fbpx

สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเผยผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนปรับลดลง

กรุงเทพฯ 7 ธ.ค.-สภาธุรกิจตลาดทุนไทย  เผย ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับลดลง 19.9%  เข้าสู่เกณฑ์ “ร้อนแรง”  นักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจในประเทศ แต่ยังกังวลการระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่  “โอไมครอน”  


นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2564 พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 135.16 ปรับตัวลดลง 19.9% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” นักลงทุนคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือแผนการฉีดวัคซีนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ Covid-19 และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ในขณะที่ปัจจัยซึ่งฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่ รองลงมาคือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศและการไหลออกของเงินทุน

ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) สำรวจในเดือนพฤศจิกายน 2564 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ 


– ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กุมภาพันธ์ 2565) อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” (ช่วงค่าดัชนี 120-159) ปรับตัวลดลง 19.9% จากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ระดับ 135.16

– ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลุ่มนักลงทุนบุคคล กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ และกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในระดับ “ร้อนแรง” ส่วนกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ อยู่ในระดับ “ทรงตัว” 

– หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)


– หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือ นักลงทุนเห็นว่าหมวดแฟชั่น (FASHION)

– -ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ 

– ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ ความกังวลต่อสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 สายพันธุ์ใหม่

ผลสำรวจ ณ เดือนพฤศจิกายน 2564 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่าความเชื่อมั่นนักลงทุนทุกกลุ่มปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยนักลงทุนบุคคลปรับลด 16.2% อยู่ที่ระดับ 135.48 กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับลด 37.5%% มาอยู่ที่ระดับ 100.00 กลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศปรับลด 5% อยู่ที่ระดับ 150.00 และ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติปรับลด 22.2% อยู่ระดับ 140.00 

ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2564 SET Index ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศ การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรค ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน รวมถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ที่ประกาศออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน SET index ปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศจากความกังวลต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในแอฟริกาใต้ซึ่งกำลังระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้หลายประเทศกลับมาใช้นโยบายปิดประเทศและจำกัดการเดินทาง รวมถึงการปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยในการคำนวณดัชนี MSCI ส่งผลให้ในเดือนพฤศจิกายน นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิในตลาดทุนไทยกว่า 10,182 ล้านบาท โดย SET index ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2564 ปิดที่1,568.69 จุด ปรับตัวลดลง 3.4% จากเดือนก่อนหน้า 

ปัจจัยต่างประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ การกลับมาระบาดของ Covid-19 รอบใหม่ในยุโรป ความกังวลต่อการระบาดและกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วของไวรัส Covid- 19 สายพันธุ์ Omicron ซึ่งวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะช่วยควบคุมการระบาด และหลายประเทศเริ่มประกาศการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศอีกครั้ง รวมถึงปัจจัยด้านแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางในหลายประเทศ อีกทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจากการควบคุมไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมและผลกระทบจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ แผนการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศให้อยู่ในวงจำกัด และ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ จากภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากภาคอุปสงค์ในประเทศ 

ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย  ยังกล่าวถึงตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งที่ มีการตรวจพบ ผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธ์โอไมครอนรายแรกในไทย   มองว่า น่าจะคล้ายนักลงทุนทั่วโลก ที่ล่าสุด นักวิชาการบอกไม่น่ากังวล เพราะระดับอาการไม่รุนแรง และยังไม่มีเสียชีวิต  ส่วนที่มีผู้ติดเชื้อในประเทศนั้น เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้  แต่ปัญหาที่กังวลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือวัคซีนที่มีหรือฉีดไปแล้ว100 ล้านเข็ม ใช้ป้องกันไม่ได้ ต้องฉีดกันใหม่ แต่ราคาที่ปรับขึ้นวันนี้ จึงเป็นมุมมองสะท้อนในตลาดว่าวัคซีนที่มีอยู่ ใช้รับมือได้

ส่วนดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนธันวาคม 2564

ผลจากดัชนีสะท้อนการคาดการณ์ของตลาดที่คงมุมมองเช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ว่า กนง. จะรักษาอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% ในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ส่วนดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 และ 10 ปี ณ สิ้นไตรมาส 4 มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงจากการสำรวจเมื่อวันที่ 19  พฤศจิกายน 2564 โดยผู้ตอบแบบสอบถามมีความเห็นผสมผสานทั้งในส่วนที่คาดว่าอัตราผลตอบแทนจะปรับตัวสูงขึ้นจากการปรับลดคิวอีของธนาคารกลางสหรัฐ และแรงกดดันจาก Supply พันธบัตรรัฐบาลที่มากขึ้นในขณะที่บางส่วนคาดว่าอัตราผลตอบแทนอาจทรงตัวหรือลดลงจากระดับปัจจุบันจากความกังวลเรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะ risk-off และทำให้อัตราผลตอบแทนอาจปรับลดลง

นางสาวอริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Expectation Index) เดือนธันวาคม 2564 ว่า ดัชนีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม กนง. รอบเดือนธันวาคมนี้อยู่ที่ระดับ 50 ไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งที่แล้วและยังอยู่ในเกณฑ์ “ไม่เปลี่ยนแปลง (Unchanged)” สะท้อนมุมมองของตลาดที่คาดว่าการประชุม กนง. ในเดือนธันวาคมนี้  กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.5 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงหลายด้าน รวมทั้งเศรษฐกิจยังไม่กลับมาโตในระดับเดียวกับในช่วงก่อนโควิด นอกจากนี้ยังไม่มีปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงเหมือนต่างประเทศ จึงไม่มีความจำเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามต้องติดตามความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน”

ส่วนดัชนีคาดการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 5 และ 10 ปี ณ สิ้นไตรมาส 4 ปรับตัวลดลงจากครั้งก่อนแต่ยังอยู่ในเกณฑ์  “ไม่เปลี่ยนแปลง (Unchanged)” จากระดับ 1.20% และ 1.95 ตามลำดับ ณ วันที่ทำการสำรวจ (19  พฤศจิกายน 2564)  โดยปัจจัยที่มีผลต่อการคาดการณ์ ได้แก่ อุปสงค์และอุปทานในตลาดตราสารหนี้ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยโลก รวมถึง Fund flow จากต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ปัดแนวคิดแก้ พ.ร.บ. ลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท.

นายกฯ ยันเสียงแข็ง ไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย

“บิ๊กโจ๊ก” ร้องคัดค้านกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 ใน 14 คน

รรท.ผบ.ตร. ยอมรับ “บิ๊กโจ๊ก” ร้องคัดค้านกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 ใน 14 คน อ้างเป็นคู่ขัดแย้ง กำชับให้ผลตรวจสอบคุณสมบัติกรรมการเสร็จก่อนการสอบ “บิ๊กโจ๊ก”

กปน.-กรมชลประทาน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนรอบใหม่ 5-15 พ.ค.นี้

กปน.-กรมชลประทาน เตรียมแผนรับมือน้ำทะเลหนุนรอบใหม่วันที่ 5-15 พ.ค.นี้ หลังช่วงปลายเดือน เม.ย. ทำให้น้ำเค็มเกินมาตรฐาน ส่งผลให้น้ำประปาอาจมีรสชาติเปลี่ยนแปลงบ้าง มั่นใจทุกขั้นตอนผลิตน้ำประปาที่ต้นสถานีสูบน้ำดิบสำแลถึงผลิต 3 แห่ง น้ำประปามีคุณภาพสูง ขอให้ประชาชนสบายใจ และขอให้ตามข้อมูลคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ

นายกฯ กราบนมัสการ “พระครูปลัดสุขวัฒน์” วัดท่าตะแบง จ.ร้อยเอ็ด

นายกฯ กราบนมัสการ “พระครูปลัดสุขวัฒน์” พระชื่อดังวัดท่าตะแบง จ.ร้อยเอ็ด รับปากแก้ไขปัญหายาเสพติด-น้ำท่วม พร้อมรับวัตถุมงคล รับพรให้สุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จ เป็นห่วงเดินทางเยอะ ขณะที่ประชาชน ทวงถามเงินหมื่น นายกฯ ย้ำ “ตั้งใจจะให้ รอสิ้นปี”