ชลบุรีเจอแล้ว 2 นักท่องเที่ยวอินเดียติดโควิด
สสจ.ชลบุรี เจอแล้ว 2 นักท่องเที่ยวอินเดียไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หลังประกาศตามหาตัว เนื่องจากผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
สสจ.ชลบุรี เจอแล้ว 2 นักท่องเที่ยวอินเดียไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หลังประกาศตามหาตัว เนื่องจากผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก
ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ภูเก็ตเริ่มพบจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด ทั้งในส่วนของคนไทยและต่างชาติเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา ส่งผลให้ภูเก็ตขยับและปรับทัพเพื่อรับมือสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ในตอนนี้
ซิดนีย์ 5 ม.ค.- นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียประกาศเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดในการตรวจหาเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อแบ่งเบาภาระของศูนย์ตรวจแบบพีซีอาร์ (PCR) ที่งานล้นมือจนหลายแห่งต้องปิดตัวไปแล้ว นายกรัฐมนตรีมอร์ริสันเผยหลังจากประชุมออนไลน์กับมุขมนตรีรัฐและดินแดนต่าง ๆ ในวันนี้ว่า ผู้มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจแอนติเจนแบบรวดเร็วหรือเอทีเค (ATK) ไม่จำเป็นต้องไปตรวจแบบพีซีอาร์เพื่อยืนยันผลอีกต่อไป เพราะจะเพิ่มแรงกดดันให้แก่ศูนย์ตรวจแบบพีซีอาร์ ผู้นำออสเตรเลียเผยด้วยว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถรับเอทีเคฟรี 10 ชุดได้ที่ร้านขายยา และจะมีการตรวจฟรีให้แก่ผู้มีอาการหรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ออสเตรเลียยังคงมีผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้ติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศูนย์ตรวจมีคนเข้าแถวรอยาวเหยียด โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 64,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 47,000 คนเมื่อวันก่อน และมีผู้เข้าโรงพยาบาล 2,990 คน เพิ่มขึ้นจาก 2,684 คนเมื่อวันก่อน ในจำนวนนี้ 196 คนอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤติ เพิ่มขึ้นจาก 183 คนเมื่อวันก่อน รัฐนิวเซาท์เวลส์ที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้มากถึง 35,054 คน.-สำนักข่าวไทย
ชาวเชียงใหม่ รุดตรวจ ATK และฉีดวัคซีนเข็ม 3 หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ พุ่งกว่า 300 คน โอไมครอนเพิ่มอีก 13 ราย
กรมการแพทย์ เผยโควิดเข้าสู่เวฟ 5 แล้ว มาเร็วกว่าคาดการณ์ เดิมคาด 10 ม.ค. ตัวเลขผู้ป่วยเริ่มไต่ขึ้น พร้อมแจงอัตราเตียงพอในระบบ หากผู้ป่วยไม่สูงเกิน 30,000 คนต่อวัน ชี้อาการโอไมครอน ใกล้เคียงหวัด ใช้เกณฑ์วัดไข้ไม่ได้ หากรู้ตัวป่วย ให้หยุด แยกตัวงดทำกิจกรรมร่วม และตรวจ ATK พร้อมประสาน กทม. จัดทำ Ci เด็กและต่างด้าวทั้ง 6 โซนของ กทม.
ฮ่องกง 5 ม.ค.-ฮ่องกงห้ามเที่ยวบินมาจาก 8 ประเทศเข้าฮ่องกงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และเข้มงวดมาตรการจำกัดการระบาดในฮ่องกง เพราะเกรงว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 กำลังจะระบาดเป็นระลอกที่ 5 นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารฮ่องกงแถลงวันนี้ว่า จะห้ามเที่ยวบินขาเข้ามาจากออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ อังกฤษ และสหรัฐตั้งแต่วันที่ 8-21 มกราคม ขณะเดียวกันจะห้ามการนั่งรับประทานในร้านอาหารหลังเวลา 18:00 น.ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ปิดสระว่ายน้ำ ศูนย์กีฬา คลับ บาร์ พิพิธภัณฑ์และสถานที่อื่น ๆ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ รวมทั้งจะยกเลิกการล่องเรือสำราญด้วย เพราะฮ่องกงใกล้จะเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 5 ทางการกังวลว่า อาจมีการแพร่เชื้อเป็นกลุ่ม ๆ อย่างเงียบ ๆ ภายในชุมชน และผู้ติดเชื้อบางรายมีกิจกรรมมากมายก่อนจะรู้ตัวว่าติดเชื้อ ด้าน ดร.กาเบรียล เหลียง คณบดีคณะแพทย์ลีกาชิง มหาวิทยาลัยฮ่องกงและที่ปรึกษารัฐบาลฮ่องกงเผยกับสถานีวิทยุโทรทัศน์อาร์ทีเอชเค […]
ลอนดอน 5 ม.ค. – คุณแม่ชาวอังกฤษลงทุนขับรถพาลูกสาว วัย 9 ปี จากอังกฤษไปอิตาลีเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางยาวนานกว่าสิบชั่วโมงและมีระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ขณะนี้ อังกฤษยังคงไม่อนุมัติให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ยกเว้นเด็กที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิดสูง ทำให้นางอลิซ โคลัมโบ คุณแม่ชาวอังกฤษ ต้องลงทุนขับรถยนต์จากเมืองเคนต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ไปยังนครมิลานของอิตาลี เพื่อให้ลูกสาว ซึ่งมีสัญชาติอิตาเลียน ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด โดยที่อิตาลีอนุมัติให้ฉีดวัคซีนให้เด็กอายุระหว่าง 5-11 ปีแล้ว นางโคลัมโบเผยกับบีบีซีว่า เธอยอมทำเช่นนี้เพื่อปกป้องลูกสาว ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต เธอยอมเสี่ยงกับวัคซีนโควิดที่รู้จักดีพอมากกว่าที่จะเสี่ยงกับเชื้อโควิดที่ยังมีข้อมูลน้อยมาก และรู้สึกวิตกกังวลอย่างมากกับผลกระทบหลังติดเชื้อโควิดและป่วยเป็นระยะยาวนาน หรือภาวะลองโควิด (Long Covid) ทั้งนี้ คุณแม่ชาวอังกฤษและลูกสาวได้ขับรถยนต์จากอังกฤษไปอิตาลีโดยใช้เวลายาวนานถึง 13 ชั่วโมง โดยตัดสินใจไม่ใช้บริการเที่ยวบินเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิดในท่าอากาศยานและบนเครื่องบิน ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษระบุว่า กำลังพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประกาศคำแนะนำเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปีในช่วงเวลาที่เหมาะสม แต่เด็กส่วนใหญ่ในช่วงอายุดังกล่าวมีความเสี่ยงต่ำมากที่จะมีอาการป่วยรุนแรงหลังติดเชื้อโควิด ขณะนี้ อังกฤษมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 13.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 148,000 […]
บุรีรัมย์พบติดเชื้อเพิ่มจากคลัสเตอร์อุบัติเหตุอีก 8 ราย แนะชาวบ้านสังเกตอาการตัวเอง ขณะที่พิจิตร ตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงคลัสเตอร์ฉลองปีใหม่ ส่วนที่เชียงใหม่ พบติดโอไมครอนอีก 13 ราย
ชลบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 529 ราย จากหลายคลัสเตอร์และคนใกล้ชิด
นิวเดลี 5 ม.ค.- สื่ออินเดียรายงานว่า ทางการอนุมัติให้ภารัตไบโอเทคที่เป็นบริษัทในประเทศทำการทดลองระยะสุดท้ายกับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แบบพ่นจมูก เพื่อใช้เป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หนังสือพิมพ์มินต์อ้างสำนักข่าวเอเอ็นไอ (ANI) ในอินเดียว่า คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของสำนักงานควบคุมยาแห่งอินเดียได้อนุมัติในหลักการให้ภารัตไบโอเทคทำการศึกษาข้อดีระยะที่ 3 และศึกษาการเป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันระยะที่ 3 กับวัคซีนป้องกันโควิดแบบพ่นจมูก หลังจากภารัตไบโอเทคได้ยื่นขออนุมัติจากสำนักงานควบคุมยาเมื่อเดือนธันวาคม โดยให้เหตุผลว่า การใช้วัคซีนแบบพ่นจมูกกระตุ้นภูมิคุ้มกันจะเอื้อให้การรณรงค์รับวัคซีนขนานใหญ่ทำได้ง่ายขึ้น อินเดียได้อนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันเมื่อวันคริสต์มาส เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้าเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ โดยจะฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และคนทำงานแนวหน้าตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม แต่ยังไม่อนุมัติให้ใช้บีบีวี 154 (BBV154) ซึ่งเป็นวัคซีนแบบพ่นจมูกของภารัตไบโอเทคที่ได้รับอนุมัติเมื่อเดือนสิงหาคมให้ทดลองระยะที่ 2 ไปจนถึงระยะที่ 3 สื่ออินเดียรายงานว่า การทดลองระยะที่ 2 เสร็จสิ้นไปแล้ว วัคซีนป้องกันโควิดที่อินเดียใช้อยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนแบบฉีดคือ โควิชีลด์ (Covishield) ซึ่งเป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย และโควาซิน (Covaxin) ที่ผลิตโดยภารัต ไบโอเทค อินเดียมีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วร้อยละ 44.3 และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ 58,097 คน เพิ่มขึ้น 2 เท่าจาก 4 วันก่อน ทำให้ยอดติดเชื้อสะสมเกิน […]
ผู้โดยสารหลายพันคนบนเรือสำราญในฮ่องกง ถูกกักตัวเพื่อตรวจโควิด-19 หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุผู้โดยสารบนเรือ 9 คน เชื่อมโยงกับกลุ่มก้อนการระบาดของโควิดโอไมครอน
เทลอาวีฟ 5 ม.ค. – นายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ ของอิสราเอล อ้างผลวิจัยเบื้องต้นของอิสราเอลที่ระบุว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่สี่ช่วยกระตุ้นภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าหลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์ นายกรัฐมนตรีเบนเนตต์กล่าวที่ศูนย์การแพทย์ชีบาของอิสราเอลเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดเข็มสี่มีระดับภูมิต้านทานโรคโควิดสูงขึ้นและปลอดภัยหลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์ โดยมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า สิ่งนี้เป็นหลักฐานยืนยันได้ว่าการฉีดวัคซีนเข็มสี่จะช่วยลดอัตราผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล และผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงได้ ขณะนี้ อิสราเอลได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิดเข็มสี่ให้แก่ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำแล้ว ก่อนหน้านี้ ศูนย์การแพทย์ชีบาของอิสราเอลได้เริ่มทดลองฉีดวัคซีนโควิดเข็มสี่ของไฟเซอร์/ไบออนเทคให้แก่เจ้าหน้าที่การแพทย์ 150 คนที่มีระดับภูมิต้านทานโรคโควิดลดลงอย่างมากหลังฉีดวัคซีนโควิดเข็มสามเมื่อ 4-5 เดือนก่อน และมีอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มสี่ของโมเดอร์นาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนเข็มสี่ที่ไม่แตกต่างกับการฉีดวัคซีนเข็มสาม เช่น อาการปวด มีไข้ และเวียนศีรษะ ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุว่า อิสราเอลพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดรายวันพุ่งสูงขึ้นถึง 10 เท่าในรอบเดือนที่ผ่านมา และมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่มีอาการป่วยรุนแรงเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่อยู่ในระดับที่ช้าลงกว่าเดิม ขณะนี้ อิสราเอลมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.4 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 8,200 คน […]