“มนัญญา” ประชุมคณะกรรมการแก้ทุจริตสหกรณ์นัดแรก

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.- “รมช.มนัญญา” ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ครั้งแรก หลังได้รับการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรี เตรียมตั้ง 3 คณะทำงานสืบสวน ตรวจสอบ และปรับปรุงระเบียบเพื่อให้แก้ไขปัญหาทุจริตในสหกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้เกียรติมอบแนวทางในการปฏิบัติงาน สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายโอภาส ทองยงค์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รองผู้บังคับบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

นางสาวมนัญญาเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์โดยรวมเป็นวงกว้าง ส่งผลให้สหกรณ์ขาดสภาพคล่องทางการเงินและสมาชิกสหกรณ์ไม่สามารถเบิกถอนเงินฝากหรือกู้ยืมหรือดำเนินธุรกิจกับสหกรณ์ได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพและเป็นระบบอาศัยอำนาจตามความมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จึงแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ลงวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 โดยมี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธาน และมีกรรมการประกอบด้วย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และมีอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นกรรมการและเลขานุการ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่กํากับดูแลกองพัฒนาสหกรณ์ด้านการเงินและร้านค้า เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยมีอำนาจและหน้าที่ดําเนินการเข้าตรวจสอบการทุจริตในสหกรณ์ ตรวจสอบ เร่งรัด ติดตาม การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทุจริตในสหกรณ์ รวมทั้งให้คําแนะนําหรือข้อเสนอแนะแก่กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนแต่งตั้งคณะทํางานหรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติหน้าที่หรือดําเนินการตามที่คณะกรรมการมอบหมายได้ตามความจําเป็นและเหมาะสม 


ทั้งนี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้ให้แนวทางการปฏิบัติงานว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องนี้ จึงระดมกลไกของรัฐหลายฝ่ายมาร่วมบูรณาการทำงานกัน ใช้อำนาจตามกฎหมาย เพื่อเร่งรัดติดตามติดตามเอาทรัพย์คืนให้กับผู้เสียหาย และดำเนินคดีจากผู้กระทำผิดให้เร็วที่สุด และเชื่อว่าคณะกรรมการฯ ชุดนี้มีขั้นตอน กระบวนการตรวจสอบได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหากจำเป็นต้องมีคณะทำงานใดๆ หรือหน่วยงานใดเพิ่มเติม ก็พร้อมให้การสนับสนุน อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) หรือสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำและฝากความเป็นห่วงในเรื่องการทุจริตสหกรณ์ทุกครั้ง จะทำอย่างไรให้เกิดความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา และจะรายงานความคืบหน้าให้นายกฯ ทราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะบูรณาการร่วมกันแก้ไขและสิ่งสำคัญคือต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ในส่วนของตนมีความเป็นห่วงในเรื่องของการยึดทรัพย์ เนื่องจากที่ผ่านมามีทรัพย์สินที่ยึดได้แต่คงค้างไว้เป็นเวลานาน จะทำอย่างไรกับทรัพย์สินนั้นได้บ้าง ก่อนปล่อยให้มีสภาพเสื่อมโทรม จึงได้เน้นย้ำเรื่องการยึดทรัพย์สินมาถ่ายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้รับประโยชน์อย่างสูงสุด” รมช.มนัญญา กล่าว 

สำหรับการแก้ไขข้อบกพร่องของสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รายงานสรุปข้อบกพร่องการทุจริต แยกตามประเภทสหกรณ์ 7 ประเภท ข้อมูล ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 มีจํานวน 252 แห่ง 365 รายการ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวม 23,005,542,343 บาท และได้รับการชดใช้ไปแล้ว ปัจจุบันมีมูลค่าคงเหลือ 18,637,390,907 บาท แบ่งเป็นประเภทสหกรณ์ ดังนี้ 1. สหกรณ์การเกษตร 140 แห่ง 218 รายการ มูลค่าความเสียหาย 1,964 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 1,822 ล้านบาท 2. สหกรณ์ประมง 2 แห่ง 2 รายการ มูลค่าความเสียหาย 3.9 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้ คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 3.7 ล้านบาท 3. สหกรณ์นิคม 6 แห่ง 8 รายการ มูลค่าความเสียหาย 123 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้ คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 99 ล้านบาท 4. สหกรณ์บริการ 23 แห่ง 28 รายการ มูลค่าความเสียหาย 79 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้ คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 73 ล้านบาท 5. สหกรณ์ร้านค้า 4 แห่ง 4 รายการ มูลค่าความเสียหาย 8.7 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้ คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 3.3 ล้านบาท 6. สหกรณ์ออมทรัพย์ 40 แห่ง 54 รายการ มูลค่าความเสียหาย 3,510 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้ คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 3,300 ล้านบาท และ 7. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 37 แห่ง 42 รายการ มูลค่าความเสียหาย 17,314 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับการชดใช้ คงเหลือมูลค่าความเสียหาย 13,333 ล้านบาท


“คณะกรรมการฯ จะมีการอัพเดตและรายงานความคืบหน้าเดือนละ 2 ครั้ง ขอยืนยันว่าทุกหน่วยงานทำงานอย่างเต็มความสามารถ และจะเร่งชดใช้ความเสียหายให้กับสมาชิก สำหรับความคืบหน้าสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำกัด พบความเสียหายมูลค่า 600 กว่าล้านบาท ขณะนี้ ยึดทรัพย์มาได้เกือบ 300 ล้านบาทแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ จะติดตามยึดทรัพย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเตรียมตั้งชุดประนอมหนี้ต่อไป” รมช.มนัญญา กล่าว

นอกจากนี้ เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ในส่วนของการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ปกป้องผลประโยชน์ของสหกรณ์ได้ทันท่วงที รวมถึงในส่วนของการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อบกพร่อง ตรวจสอบกรณีทุจริตสหกรณ์ ตลอดจนในส่วนของการพิจารณาระเบียบข้อบังคับและการปรับปรุงระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการตรวจสอบงบการเงิน กรรมการและผู้บริหารสหกรณ์ เป็นไปอย่างรวดเร็ว ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบร่างคำสั่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่งตั้ง 3 คณะทํางาน เพื่อปฏิบัติงานให้เป็นไปตามคําสั่งสํานักนายกรัฐมนตรี ที่ 101/2565 สั่ง ณ วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ได้แก่ 1. แต่งตั้งคณะทํางานสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการทุจริตในสหกรณ์ มีอำนาจหน้าที่ สืบสวนสอบสวนการทุจริตในสหกรณ์ เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และสรุปผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป 2. แต่งตั้งคณะทํางานรวบรวมและตรวจสอบกรณีทุจริตของสหกรณ์ มีอำนาจและหน้าที่ ศึกษา วิเคราะห์ มูลเหตุของการเกิดทุจริตในสหกรณ์ ปัญหาอุปสรรคที่ทําให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตเกิดความล่าช้า ตลอดจนสถานการณ์ดําเนินการแก้ไขปัญหาของผู้เกี่ยวข้องต่างๆ และรายงานต่อคณะกรรมการฯ รวมทั้งพิจารณาเสนอแนวทางการตรวจสอบ พร้อมทั้งมาตรการป้องกันการทุจริตในสหกรณ์ และแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และ 3. แต่งตั้งคณะทํางานปรับปรุงระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการตรวจสอบงบการเงิน กรรมการและผู้บริหารสหกรณ์ มีอำนาจและหน้าที่ศึกษาวิเคราะข้อมูลข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวกับการเงินการบัญชีสหกรณ์ ปรับปรุงแก้ไขข้อบังคับและระเบียบเสนอนายทะเบียนสหกรณ์ โดยคณะทำงานดังกล่าวจะตั้งอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ชั้น 2 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]