“ปศุสัตว์” เชื่อมโยงการจำหน่ายข้าวโพดพร้อมฝักถึงปลายทางผู้เลี้ยงโคนม

ปราจีนบุรี 9 ก.พ. – อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานการลงนามร่วมระหว่างผู้ผลิตข้าวโพดพร้อมฝักกับผู้รวบรวมและผู้ซื้อ ปลายทางคือ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมที่ต้องการอาหารหยาบคุณภาพดี สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มปริมาณน้ำนมโคได้ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นประธานพิธีเปิดงาน “เปิดแปลงแถลงข่าว การผลิตข้าวโพดพร้อมฝัก เชื่อมโยงเครือข่ายผู้ผลิตผู้รวบรวมและผู้ซื้อ” ณ หมู่ที่ 5 ตำบลวังตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โครงการนี้เป็นการส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตอาหารหยาบคุณภาพดีในพื้นที่จำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยจะเชื่อมโยงตลาดข้าวโพดพร้อมฝักตลอดห่วงโซ่การผลิตซึ่งปลายทางคือ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ปัจจุบันข้าวโพดพร้อมฝักเป็นอาหารหยาบคุณภาพดี เป็นที่ต้องการของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมอย่างมาก ห่วงโซ่การผลิตข้าวโพดพร้อมฝักได้แก่ ผู้ผลิตคือ กลุ่มผู้ปลูกข้าวโพดพร้อมฝัก ผู้รวบรว คือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตและแปรรูปอาหารสัตว์ อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ทำหน้าที่นำข้าวโพดพร้อมฝักไปเก็บสำรองในรูปแบบข้าวโพดพร้อมฝักหมักหรือผลิตเป็นอาหารผสมครบส่วน (TMR) และทยอยจำหน่ายให้กับปลายทางคือ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ได้แก่ ฟาร์มโคนมสมาชิกสหกรณ์โคนม 5 แห่งในพื้นที่ปศุสัตว์เขต 2 การเชื่อมโยงการผลิตข้าวโพดพร้อมฝักตลอดห่วงโซ่จะส่งผลให้การเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะการเลี้ยงโคนมให้ผลผลิตและคุณภาพน้ำนมดีขึ้น โดยต้นทุนในการผลิตลดลง นอกจากนี้สำนักพัฒนาอาหารสัตว์มีบริการคำนวณสูตรอาหารสัตว์ตามความต้องการของสัตว์แต่ละระยะของการให้ผลผลิต ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรตามแนวทางการลดต้นทุนด้านอาหารสัตว์ของกรมปศุสัตว์ อีกทั้งบริการให้ยืมเครื่องจักรกลอาหารสัตว์ในโครงการ Motor pool เพื่อลดภาระการซื้อเครื่องจักรกลอาหารสัตว์ของเกษตรกรอีกด้วย.- 512 – สำนักข่าวไทย

“ธรรมนัส” ห่วงอธิบดีกรมข้าว พบชายนิรนาม-โดรนปริศนาใกล้บ้าน

“ธรรมนัส” เรียกอธิบดีกรมการข้าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีถูกชายนิรนามเฝ้าหน้าบ้าน ทั้งยังมีโดรนปริศนาบินรอบบ้าน ห่วงความไม่ปลอดภัย

“ธรรมนัส” สั่งทำฝนหลวงต่อเนื่อง บรรเทาฝุ่น PM 2.5

กรุงเทพฯ 7 ก.พ. – อธิบดีกรมฝนหลวงฯ เผยให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเดินหน้าทำฝนเพื่อลดการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ล่าสุดสถานการณ์ใน กทม. และปริมณฑล ดีขึ้น ขณะที่ภาคเหนือ ให้ขึ้นบินปฏิบัติการทำฝนครอบคลุมทั้งภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ตามข้อสั่งการของ รมว.ธรรมนัส นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเปิดเผยว่า ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และโดยเฉพาะบริเวณกรุงเทพฯและปริมณฑล เนื่องจากพบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน (สีส้ม) ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเผาชีวมวลในภาคตะวันออกและประเทศเพื่อนบ้าน พบจุดความร้อน (Hot Spot) ค่อนข้างสูง ประกอบกับบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้รับอิทธิพลลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้ จึงส่งผลให้พัดพาฝุ่นละอองจากการเผาชีวมวลของประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ภาคตะวันออกและพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งภาคกลางของประเทศไทย ทั้งนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรติดตามสถานการณ์และสภาพอากาศเป็นประจำทุกวัน โดยได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2566 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย 1. หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดระยอง […]

นำช้างมาเร่ร่อนผิดกฎหมายหลายฉบับ วอนไม่สนับสนุน

นครสวรรค์ 7 ก.พ. – ปศุสัตว์จังหวัดนครสวรรค์เผย สามีภรรยานำช้างมาเร่ขายของที่จ. นครสวรรค์ แต่เกิดเหตุช้างชนคนเลี้ยง แล้วเหยียบซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าของนำช้างกลับภูมิลำเนาแล้ว ย้ำการนำช้างออกมาเร่ร่อนหารายได้ ผิดกฎหมายฉบับ วอนประชาชนไม่สนับสนุน นายเจษฎา องอาจ ปศุสัตว์จังหวัดนครสวรรค์กล่าวว่า ได้มอบหมายให้สัตวแพทย์อาวุโส สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครสวรค์ ร่วมกับด่านกักกันสัตว์นครสวรรค์ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเก้าเลี้ยวตรวจสอบเหตุช้างเหยียบคนเสียชีวิตที่อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ โดยประสานกับสถานีตำรวจภูธรเก้าเลี้ยว เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านเขาดินใต้ หมู่ที่ 4 ตำบลเขาดิน อำเภอเก้าเลี้ยว เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 09.30 น. โดยผู้เสียชีวิตพร้อมสามีนำช้างแม่ลูกมาเร่ร่อนขายของ โดยช้างแม่ชนคนเลี้ยงและเหยียบซ้ำจนถึงแก่ความตาย โดยสามีและญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการเสียชีวิต จากนั้นนำช้างและร่างของผู้เสียชีวิตกลับไปยังจังหวัดสุรินทร์ไปแล้ว นายเจษฎากล่าวว่า การนำช้างเข้ามาเร่ร่อนเพื่อหารายได้ เป็นการใช้งานสัตว์เลี้ยงที่ไม่เหมาะสม ผิดกฎหมายหลายฉบับและมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ. สัตว์พาหนะ พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์  พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ร.บ. ทางหลวง พ.ร.บ.จราจร การแก้ปัญหาต้องใช้ความร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง […]

เอกชน ประเมินปี 67 ไทยส่งออกข้าวได้ 7.5 ล้านตัน

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.-นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยประเมินส่งออกข้าวไทยปี 67 หลังในปี 66 ไทยส่งออกได้กว่า 8.7 ล้านตัน สูงกว่าเป้าหมายที่ 8 ล้านตัน แต่ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะส่งออกได้เพียง 7.5 ล้านตัน จากปัญหาภัยแล้งและการแข่งขันที่รุนแรง เป็นคาดการณ์เดียวกับภาคเอกชน ซึ่งผู้ส่งออกข้าวไทย ย้ำว่า การค้าข้าวโลกที่มีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะไทย- เวียดนาม จะเป็นคู่แข่งสำคัญ ในการครองตลาดเป็นผู้ส่งออกข้าว อันดับ 2 ของโลก นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า จากข้อมูล ของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา หรือ USDA คาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวของโลก จะทรงตัวเท่ากับปีที่แล้ว เฉลี่ย 513 ล้านตัน โดยจีน มีผลผลิตมากที่สุด 144 ล้านตัน รองลงมาเป็นอินเดีย 132 ล้านตัน บังคลาเทศ อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย ผลิตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ประมาณ […]

กระทรวงเกษตรฯ เคลียร์ชัด ไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร วอนเลิกโยงการเมือง

กรุงเทพฯ 6 ก.พ. – โฆษกกระทรวงเกษตรฯ เผยตำรวจพิสูจน์หลักฐานสรุปสาเหตุไฟไหม้จาก “ไฟฟ้าลัดวงจร” วอนเลิกโยงการเมือง กระทรวงมุ่งทำงานเพื่อเกษตรกร นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ ชั้น 2 ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า หลังจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน, นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนักเคมี-ฟิสิกส์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บพยานหลักฐานหลังเกิดเหตุ ประกอบกับกล้องวงจรปิดบันทึกภาพตรงกันกับคำให้การของพยานในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นสรุปว่าเป็นอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจากรางเก็บสายไฟ ภายในห้องครัว ชั้น 2 ไม่มีการลอบวางเพลิงหรือมีประเด็น “ลับลวงพราง” ทางการเมืองแต่อย่างใด วอนสังคมหยุดโยงประเด็นทางการเมือง และอยากให้เปิดพื้นที่ด้านผลงานต่างๆ ของกระทรวงเกษตรฯ ที่กำลังดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพื่อเกษตรกรแทนจะดีกว่า สำหรับเอกสารสำคัญอื่นๆ ไม่ได้รับความเสียหาย มีเพียงแค่เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในจุดเกิดเหตุ รวมไปถึงกลิ่นควันไฟไหม้ที่ยังคงรุนแรง ส่วนระยะเวลาในการปรับปรุงพื้นที่คาดการณ์ว่าประมาณ 2-3 เดือน จะปรับปรุงแล้วเสร็จ สามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะทำรายงานสรุปผล มอบให้กับพนักงานสอบสวน สน. นางเลิ้ง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป . -512 – สำนักข่าวไทย

“ไชยา” เผยไม่มีคณะทำงานชื่อ “ก” หลังถูกโยงปล่อยข้อมูลร้องกรมฝนหลวงฯ

กรุงเทพฯ 6 ก.พ.- รมช. ไชยาลั่น อย่าโยงประเด็น “นาย ก” เข้ากับคณะทำงานของตน ไม่มีชื่อนี้ ไม่เคยยืมตัวข้าราชการช่วยงาน ชี้เป็นรัฐมนตรีกำกับดูแลกรมฝนหลวงฯ ทำไมต้องไปร้องสภาตรวจสอบ เป็นความพยายามโยงที่ไร้สาระ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า วันนี้ยังนั่งทำงานรวมกับคณะทำงานทั้งหมดที่ห้องประชุม 123 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยคาดว่า จะเข้าไปนั่งทำงานชั่วคราวที่กรมชลประทานได้ตั้งแต่พรุ่งนี้ ในระหว่างที่ซ่อมแซมและปรับปรุงส่วนที่ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ นายไชยากล่าวถึงการที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำรายชื่อของข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 รายมอบให้แก่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อให้เรียกมาสอบปากคำ โดยระบุว่า ข้าราชการ 2 คนนี้เป็นผู้ให้ข้อมูลการทุจริตโครงการต่างๆ ในกรมการข้าวและกรมฝนหลวงและการบินเกษตรแก่แก๊งตบทรัพย์ ทำให้มีการโยงชื่อ “นาย ก” ว่า เกี่ยวข้องกับนายไชยาในฐานะที่กำกับดูแลกรมฝนหลวงและการบินเกษตร นายไชยากล่าวว่า ไม่เคยขอตัวข้าราชการมาช่วยงาน อีกทั้งคณะทำงานไม่มีใครชื่อขึ้นต้นด้วยอักษร ก พร้อมพูดติดตลกว่า “นาย ก คือ กุ๊กไก่หรือเปล่า” นอกจากนี้ยังย้ำว่า อย่าพยายามโยงให้ตนไปเกี่ยวข้องกับการร้องเรียนกรมฝนหลวงฯ เนื่องจากตนเป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล สามารถใช้อำนาจทางบริหารยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ หากพบการทุจริต รวมถึงไม่มีความจำเป็นจะต้องยืมมือใครไปร้องเรียนคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ […]

ภาพวงจรปิดเผยช่างแอร์-ฉีดปลวกเข้าทำงานวัน ก. เกษตรฯ ไฟไหม้

โฆษก ก.เกษตรฯ ย้ำกล้องวงจรปิดไม่พัง ตรวจสอบภาพที่บันทึกได้เทียบเคียงกับสอบถามพ่อบ้าน พบข้อมูลตรงกัน มีช่างแอร์และช่างฉีดปลวกเข้ามาทำงานที่กระทรวง ยืนยันกล้องวงจรปิดไม่พัง อีกทั้งตำรวจเก็บหลักฐานและภาพจากเซิร์ฟเวอร์ ตลอดจนสอบปากคำพ่อบ้าน เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้แล้ว

“ธรรมนัส” ไม่ห่วงกล้องวงจรปิด ตร. เก็บภาพจากเซิร์ฟเวอร์หมดแล้ว

“ธรรมนัส” รมว.เกษตรฯ ย้ำไม่ต้องท้าเปิดกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ตำรวจปิดพื้นที่เก็บหลักฐาน นำภาพจากเซิร์ฟเวอร์ไปประกอบการสอบสวนแล้ว ชี้ไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมาธิการงบประมาณเชิญอธิบดีกรมการข้าวและกรมฝนหลวงฯ ไปชี้แจ

“ธรรมนัส-ไชยา” สำรวจความเสียหายจากไฟไหม้ ย้ำอย่าโยงกับประเด็นการเมือง

กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – รมว.ธรรมนัส และ รมช.ไชยา ร่วมสำรวจความเสียหายบริเวณพื้นที่เกิดเพลิงไหม้ โดยระหว่างปรับปรุงส่วนทำงานของ รมช.ไชยา จะใช้พื้นที่ของกรมชลประทานทำงานชั่วคราวไปก่อน โฆษกกระทรวงเกษตรฯ ย้ำ อย่าโยงเหตุเพลิงไหม้เข้ากับประเด็นการเมือง นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงกรณีเหตุเพลิงไหม้ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า วันนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุเพลิงไหม้ โดยได้รับการอนุญาตจากกองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเข้าไปเก็บของและสำรวจความเสียหาย ตลอดจนดูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อวางแผนในการปรับปรุง หลังจากที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเป็นที่เสร็จสิ้นแล้ว เบื้องต้น พบความเสียหายบริเวณห้องครัวได้รับความเสียหายหนักสุด และคาดการณ์ว่า น่าจะเป็นจุดต้นเพลิง เนื่องจากบริเวณจุดนี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก และยังมีร่องรอยการเผาไหม้ที่เกิดขึ้น สันนิษฐานว่า ต้นเพลิงจากห้องครัวทำให้เปลวไฟได้ลุกลามติดผ้าม่านวอลล์เปเปอร์ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เปลวไฟทวีความรุนแรงและได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ร้อยเอกธรรมนัสสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่ทันทีเพื่อสำรวจความเสียหาย และวางแผนปรับปรุงห้องใหม่ทั้งโซน เพื่อซ่อมแซมทั้งโครงสร้าง พื้นเพดานใหม่ทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และให้ใช้พื้นที่ของกรมชลประทานเป็นที่ทำงานชั่วคราวของนายไชยาระหว่างรอการปรับปรุงพื้นที่ สำหรับสิ่งของภายในห้องทำงานของนายไชยาไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ทุกอย่างอยู่ครบตามปกติ มีเพียงแค่พื้นชุ่มฉ่ำเปียกน้ำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงตอนเกิดเหตุ จึงกลายเป็นน้ำท่วมขังอยู่ในห้อง วันนี้นายไชยาได้นำของที่สำคัญและเอกสารในการทำงานออกมาเพื่อปฎิบัติหน้าที่ต่อในพื้นที่ทำงานชั่วคราวที่กรมชลประทานซึ่งไม่ได้เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่ ยังคงเดินหน้าทำงานต่อตามปกติ ส่วนกรณีที่ […]

3 รมต.เกษตรฯ ประชุมจัดทำงบ 68 มุ่งบรรลุเป้าเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าในปี 70

กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – รมว.เกษตรฯ นำทีมผู้บริหาร หารือการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมกับสำนักงบประมาณ เน้นขับเคลื่อนงานสำคัญด้าน 9 ด้าน มุ่งบรรลุเป้าหมายเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่าให้ได้ในปี 2570 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมหารือการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ร่วมกับสำนักงบประมาณ ณ ห้องประชุมธารทิพย์ 01 ชั้น 4 อาคาร 99 ปี ม.ล ชูชาติ กำภู กรมชลประทาน สามเสน ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า การขับเคลื่อนงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 […]

“ไชยา” เตรียมเข้าดูห้องทำงานชั่วคราว หลังประชุมเช้านี้

3 รมต.เกษตรฯ ยกขบวนไปประชุมการจัดทำงบประมาณปี 68 ที่กรมชลประทาน จากเดิมกำหนดประชุมที่กระทรวง “ไชยา” เผยสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงฯ เตรียมห้องประชุมปีกขวา ให้เป็นห้องทำงานชั่วคราว โดยจะเข้าไปดูวันนี้

1 21 22 23 24 25 473
...