เร่งดันกฎกระทรวงฯ กำหนดความเร็วยานพาหนะสูงสุด 120 กม./ชม.

กรุงเทพฯ 25 ก.พ.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินหน้าเร่งผลักดันกฎกระทรวงฯ กำหนดความเร็วยานพาหนะใช้ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม.


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการผลักดันนโยบายปรับเพิ่มอัตราความเร็วสูงสุดของรถยนต์บนถนนทางหลวงให้สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในปัจจุบัน ตลอดจนความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในทุกการเดินทางของประชาชน

ทั้งนี้  ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยกรมทางหลวง (ทล.)  กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เร่งรัดดำเนินการให้ร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วยานพาหนะ สามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยภายในต้นเดือนเมษายน 2564 ซึ่งมีแผนการดำเนินงาน (Timeline) ดังนี้ ภายหลังจากที่มีการประชุมหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในวันนี้ (25 กุมภาพันธ์ 2564) สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเสนอความเห็น และข้อเสนอในการปรับปรุงร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วยานพาหนะดังกล่าว ไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ภายใน 14 วัน


สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะพิจารณาและเสนอความเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ กลับมายังกระทรวงคมนาคม ภายใน 7 วัน เพื่อให้กระทรวงคมนาคมยืนยันร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วยานพาหนะฯ กระทรวงคมนาคม จะดำเนินการพิจารณาตรวจสอบและยืนยันความเห็น ข้อเสนอแนะต่างๆ ตามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และแจ้งกลับไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อทราบ ภายใน 7 วัน ภายหลังจากแจ้งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้ว ภายใน 5 วัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะลงนามในกฎกระทรวงกำหนดความเร็วยานพาหนะฯ ส่งกลับไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา ภายใน 7 วัน

นายศักดิ์สยามฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงคมนาคมได้พยายามผลักดันนโยบายปรับเพิ่มอัตราความเร็วสูงสุดของรถยนต์บนถนนทางหลวง โดยพิจารณาจากความปลอดภัยเป็นสำคัญ ซึ่งต้องพิจารณาจากลักษณะทางกายภาพ และสภาพการใช้พื้นที่ ตลอดจนการอยู่อาศัย ซึ่งพบว่าสามารถปรับเพิ่มความเร็วสูงสุดของรถยนต์ส่วนบุคคลขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 90 กม./ชม. เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. ทั้งนี้ เฉพาะพื้นที่ที่มีความปลอดภัยทางกายภาพ ซึ่งจะต้องเป็นถนนที่มีมาตรฐานสูงขนาด 4 ช่องจราจรขึ้นไป ไม่มีจุดตัดหรือจุดกลับรถเสมอระดับถนน มีการแบ่งทิศทางจราจรอย่างชัดเจน และมีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) โดยกำหนดความเร็วขั้นต่ำสำหรับช่องจราจรขวาสุดไว้ไม่ต่ำกว่า 100 กม./ชม. เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุชนท้ายกันในช่องทางที่รถวิ่งด้วยความเร็ว พร้อมทำการปักป้ายกำกับความเร็วตลอดแนวเส้นทางโดยวิศวกรของหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น ป้ายจำกัดความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ในเขตชุมชนหรือเขตโรงเรียน ป้ายจำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ในบริเวณทางโค้ง ทางแยก หรือทางกลับรถ ป้ายจำกัดความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. บริเวณทางตรงซึ่งสามารถทำความเร็วได้ แต่ต้องไม่เกินตามที่ป้ายกำหนด

โดยผู้ขับขี่ต้องปฎิบัติตามกฎจราจรและขับขี่ด้วยความเร็วตามที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนนตลอดการเดินทาง


สำหรับรถประเภทอื่นๆ ได้มีการพิจารณาปรับกำหนดความเร็วขึ้นตามความเหมาะสม ทั้งรถบรรทุกที่มีน้ำหนักเกิน 2,200 กิโลกรัม หรือบรรทุกคนโดยสารเกิน 15 คน สามารถใช้ความเร็วได้ไม่เกิน 90 กม./ชม. ส่วนรถในขณะลากจูงรถอื่น รถสี่ล้อเล็ก หรือรถยนต์สามล้อ ใช้ความเร็วไม่เกิน 65 กม./ชม. รถจักรยานยนต์ใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. ส่วนรถจักรยานยนต์กำลังเครื่องยนต์ตั้งแต่ 35 กิโลวัตต์ หรือกระบอกลูกสูบรวม 400 CC ขึ้นไป ให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 110 กม./ชม. รถโรงเรียนใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. และรถโดยสารเกิน 7 คน แต่ไม่เกิน 15 คน ใช้ความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.

นายศักดิ์สยามฯ กล่าวตอนท้ายว่า ได้มีข้อสั่งการโดยกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลรายละเอียดที่ปรากฎในร่างกฎกระทรวงกำหนดความเร็วยานพาหนะฯ ใช้ความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. ให้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย ตั้งแต่ในระยะแรกรวมทั้ง อยากให้ช่วยกันรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนที่ใช้รถ ใช้ถนน ปฏิบัติตามกฎจราจรการควบคุมความเร็ว ที่กฎหมายกำหนด สังเกตป้ายเตือนความเร็วต่าง ๆ ที่ได้กำหนดความเร็วไว้ในช่องทางเดินรถ ที่เหมาะสมแต่ละช่องถนน จะช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเองและผู้อื่นได้อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร