลด้วย
นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการนำผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์จากอิสราเอล มาพบกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐระดับสูง ผู้บริหารด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของไทย เพื่อฝึกอบรมและเรียนรู้ให้ได้วิธีการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการรับมือกับความท้าทายนี้ร่วมกัน
การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างสำนักงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของอิสราเอล และ สกมช. เมื่อปี 2565 โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นอีกก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของทั้งสองประเทศ ผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และความร่วมมืออย่างใกล้ชิด
นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวเปิดการประชุมว่า การที่อิสราเอลต้องรับมือกับการโจมตีไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญวันละหลายร้อยครั้ง ทำให้อิสราเอลต้องพัฒนาโซลูชั่นเรื่องไซเบอร์ที่ได้ชื่อว่าทันสมัยที่สุดในโลก ปัจจุบันอิสราเอลมีบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์มากกว่า 500 แห่ง และครึ่งหนึ่งของบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับยูนิคอร์นของโลกล้วนมีจุดกำเนิดในอิสราเอล บริษัทเหล่านี้มีมูลค่ารวมกันราว 61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,974 ล้านบาท)
เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวด้วยว่า ความปลอดภัยไซเบอร์เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับหลายรัฐบาลและหน่วยงานภาคเอกชน เนื่องจากมีผู้ไม่หวังดีจำนวนมากที่ต้องการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ รัฐบาลและประเทศจึงจำเป็นต้องก้าวนำหน้าผู้ไม่หวังดีอยู่เสมอ.-814.สำนักข่าวไทย