“กอบศักดิ์”ระบุ เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน 

กรุงเทพฯ 4 ส.ค.-“กอบศักดิ์”ระบุ เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะมีความผันผวนค่อนข้างมากและคาดว่าจะกินระยะเวลาอย่างน้อยอีกหนึ่งปีครึ่ง-2 ปีครึ่งพร้อมเตือนรับความเสี่ยงโลกจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ


นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยในงานสัมมนา “จัดทัพลงทุนฝ่าวิกฤติเงินเฟ้อ” เรื่อง “เงินเฟ้อพุ่ง ดอกเบี้ยขึ้น จะอยู่รอดและเติบโตกันอย่างไร” ว่า จากที่ก่อนหน้านี้การลงทุนต่างๆเป็นไปได้ด้วยดี อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาอย่างต่อเนื่อง สภาพคล่องเต็มระบบ และ การซื้อขายในตลาดหุ้น สินทรัพย์ต่างๆมีความคึกคักมากนั้นได้จบลงไปแล้วเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน หรือรูปแบบของเศรษฐกิจที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งจะมีความผันผวนค่อนข้างมากและคาดว่าจะกินระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี โดยระยะเวลาผ่านมาแล้วประมาณครึ่งปี เหลืออีกราวปีครึ่ง-2 ปีครึ่ง ขึ้นกับการดำเนินนโยบายทางการเงินต่างๆของทั่วโลกที่จะส่งผลให้รูปแบบการลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน


สถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นผลมาจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นทั่วโลก โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะทำจุดสูงสุดในช่วงครึ่งหลังของปี 65 ก่อนที่จะค่อยๆปรับตัวลดลงมา โดยปัจจุบันมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากราคาน้ำมันที่ราคาปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนแล้ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นในครั้งนี้

ทั้งนี้ หากราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ที่ระดับ 94-100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆก็ได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้าง การผลิต และ อาหารปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน ก็จะเป็นปัจจัยที่ลดแรงกดดันต่อเงินเฟ้ออีกด้วย

สำหรับเงินเฟ้อของไทย อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 2.5% เป็นผลทำให้ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่าเงินเฟ้อของประเทศไทยยังสามารถรับได้ ขณะที่เงินเฟ้อที่เกิดจากราคาน้ำมันนั้น หากราคาน้ำมันหน้าปั้มลดลงเงินเฟ้อก็จะปรับตัวลดลงด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปของไทยกลับเข้าสู่ระดับปกติที่ 3-4% ถือว่าเป็นระดับที่รับได้ จะส่งผลให้ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยของไทยและประเทศสหรัฐต่างออกไป เนื่องจากเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐอยู่ที่ 6%


ด้านทิศทางอัตราดอกเบี้ยของโลก ยังต้องติดตามจากสถานการณ์ในสหรัฐเป็นหลัก โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ยังยืนยันว่าจะต้องดำเนินการเพื่อที่จะให้เงินเฟ้อของสหรัฐปรับตัวลดลงมาให้ได้ โดยคาดว่าเฟดอาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยไปถึงระดับ 5.25-6.50% เพื่อกดเงินเฟ้อลงมา ซึ่งหากเกิดขึ้นในรูปแบบนี้จริงตลาดก็จะต้องมีการปรับมุมมองอีก

สำหรับเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอยในขณะนี้เป็นเป็นภาวะถดถอยทางเทคนิคเท่านั้น แต่การเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่แท้จริงนั้นยังต้องใช้ระยะเวลา เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ชั่วข้ามคืน ยกเว้นแต่ว่าเกิดโรคระบาด หรือ สงคราม เท่านั้น จึงมองว่าเฟดจะยังคงดำเนินการตามแผนในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และ เร่งดูดสภาพคล่องออกจากระบบ

นายกอบศักดิ์ กล่าวถึง กรณีการเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่ามีนัยสำคัญอย่างยิ่ง โดยมีเหตุการณ์หลายเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้านี้ ซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้กล่าวว่าหากจีนส่งกองทัพเข้าไปยังไต้หวัน สหรัฐฯจะส่งกองทัพเข้าไปปกป้อง ขณะเดียวกันจุดศูนย์กลางของโลกที่ทุกๆอย่างผลิตที่เมืองจีน หากทะเลาะกันจะเกิดอะไรขึ้น หากมีปัญหาต่างๆเกิดขึ้นก็จะมีปัจจัยอื่นๆตามมามมาอีก ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือจีนถือพันธบัตรของสหรัฐสูงถึง 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสหรัฐต้องคิดมาดีแล้วเพราะจีนมีความสำคัญขนาดนี้กับการที่ไปยั่วยุประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ขนาดนั้น

ทั้งนี้ก่อนที่นางแนนซี เพโลซี เดินทางถึงไต้หวัน โฆษกของรัฐบาลสหรัฐออกมากล่าวว่า จีนไม่ควรจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นการเผชิญหน้า เหมือนเป็นการกล่าวหาว่าจีนจะทำให้เรื่องนี้กลายเป็นวิกฤติ ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนที่รัสเซียจะบุกยูเครน จึงมองว่าเป็นการยั่วยุให้เกิดเหตุการณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย

เริ่มลงตัว! เปิดโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” แบ่งโควตาคนนอก 5 เก้าอี้

กทม.5 ก.ย.- เช็กโผ​ “ครม.อนุทิน​ 1” เริ่มลงตัว “ภูมิใจไทย” 12 เก้าอี้ แบ่งโควตาคนนอกอีก 5 เก้าอี้ มีชื่อ “เศรษฐพุฒิ” อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ นั่งขุนคลัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี​ จากสภาผู้แทนราษฎร ความเคลื่อนไหวการจัดตั้ง “ครม.อนุทิน 1” ก็ขยับทันที​ โดยมีการจัดสรรโควตาตามจำนวนเสียงที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเสียง​ข้างน้อย​ ร่วมกัน​ 146 ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย​ 12 เก้าอี้ เนื่องจากมีโควตาของคนนอก ที่จะไม่นับรวม อีก 5 เก้าอี้​ ส่วนพรรคกล้าธรรม 7 เก้าอี้ แบ่งเป็น 4 รัฐมนตรีว่าการ​ และ 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ขณะที่​ พรรคพลังประชารัฐ​ 4​ เก้าอี้ กลุ่มนายสุชาติ​ ชมกลิ่น​ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ 4 […]

เพื่อไทยโพสต์พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

กรุงเทพฯ 5 ก.ย.- พรรคเพื่อไทย พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอบคุณทุกแรงใจ ระบุ นโยบายหลายเรื่องค้างไว้ รอวันกลับมาสานต่อ ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 311 เสียง เห็นชอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า “พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตามครรลองของรัฐสภา ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ขอขอบคุณทุกแรงใจ นโยบายหลายเรื่องที่ยังค้างไว้ เราจะรอวันกลับมาสานต่อให้สำเร็จ เพื่อคนไทยทุกคน…ตลอดไป” .-316 -สำนักข่าวไทย