สสท. ชี้ ร่างกฎกระทรวงฯ กระทบสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน

กรุงเทพฯ 12 ก.ค.- สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทยเปิดเวทีประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน โดยส่วนใหญ่เห็นว่า ร่างกฎกระทรวงนี้ไม่ได้คุ้มครองและส่งเสริมขบวนการสหกรณ์เท่าที่ควร ตรงข้ามกลับมีหลายมาตราที่ขัดต่อการดำเนินงานและอาจส่งผลกระทบระยะยาว


สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.) จัดเวทีเสวนา เรื่อง “ร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 2 มุมมองของคนสหกรณ์ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ?” และรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวง การบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ…) ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย โดยมี นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานฯ สสท. ดำเนินรายการ และ ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย ผศ.ดร.รังสรรค์ ปิติปัญญา รองประธานฯ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย นายไพบูลย์ แก้วเพทาย อดีตประธานฯ ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย ผศ.อาภากร มินวงษ์ อดีตประธานฯ ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย และนายสิรวิชญ์ ไพศาสตร์ ที่ปรึกษา สันนิบาตสหกรณ์ฯ

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม ประธานฯ สสท. กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2562 รวม 5 ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอและส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างกฎกระทรวง ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาและรวมร่างกฎกระทรวงดังกล่าว 5 ฉบับเป็นฉบับเดียว พร้อมทั้งแก้ไขชื่อร่างกฎกระทรวงเป็น “ร่างกฎกระทรวง การบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ…”  แต่เนื่องด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงมีความเห็นแตกต่างกันและไม่สามารถหาข้อยุติร่วมกันได้ จึงเห็นสมควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาร่วมกันให้ได้ข้อยุติ และเสนอร่างกฎกระทรวงต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาหลักการอีกครั้ง กรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้รับฟังความเห็นจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทยได้พิจารณาปรับปรุงร่างกฎกระทรวงดังกล่าว ต่อมาต้นเดือนมิถุนายน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เสนอกฎกระทรวงอีกฉบับ อันเกี่ยวข้องกับสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยนและสหกรณ์ออมทรัพย์รวม 5 เรื่องซึ่งเป็นสาระที่สำคัญส่งผลกระทบต่อระบบสหกรณ์ รวมถึงกฎกระทรวงฉบับนี้ไม่ได้คุ้มครองและส่งเสริมขบวนการสหกรณ์เท่าที่ควร


ทั้งนี้ผู้ร่วมเสวนาได้เสนอความคิดเห็นถึงผลกระทบของร่างกฎกระทรวงฉบับที่ 2 ที่มีต่อการดำเนินงานของสหกรณ์และสมาชิกดังนี้

1. ร่างกฎกระทรวงฯ ได้กำหนดให้การกู้เงินทุกประเภทที่เกิน 2 ล้านบาท จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเครดิตบูโร ส่งผลให้สมาชิกเข้าสู่ระบบการกู้เงินของสหกรณ์ได้ยากขึ้น เนื่องจากมีระบบการตรวจสอบที่เข้มข้น แต่ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่มีความพิเศษแตกต่างจากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ เช่น สหกรณ์มีการค้ำประกันโดยสมาชิก มีทุนเรือนหุ้น มีเงินฝากและสามารถหัก ณ ที่จ่ายได้ การบังคับเข้าระบบเครดิตบูโร อาจส่งผลกระทบต่อสมาชิกโดยตรง คือ สมาชิกส่วนใหญ่อาจจะกู้ไม่ได้ หรือกู้ได้ยากขึ้น และเป็นการผลักดันให้สมาชิกต้องกู้นายทุนและกู้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแพง ส่งผลต่อปากท้องของประชาชนคนรากหญ้า นอกจากนี้ ยังกำหนดให้สหกรณ์ไม่สามารถเอาเรื่องของฌาปนกิจสงเคราะห์มาเป็นหลักประกันได้ หากสมาชิกถึงแก่กรรมจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้เป็นภาระของผู้ค้ำประกันหรือเป็นภาระของสหกรณ์ที่จะต้องค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเต็มจำนวน

2. การรับเงินฝากกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินรับฝาก โดยร่างกฎกระทรวงฯ กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนต้องอ้างอิงข้อมูลตามดอกเบี้ยนโยบายของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยกำหนดดอกเบี้ยเงินรับฝากได้ไม่เกินร้อยละ 3.50 % ต่อปี (ดอกเบี้ยนโยบาย 0.50 + 3.00%) ทำให้สหกรณ์ขาดความเป็นอิสระต้องยึดโยงกับนโยบายของ กนง. ซึ่งเกิดความไม่เป็นธรรมเพราะแม้แต่สถาบันการเงินหลักหรือแบงก์ชาติยังไม่ต้องกำหนดดอกเบี้ยตามนโยบายของ กนง. เนื่องจากธนาคารมีขนาดไม่เท่ากัน มีโครงสร้างเงินทุนไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกันกับสหกรณ์ อีกทั้งในปัจจุบัน ตลาดโลกมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น ฉะนั้น การกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบนี้จะสวนกระแสตลาดและไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ส่งผลกระทบให้สหกรณ์ ไม่สามารถรับฝากเงินได้ และเหมือนเป็นการพยายามทำให้เงินฝากในระบบเงินฝากของสหกรณ์ไหลไปสู่สถาบันการเงินอื่น เช่น ธนาคาร ตลาดหลักทรัพย์ หรือกองทุน


3. การจัดชั้นลูกหนี้เงินกู้และการให้สินเชื่อหรือสินทรัพย์สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้อย่างแท้จริงและการกันเงินสำรอง อีกทั้งสามารถจำกัดปริมาณการทำธุรกรรมกับลูกหนี้และเจ้าหนี้รายใดรายหนึ่ง เพื่อเป็นการป้องกันการกระจุกตัวของความเสี่ยงไม่ให้สูงจนเกินไปและสอดคล้องกับการบริหาร เรื่องดังกล่าวเป็นการจัดชั้นคุณภาพและการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งของเดิมสามารถนำเงินเรือนหุ้นมาหักได้ แต่ร่างกฎกระทรวงใหม่ไม่สามารถเอาทุนเรือนหุ้นไปหักหนี้ก่อนตั้งค่าหนี้เผื่อสงสัยจะสูญ ทำให้สหกรณ์ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดหนี้เสีย (NPL) ของสหกรณ์สูงขึ้น เมื่อหนี้เสียสูงเมื่อนำไปหักลบกลบกำไรแล้วทำให้กำไรของสหกรณ์ลดลง เมื่อกำไรลดลงปันผลและเฉลี่ยคืนก็ลดลงตามลำดับ ส่งผลกระทบต่อสมาชิกและส่งผลกระทบต่อสหกรณ์

ผศ.ดร.รังสรรค์ ปิติปัญญา กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงนี้นำเอาแนวคิดทุนนิยมมาใช้กับสหกรณ์ ซึ่งกรอบแนวคิดจะไม่เหมือนกัน แนวคิดทุนนิยมเน้นผลกำไรและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่หลักการสหกรณ์เน้นการเอื้ออาทรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แนวคิดทุนนิยมทำให้สหกรณ์ไม่สามารถช่วยเหลือสมาชิกได้อย่างเต็มที่ รับฝากได้น้อยลง กู้กันเองได้ยากขึ้น ผลักดันให้สมาชิกสหกรณ์ต้องกู้นอกระบบ ถือเป็นการทำลายศักยภาพการทำงานของสหกรณ์ รวมถึงขัดต่อหลักการพึ่งพากันเอง 

นายไพบูลย์ แก้วเพทาย กล่าวว่า สหกรณ์ไม่ใช่ธนาคาร การที่ร่างกฎกระทรวงฯ กำหนดให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ต้องอ้างอิงข้อมูลตามดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน โดยกำหนดดอกเบี้ยเงินรับฝากได้ไม่เกินร้อยละ 3.50 % ต่อปีนั้นไม่เหมาะสม ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่มีความเข้าใจระบบสหกรณ์ที่เป็นการทำธุรกรรมในวงศ์สัมพันธ์เดียวกัน ซึ่งเป็นคนละหลักการกับธนาคารอย่างสิ้นเชิง

ผศ. อาภากร มินวงษ์ กล่าวว่า ร่างกฎกระทรวงฯ กระทบต่อการกำกับดูแลทางการเงิน และการเติบโตของสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยน ที่มีความแตกต่างจากสหกรณ์ประเภทออมทรัพย์ แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการร่างกฎกระทรวงฯ ขาดความเข้าใจ และนำตัวบทกฎหมายที่ไม่สอดคล้องมาบังคับใช้ กล่าวคือ สหกรณ์เครดิตฯ ไม่ได้ดำเนินการหักเงินค่าหุ้น ณ ที่จ่ายเช่นเดียวกับสหกรณ์ประเภทออมทรัพย์ แต่เมื่อนำกฎกติกาเดียวกันมาใช้ จะส่งผลให้สหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยนต้องหายไปจากสารบบของสหกรณ์ไทย นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ มาตราที่ขัดต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยน และอาจส่งผลกระทบระยะยาวให้ปัญหาบานปลายจนเกินกว่าจะแก้ไขได้

นายสิรวิชญ์ ไพศาสตร์ กฎกระทรวงฯ น่าจะเขียนคลาดเคลื่อนหลายอย่าง เช่น หลักเกณฑ์การปรับโครงสร้างหนี้ การกำหนดให้สหกรณ์ไม่สามารถเอาเรื่องของฌาปนกิจสงเคราะห์มาเป็นหลักประกันได้ การตั้งหนี้เผื่อสงสัยจะสูญ และไม่สามารถเอาทุนเรือนหุ้นไปหักหนี้ก่อนตั้งค่าหนี้เผื่อสงสัยจะสูญ ทำให้สหกรณ์ได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดหนี้เสีย (NPL) ของสหกรณ์สูงขึ้น

ทั้งนี้ สสท. จะรวบรวมความคิดเห็นของการประชาพิจารณ์ แล้วสรุปเสนอสำนักงานกฤษฎีกา กระทรวงเกษตรฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา หากกฎกระทรวงฯ ที่ออกมายังไม่คุ้มครองหรือไม่สร้างเสถียรภาพต่อสหกรณ์ อาจจะต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” สีหน้ายิ้มแย้ม เครื่องบินส่วนตัวแลนดิ้งดอนเมือง

ดอนเมือง 8 ก.ย.-เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” แลนดิ้งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ โดย “ทักษิณ” มีใบหน้ายิ้มแย้ม ขณะมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร 8 ก.ย.68 บริเวณทางเข้าออกลานจอดเครื่องบินส่วนบุคคล ท่าอากาศยานดอนเมือง พบสื่อมวลชนเดินทางมาติดตามบรรยากาศเดินทางกลับของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังได้รับแจ้งข้อมูลเรดาร์เครื่องบินส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ออกเดินทางจากสนามบินเซเลตาร์ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 14.54 น. ที่ผ่านมา เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ ลงจอดบริเวณสนามบินส่วนตัว ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศฝนตกหนัก ขณะที่นายทักษิณ เดินออกมาขึ้นรถที่จอดรอหน้าอาคารผู้โดยสาร ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า ก่อนจะขึ้นรถเบนซ์แล่นออกจากสนามบินไป พร้อมกับรถยนต์และรถตู้อีกคัน ทั้งนี้ มีรายงานว่า เครื่องบินส่วนตัวของนายทักษิณ มีผู้โดยสารเดินทางมา 6 คน โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของนายทักษิณ ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมชาย ร่วมเดินทางมาด้วย พร้อมกับผู้ติดตาม.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว

พรรคภูมิใจไทย 8 ก.ย.- โผ ครม. “อนุทิน 1” คนการเมืองส่งรายชื่อครบแล้ว “บวรศักดิ์” นั่งรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ด้าน “ไผ่ ลิกค์-สัมพันธ์” หลุดโผ กล้าธรรมดัน “นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ-อามินทร์” เสียบแทน รอลุ้นตรวจคุณสมบัติ 7-10 วัน หากสะดุดต้องหลีกทางทันที ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการจัดโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุทิน 1 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (8 ก.ย.) ได้รับการตอบรับจากนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่มีชื่อนั่งในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีรายงานว่า ช่วงบ่ายที่ผ่านมาคุยกันลงตัวแล้ว โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับนายบวรศักดิ์ ด้วยตัวเอง สำหรับการจัด ครม.ครั้งนี้ มีการใช้รัฐมนตรีคนนอกถึง 6 กระทรวง คือ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรม […]

“แพทองธาร” บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความยินดี “อนุทิน” ตั้งแต่วันแรก

พรรคเพื่อไทย 8 ก.ย.- “แพทองธาร” เข้าพรรคเพื่อไทย บอก “ทักษิณ” กลับแน่ เผยส่งข้อความแสดงความยินดี “อนุทิน” นั่งนายกตั้งแต่วันแรก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยได้ทักทายสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าสบายดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า สบายดีค่ะ เมื่อถามว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยวันนี้ (8 ก.ย.) หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ถามกลับว่า วันนี้หรือเดี๋ยวรอดูแล้วกัน แต่ว่ากลับมาแน่นอน เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร จะไปรอรับด้วยตัวเองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คงไม่ได้ไปรับ พอดีวันนี้ติดงานตอนบ่ายจึงไม่ได้ไป เมื่อถามว่า ตอนนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกฯ มีอะไรฝากถึงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ได้ส่งข้อความไปยินดีเรียบร้อยแล้ว ส่งตั้งแต่วันแรกเลย ส่วนวันนี้ที่เดินทางเข้าพรรคเพื่อไทยมีประชุมอะไรหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และขึ้นด้านบนอาคารทันที .-316 […]

จันทรุปราคา

ชาวตรังแห่ชม จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย

ตรัง 8 ก.ย.- ชาวตรังตื่นตา ชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่หอนาฬิกา ท่ามกลางฝนโปรยปราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ค่ำคืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ชาวตรังรวมตัวกันที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เพื่อเฝ้าชมปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง ที่เกิดขึ้นระหว่างเวลา 00.31 – 01.53 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้มีฝนโปรยปรายลงมาบางช่วง แต่ประชาชนไม่พลาดเก็บภาพความสวยงามของพระจันทร์สีแดงอิฐ พร้อมกันนี้ ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างใกล้ชิด คืนวันที่ 7 กันยายน 2568 ท้องฟ้าเหนือจังหวัดตรัง ปรากฏการณ์ จันทรุปราคาเต็มดวง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนชาวตรัง โดยเฉพาะที่ จัตุรัสนครตรัง บริเวณสี่แยกหอนาฬิกา ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง มีประชาชนออกมาเฝ้าชมและบันทึกภาพพระจันทร์ที่ถูกเงาโลกบังจนกลายเป็นดวงจันทร์สีแดงอิฐ สวยงามกลางท้องฟ้ายามค่ำคืน ช่วงเวลาสำคัญเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 00.31 น. ซึ่งเป็นจังหวะที่พระจันทร์ถูกเงาโลกบังทั้งดวง มองเห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า […]