หลายเมืองใหญ่ของอินเดียพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนพุ่งขึ้น

กัลกัตตา 6 ม.ค. – หลายเมืองใหญ่ของอินเดีย เช่น นครเดลี นครมุมไบ และนครกัลกัตตา พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งสูงขึ้น จนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าเชื้อโควิดอาจแพร่กระจายไปสู่พื้นที่ชนบทในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แม้ยอดผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลยังคงอยู่ในระดับคงที่ ทางการอินเดียรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 90,928 คน ทำสถิติเพิ่มขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงขึ้นปีใหม่ โดยพบผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ในหลายเมืองที่มีการระบาดของเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตา แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่มีอาการป่วยหรือมีอาการป่วยเล็กน้อย และหายป่วยได้อย่างรวดเร็วโดยรักษาตัวอยู่ที่บ้าน นครกัลกัตตาในรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดีย ซึ่งมีประชากรราว 15 ล้านคน พบยอดผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่สูงราวครึ่งหนึ่งจากยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั่วประเทศตั้งแต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และกลายเป็นรัฐหนึ่งของอินเดียที่มีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่โรงพยาบาลหลายแห่งในนครกัลกัตตายังคงมีเตียงผู้ป่วยเพียงพอ ขณะที่นครมุมไบในรัฐมหาราษฏระพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 15,166 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนที่มีราว 11,000 คน และนครเดลีพบผู้ป่วยติดเชื้อ 10,665 คน เพิ่มขึ้นสองเท่าจากวันก่อนหน้า โดยที่ทั้งสองเมืองยังคงมีอัตราผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ในระดับต่ำเช่นกัน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดียเตือนว่า ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่มีอาการป่วยปานกลางอาจทำให้ระบบสาธารณสุขเผชิญกับภาวะตึงตัวได้ ขณะที่ทางการอินเดียยืนยันว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอน 2,135 คน และมีผู้เสียชีวิตที่เชื่อมโยงกับสายพันธุ์ดังกล่าว 1 รายเป็นชายสูงอายุที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ขณะนี้ อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 35.1 […]

สส.ฝรั่งเศสผ่านร่าง กม.ใช้แต่ใบรับรองฉีดวัคซีนเท่านั้น

ปารีส 6 ม.ค.- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายเข้มงวดการใช้บัตรผ่านโควิดในการรับบริการสาธารณะ ด้วยการให้ใช้แต่ใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น หลังจากอภิปรายอย่างดุเดือดนานถึง 3 วัน สส.ฝรั่งเศสผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายนี้ด้วยคะแนน 214 ต่อ 93 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียงก่อนเวลา 05:30 น.วันนี้ตามเวลาฝรั่งเศส และจะต้องผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาที่จะพิจารณาในต้นสัปดาห์หน้า รัฐบาลต้องการให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มกราคม แต่มีแนวโน้มจะล่าช้าเพราะการอภิปรายติดขัดในสภาผู้แทนราษฎร ร่างกฎหมายนี้กำหนดให้ผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนในการเข้าร้านอาหาร สถานที่ทางวัฒนธรรม และรถโดยสารสาธารณะข้ามภูมิภาค โดยไม่สามารถใช้ผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบเช่นในปัจจุบันได้อีกต่อไป ยกเว้นการเข้ารับบริการทางการแพทย์ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสถูกวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่กล่าวเมื่อวันอังคารว่า ยุทธศาสตร์เรื่องโควิดของเขาจะก่อกวนผู้ไม่ฉีดวัคซีน ด้วยการเพิ่มมาตรการจำกัดเข้มงวดเพื่อจูงใจให้ไปฉีดวัคซีน ฝรั่งเศสมียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 10 ล้าน 9 แสน 2 หมื่นคน มากเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 124,800 คน มีอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 73.7.-สำนักข่าวไทย

จีนลงโทษ จนท. กรณีหญิงแท้งลูกนอก รพ. ช่วงล็อกดาวน์

ปักกิ่ง 6 ม.ค. – จีนระบุวันนี้ว่า ได้ลงโทษเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุแท้งลูกของหญิงชาวจีนที่ตั้งครรภ์ 8 เดือน เนื่องจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองซีอานที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดไม่ยอมให้เธอเข้ารักษาโดยไม่มีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง หลานสาวของหญิงตั้งครรภ์ได้โพสต์คลิปวิดีโอและรูปภาพบนแอปพลิเคชั่นวีแชตเมื่อวันที่ 1 มกราคมที่แสดงให้เห็นว่า หญิงตั้งครรภ์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้พลาสติกนอกโรงพยาบาลและมีกองเลือดสีแดงนองพื้น ซึ่งมีการส่งต่อเป็นไวรัลไปอย่างกว้างขวาง ส่วนเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยืนกรานไม่รับหญิงตั้งครรภ์เข้าโรงพยาบาล เนื่องจากเธอไม่มีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง โดยที่หลานสาวระบุว่า หญิงตั้งครรภ์มีใบรับรองผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ แต่เพิ่งหมดอายุไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ดี โพสต์ดังกล่าวถูกลบหายไปภายในไม่กี่ชั่วโมงโดยที่มีผู้เข้าชมคลิปกว่า 290 ล้านคน เหตุการณ์นี้ทำให้ชาวเน็ตจีนไม่พอใจอย่างมากในประเด็นเกี่ยวกับความยากลำบากที่ชาวเมืองซีอานในมณฑลส่านซีต้องเผชิญในช่วงล็อกดาวน์เข้มงวด ในขณะเดียวกัน ทางการท้องถิ่นของเมืองซีอาน ซึ่งมีประชากรราว 13 ล้านคน ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า เหตุการณ์ที่โรงพยาบาลซีอานเกาซินทำให้เกิดความวิตกกังวลเป็นวงกว้างและก่อให้เกิดผลกระทบในทางที่ไม่ดีต่อสังคม ขณะนี้หน่วยงานสาธารณสุขของเมืองซีอานกำลังเร่งสืบสวนเรื่องดังกล่าวแล้ว ทางการเมืองซีอานยังได้สั่งลงโทษพักงานผู้จัดการทั่วไปของโรงพยาบาลดังกล่าว และปลดเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแผนกผู้ป่วยนอกออกจากตำแหน่ง ขณะที่คณะกรรมาธิการสุขภาพของเมืองซีอานได้สั่งให้โรงพยาบาลออกแถลงการณ์ขอโทษต่อสาธารณชน และกำชับให้รู้จักไตร่ตรองและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน ทางการจีนรายงานวันนี้ว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายใหม่ 189 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ป่วยติดเชื้อที่เมืองซีอาน 63 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 103,000 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 4,600 คน ขณะที่จีนยังคงเดินหน้าใช้ยุทธศาสตร์คุมยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดเป็นศูนย์ […]

เหอหนานของจีนล็อกดาวน์เพิ่มหลังพบติดโควิดเพิ่ม

เหอหนาน 6 ม.ค.- หลายเมืองในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีนใช้มาตรการควบคุมเข้มงวด หลังจากพบผู้ติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น มณฑลเหอหนานพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ที่มีอาการ 64 คนเมื่อวันพุธ เพิ่มขึ้นจากที่พบเพียง 4 คนเมื่อวันก่อน แม้เป็นตัวเลขไม่สูงเมื่อเทียบกับหลายแห่งของโลก และยังไม่มีพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน แต่หลายเมืองในมณฑลนี้ได้ใช้มาตรการจำกัดครั้งใหม่แล้ว เช่น เมืองกู้สื่อห้ามประชากร 1 ล้านคนออกนอกเมืองและห้ามคนต่างเมืองเดินทางเข้ามา หลังจากพบผู้ติดเชื้อแสดงอาการและไม่แสดงอาการอย่างละ 1 คน เมืองสวี่ชางขอให้ทางการจำกัดการเดินทางของประชาชน และเริ่มตรวจหาเชื้อกับชาวเมืองมากกว่า 4 ล้านคนในช่วง 2 วันนี้ เมืองหยูโจวล็อกดาวน์ประชากร 1 ล้านคน และให้แต่ละครัวเรือนส่งตัวแทนออกไปซื้อสิ่งของจำเป็นได้เพียงคนเดียวในทุก 2 วัน เมืองลั่วหยางที่มีประชากร 7 ล้านคนปิดสถานบันเทิง เมืองซางชิวที่มีประชากรเกือบ 8 ล้านคนงดการเรียนในชั้นเรียนตามโรงเรียนประถมและมัธยมทุกแห่ง ส่วนเมืองซีอาน เมืองเอกของมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนที่ล็อกดาวน์มานานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว พบผู้ติดเชื้อในประเทศรายใหม่ที่มีอาการ 63 คนเมื่อวันพุธ เพิ่มขึ้นจาก 35 คนเมื่อวันก่อน ท่าอากาศยานนานาชาติซีอานเสียนหยางระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกเที่ยวตั้งแต่วันพุธ […]

รพ.ปิยะเวท เผยผู้ป่วยโควิดพุ่ง บางวันแตะ 200 คน

รพ.ปิยะเวท ยอมรับหลังปีใหม่มีผู้ป่วยแอดมิตเข้าระบบรักษาติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้นจริง วันที่พีคสุด ยอดแตะ 200 คน แต่มั่นใจมีเตียงที่ร่วมกับโรงแรมในเครือจัดเป็น hospitel ยังรองรับได้อีกราว 4,000 เตียง

ปานามาบังคับ จนท. รัฐฉีดวัคซีนหรือตรวจทุกสัปดาห์

ปานามา ซิตี 6 ม.ค.- ปานามากำหนดให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ไม่เช่นนั้นต้องตรวจหาเชื้อทุกสัปดาห์ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขปานามาแถลงว่า ประธานาธิบดีเลาเรนติโน กอร์ติโซได้ลงนามในคำสั่งบังคับให้เจ้าหน้าที่รัฐต้องฉีดวัคซีน 3 เข็ม หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อเป็นลบทุกวันจันทร์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม เพราะหน่วยงานของรัฐบาลจะต้องทำงานต่อไปโดยไม่สามารถหยุดเพราะโรคโควิด-19 ปานามาพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,372 คนในวันพุธ และได้ฉีดวัคซีนให้ประชากร 4 ล้าน 2 แสนคนไปแล้ว 6 ล้านโดส ประชากรกลุ่มเป้าหมายอายุ 12 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้วร้อยละ 90 และฉีดวัคซีนเข็ม 2 แล้วร้อยละ 81 รัฐบาลได้ลดระยะห่างเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับคนอายุ 16 ปีขึ้นไป จาก 6 เดือนเหลือ 3 เดือน หลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ปานามามียอดติดเชื้อสะสมมากกว่า 503,400 คน เสียชีวิตมากกว่า 7,400 คน.-สำนักข่าวไทย

CDC แนะฉีดไฟเซอร์เป็นเข็มกระตุ้นให้กลุ่ม 12-15 ปี

วอชิงตัน 6 ม.ค.- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) ขยายเกณฑ์การฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคเป็นเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้ครอบคลุมถึงกลุ่มอายุ 12-15 ปี นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซีแถลงว่า ซีดีซีแนะนำให้กลุ่มอายุ 12-17 ปี รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหลังจากฉีดวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคครบโดสไปแล้วอย่างน้อย 5 เดือน เพื่อเพิ่มการป้องกันโรคโควิด-19 และสายพันธุ์โอไมครอน หลังจากคณะกรรมการที่ปรึกษาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันของซีดีซีออกเสียง 13 ต่อ 1 เสียง แนะนำให้ซีดีซีสนับสนุนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แก่กลุ่มอายุ 12-15 ปี หลังจากฉีดเข็ม 2 ไปแล้วอย่างน้อย 5 เดือน และขอให้ซีดีซีสนับสนุนอย่างแข็งขันมากขึ้นให้กลุ่มอายุ 16-17 ปีรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เนื่องจากซีดีซีอนุญาตกลุ่มอายุ 16-17 ปีแล้ว แต่ไม่ได้แนะนำว่าควรฉีดทุกคน ที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันของซีดีซีได้พิจารณาข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลที่ระบุว่า เด็กวัย 12-15 ปีที่ฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้ว 5-6 เดือน มีอัตราการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเท่ากับเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนเด็กที่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมีอัตราการติดเชื้อลดลงมาก ก่อนหน้านี้สำนักงานอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) ได้อนุมัติเมื่อวันจันทร์ให้ใช้วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคเป็นเข็มกระตุ้นสำหรับกลุ่มอายุ 12-15 ปี […]

ออสเตรเลียถอนวีซ่า “โนวัค ยอโควิช”

เมลเบิร์น 6 ม.ค. – โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสมือวางอันดับ 1 ของโลกจากเซอร์เบียถูกทางการออสเตรเลียเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศหลังจากที่เขาเดินทางถึงนครเมลเบิร์นในวันนี้ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ยอโควิช วัย 34 ปี ถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานในนครเมลเบิร์นเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่สำนักงานพิทักษ์พรมแดนของออสเตรเลียประกาศในเวลาต่อมาว่า เขาไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียและจะถูกส่งตัวออกนอกประเทศ และมีรายงานว่าในขณะนี้ ยอโควิชถูกคุมตัวอยู่ในโรงแรมกักกันของรัฐบาลออสเตรเลียในระหว่างที่รอเที่ยวบินเพื่อออกจากออสเตรเลีย บีบีซีระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังยอโควิช ซึ่งได้รับการยกเว้นฉีดวัคซีนโควิดจากสมาพันธ์เทนนิสออสเตรเลีย ระบุว่า เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียน โอเพ่น ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 17-30 มกราคมนี้ ยอโควิชไม่ได้กล่าวถึงสถานะการฉีดวัคซีนโควิดของเขา แต่เมื่อปีที่แล้วเขาได้กล่าวต่อต้านการฉีดวัคซีน แถลงการณ์ของสำนักงานพิทักษ์พรมแดนออสเตรเลียระบุว่า ยอโควิชไม่มีหลักฐานครบถ้วนตามข้อกำหนดในการเดินทางเข้าออสเตรเลีย และทำให้ถูกเพิกถอนวีซ่าในเวลาต่อมา ทั้งยังระบุว่า ผู้เดินทางที่ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลียที่ไม่มีวีซ่าเข้าประเทศหรือถูกเพิกถอนวีซ่าจะถูกควบคุมตัวและส่งตัวกลับประเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า ออสเตรเลียไม่ได้เลือกปฏิบัติเช่นนั้นกับยอโควิช แต่ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของประเทศ เขาได้รับคำแนะนำว่า ยอโควิชไม่ได้รับข้อยกเว้นทางการแพทย์และมีหลักฐานไม่เพียงพอต่อการเดินทางเข้าออสเตรเลีย ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในเซอร์เบียร์ เซอร์จัน ยอโควิช บิดาของโนวัค ยอโควิช กล่าวด้วยความไม่พอใจว่า ลูกชายของเขาถูกคุมตัวในห้องพักโรงแรมที่มีตำรวจยืนคุมหน้าห้อง ขณะที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ วูชิช ของเซอร์เบีย […]

ผอ.เรือนจำกลางสหรัฐลาออกหลังถูกวิจารณ์หนักเรื่องโควิด

ลอสแอนเจลิส 6 ม.ค.- ผู้อำนวยการสำนักงานทัณฑสถานกลางของสหรัฐขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการรับมือกับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ระบาดในเรือนจำ นายไมเกล การ์วาฮาล ทำงานในสำนักงานทัณฑสถานกลางมาเป็นเวลา 30 ปีและได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทัณฑสถานกลางคนที่ 11 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ในสมัยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน ดูแลทัณฑสถาน 122 แห่ง สำนักงานภูมิภาค 6 แห่ง ศูนย์ฝึกอบรม 2 แห่ง ทัณฑสถานที่ให้เอกชนดูแล 10 แห่ง และสำนักงานดูแลผู้ต้องขังใกล้ได้รับการปล่อยตัว 22 แห่ง มีเจ้าหน้าที่ในความดูแลทั้งหมด 37,500 คน และผู้ต้องขัง 151,000 คน นายการ์วาฮาลถูกคณะกรรมการตุลาการในวุฒิสภาทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตกดดันเรื่องวิธีการรับมือกับโควิดระบาด เช่น ไม่มีการตรวจหาเชื้ออย่างเพียงพอ มีผู้ต้องขังเกือบ 42,000 คน และเจ้าหน้าที่เกือบ 9,000 คนติดโควิดและหายแล้ว และมีผู้ต้องขัง 275 คน และเจ้าหน้าที่ 7 […]

สธ.ยกระดับเตือนภัยโควิด-19 ปิดสถานที่เสี่ยง ชะลอข้ามจังหวัด

สธ. ยกระดับมาตรการเตือนภัยโควิดเป็นระดับ 4 ปิดสถานที่เสี่ยง ชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด หลังวันนี้ป่วย 5,775 คน ตาย 11 คน ชี้โอไมครอนแพร่เร็ว แม้ไม่รุนแรงแต่หากป่วยเยอะมีโอกาสพบผู้เสียชีวิตมากขึ้น

สัญญาณการระบาดโควิดระลอกใหม่

การเปิดทำงาน 2 วันแรก คือเมื่อวานกับวันนี้ มีสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับโควิด-19 จากกลุ่มเส้นด้าย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด-19 ช่วงการระบาดหนักเมื่อกลางปีที่แล้ว นั่นคือมีผู้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจำนวนมาก หลังจากที่หยุดยาวหลายวัน

1 68 69 70 71 72 1,427
...