กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – ก.คมนาคม สรุปภาพรวมการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 บนโครงข่าย 5 วัน (11-15 เม.ย. 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 990 ครั้ง เสียชีวิต 123 คน บาดเจ็บ 1,098 คน จ.สระแก้ว มีผู้เสียชีวิตสูงสุด 9 คน ส่วน กทม. เกิดเหตุสูงสุด 63 ครั้ง สถิติอุบัติเหตุลดลง 6% จากปีก่อน เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางเที่ยวกลับให้สะดวก ปลอดภัย ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
ตามที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มีนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจ เดินทางสู่จุดหมายปลายทางด้วยความสะดวกปลอดภัย นั้น ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยคมนาคม ได้สรุปสถิติอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม ระหว่างวันที่ 11 – 15 เมษายน 2568 (สะสม 5 วัน) ประมวลผลข้อมูล ณ วันที่ 16 เมษายน 2568 เวลา 07.30 น. พบว่า ทางบก เกิดอุบัติเหตุรวม 990 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 123 คน ผู้บาดเจ็บ 1,098 คน มูลเหตุสันนิษฐานสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินอัตรากำหนด 695 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 62 ยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด คือ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 577 คัน คิดเป็นร้อยละ 32 บริเวณที่เกิดเหตุสูงสุด คือ ทางตรง ไม่มีความลาดชัน 725 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 65 จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ สระแก้ว 9 คน จังหวัดที่เกิดเหตุสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 63 ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2567 (11 – 15 เมษายน 2567) จำนวนอุบัติเหตุลดลง ร้อยละ 6 จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง ร้อยละ 20 และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลง ร้อยละ 16 ส่วนรถโดยสารสาธารณะ เกิดอุบัติเหตุ 4 ครั้ง ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 2 คน ไม่มีผู้โดยสารเสียชีวิต ส่วนทางอากาศไม่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ
สำหรับระบบขนส่งสาธารณะสามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ โดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ มีจำนวนรวม 12,216,675 คน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 17 โดยระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน ร้อยละ 44 ด้านระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่ 1) ภาคกลาง : ทางอากาศ (ขาออก) 242,977 คน 2) ภาคใต้ : ทางอากาศ 148,150 คน 3) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : ทางถนน 180,210 คน 4) ภาคเหนือ : ทางถนน 80,544 คน 5) ภาคตะวันออก : ทางถนน 85,721 คน ส่วนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ (ถนน ราง น้ำ อากาศ) มีจำนวนรวม 1,192,125 คน การจราจรเข้า – ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 11 เส้นทาง มีปริมาณ 4,909,841 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.22 การเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 6,545,474 คัน ลดลงร้อยละ 0.47
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้มอบให้หน่วยงานในสังกัด ตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 222 แห่ง จำนวน 57,984 คัน ไม่พบข้อบกพร่อง ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 57,984 คน พบอุณหภูมิเกิน (เป็นไข้) และความดันสูงเกินปกติ สั่งเปลี่ยน 2 คน ไม่พบสารเสพติด และแอลกอฮอล์ ด้านรถไฟ ได้ตรวจผู้ปฏิบัติงาน 799 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสารเสพติด ส่วนท่าเรือ/แพ 159 แห่ง ตรวจเรือ 5,182 ลำ พบข้อบกพร่อง สั่งแก้ไข 8 ลำ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 7,303 คน ไม่พบแอลกอฮอล์หรือสารเสพติด
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ในส่วนของการเดินทางกลับช่วงท้ายเทศกาลสงกรานต์ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คาดการณ์ว่า ในวันนี้ (16 เมษายน 2568) จะมีผู้โดยสารเดินทางประมาณ 90,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส. และรถร่วมฯ) ประมาณ 4,500 เที่ยว เนื่องจากเป็นวันหยุดวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ 2568 และเริ่มเปิดทำงานวันแรกในวันที่ 17 เมษายน 2568 ซึ่ง บขส. ได้จัดรถโดยสารอำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพียงพอและไม่มีผู้โดยสารตกค้าง ซึ่งในช่วงเช้าเวลา 05.00 – 08.00 น. มีผู้โดยสารรอรถแท็กซี่จำนวนมาก บขส. ได้แนะนำให้ผู้โดยสารไปเลือกใช้บริการรถโดยสาร ขสมก. ซึ่งได้จัดรถจอดรับ – ส่งบริการประชาชนภายในสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 จำนวน 15 เส้นทาง และ ขสมก. ยังได้จัดรถ Shuttle Bus บริการเชื่อมต่อระหว่างสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต และ MRT สวนจตุจักร ทำให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางมากกว่า นอกจากนี้ได้ประสานให้รถแท็กซี่เข้ามารับผู้โดยสารที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มการจัดคิวให้บริการแท็กซี่ เพื่อความสะดวก เป็นระเบียบ ไม่แออัดและจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่เดินทางกลับจากภูมิลำเนา ทำให้สามารถระบายผู้โดยสารออกจากสถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ได้ในเวลาประมาณ 08.00 น.
สำหรับการรถไฟแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2568 ได้พ่วงตู้โดยสารไปกับขบวนรถโดยสารที่มีผู้โดยสารหนาแน่น และจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสาร 4 ขบวน คือ ขบวน 5 กรุงเทพอภิวัฒน์ – เชียงใหม่ ขบวน 983 กรุงเทพอภิวัฒน์ – ยะลา ขบวน 973 กรุงเทพอภิวัฒน์ – นครราชสีมา และขบวน 974 นครราชสีมา – กรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้ระบบราง และเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางกลับของประชาชนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.-516-สำนักข่าวไทย