กรุงเทพฯ 27 ก.ค.- ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยเดือน มิ.ย.65 ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคบริการ ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/65 ปรับตัวดีขึ้น แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารการสื่อสารองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจและการเงิน เดือนมิถุนายน และไตรมาสที่ 2 ปี 2565 โดยเศรษฐกิจไทย เดือนมิถุนายน 2565 ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อน ตามภาคบริการที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น หลังการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ รวมทั้งการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม การบริโภคภาคเอกชนปรับดีขึ้นแทบทุกหมวด ยกเว้นการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทน เป็นผลจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต ทำให้ไม่สามารถส่งมอบรถยนต์ได้ ขณะที่การส่งออกสินค้าปรับลดลงบ้างตามการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปรับลดลง หลังจากที่เร่งไปในช่วงก่อนหน้า นอกจากนี้ การส่งออกชิ้นส่วนและยานยนต์ปรับลดลงจากการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิตของรถยนต์นั่ง อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าในหลายหมวด อาทิ สินค้าเกษตร โลหะ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม เพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ยังขยายตัว
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้นจากเดือนก่อน โดยอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันขายปลีกตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นตามราคาอาหารสำเร็จรูปและเครื่องประกอบอาหารเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลลดลงจากดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลน้อยลง ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. อ่อนค่าลงต่อเนื่องสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาค ตามการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ สรอ. จากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ
ภาพรวมไตรมาสที่ 2 ปี 2565 เศรษฐกิจไทยปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน โดยการบริโภคภาคเอกชนปรับเพิ่มขึ้นจากหมวดบริการเป็นสำคัญ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดและมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้ภาคการค้าและภาคบริการฟื้นตัว และการลงทุนภาคเอกชนปรับดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ประเทศคู่ค้าที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำและเงินโอนภาครัฐเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับลดลงจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นจากราคาพลังงาน ราคาอาหารสด และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นจากราคาอาหารสำเร็จรูป ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจ สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลเพิ่มขึ้นมากจากดุลการค้าที่เกินดุลน้อยลง และดุลบริการ รายได้ และเงินโอนที่ขาดดุลมากขึ้นตามการส่งกลับกำไรและเงินปันผลของธุรกิจต่างชาติ
ธปท.ประเมินแนวโน้มเดือนกรกฎาคม 2565 ธุรกิจภาคการค้าและบริการมีแนวโน้มปรับดีขึ้นตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังการเปิดประเทศ ประกอบกับผลของวันหยุดยาว อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องกดดันการฟื้นตัวของกำลังซื้อ โดยในระยะต่อไปยังต้องติดตามแนวโน้มการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าจ้างและราคาสินค้าอุปสงค์ของต่างประเทศที่อาจชะลอตัว และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่อาจส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ.-สำนักข่าวไทย