กรุงเทพฯ 8 ก.ค.-ตลาดอาหารเสริมเติบโตช่วงโควิด-19 มูลค่าในไทยกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท JP ปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่โชว์เคส MAWO ประเดิมแข่งสินค้าคอลลาเจน
นายพิษณุ แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการขายและการตลาด บริษัท โรงงานเภสัช อุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ JP เปิดเผยว่า JP ได้ทำโครงการ ‘Z entrepreneur by JP’ ผลักดันให้คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เช่น สินค้าด้านผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สินค้าโอทอป และสมุนไพรต่าง ๆ ที่ต้องการโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP ที่ได้มาตรฐานส่งออก แต่ไม่มีเงินลงทุนในการซื้อเครื่องจักร ก็สามารถเข้ามาปรึกษากับ JP เพื่อสร้างสินค้าที่ได้มาตรฐาน ซึ่งในโครงการนี้ JP ได้เป็นพี่เลี้ยงในการวิเคราะห์ธุรกิจ การทำแผนธุรกิจ ด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงยังให้คำปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์ และการขออนุญาตขึ้นทะเบียน อย. โดยโครงการนี้ได้เริ่มต้นขึ้นจากการระบาดของโรค COVID–19 ทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้รับความสนใจจากทั่วโลก ล่าสุดมีคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมโครงการ 7 ราย โดย MAWO เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ JP ให้การสนับสนุนจนสามารถสร้างผลิตภัณฑ์เกิดขึ้นได้จริง จึงเป็นตัวอย่างของผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตนเอง โดยที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก แต่สามารถสร้างสินค้าที่ได้มาตรฐาน และสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้
นางสาวณัฐณิชา ดอนสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาโว่ เฮลธ์ จำกัด (MAWO) กล่าวว่า MAWO เป็นกลุ่มที่เกิดจากการร่วมทุนของเพื่อน ๆ ที่เป็นทั้งกลุ่มที่ทำสื่อและประชาสัมพันธ์และต้องการหาช่องทางผลิตสินค้าที่น่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภคและเพิ่มรายได้
การเข้ามาร่วมโครงการกับ JP ทำให้ธุรกิจสามารถเป็นจริงได้ง่ายขึ้น โดยใช้เงินลงทุนไม่มาก อีกทั้งได้รับคำแนะนำ และผ่านการอบรมทั้งด้านงานขาย การเข้าถึงสื่อออนไลน์ การวิเคราะห์ธุรกิจ เป็นต้น
โดย MAWO ได้ศึกษาตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปี และพบว่าในปี 2564 ตลาดคอลลาเจนเปปไทด์ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 624.0 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 932.7 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2571 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 5.91% ในแต่ละปี หรือคิดเป็นประมาณ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากสัดส่วนโครงสร้างประชากรทั่วโลกกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ในขณะที่ประเทศไทย ตลาดวิตามินและอาหารเสริมปี 2563 มีมูลค่า 25,269 ล้านบาทที่เติบตัวเลขเฉลี่ย 8% โดยตลาดที่กินส่วนแบ่งมากที่สุดคือ ตลาดคอลลาเจน
“มาโว่ มารีน คอลลาเจน” จึงเป็นสินค้าตัวแรกของแบรนด์ MAWO เพราะตอบโจทย์ความต้องการของทั้งวัยทำงานและผู้สูงวัย อย่างไรก็ดีในอนาคต MAWO มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปสู่สินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ เช่น วิตามินต่าง ๆ โดยภายในปีหน้า โดยช่องทางการจัดจำหน่ายของ MAWO นั้น จะเน้นช่องทางออนไลน์และโซเชียลคอมเมิร์ซ เป็นหลัก โดยสินค้าทุกประเภทจะยังคงอยู่ในแนวคิด“ สินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม แต่ราคาเข้าถึงง่าย. -สำนักข่าวไทย