กรุงเทพฯ 14 มิ.ย.- กรมการขนส่งทางบกขีดเส้น 5 แนวทางให้ ขสมก. ใช้แก้ปัญหารถขาด กลางวัน กลางคืน และให้การันตี ต้องมีรถวิ่งเพียงพอ ตั้งแต่ตี 5 ถึง 4 ทุ่ม ไม่รวมรถที่วิ่งตลอดคืน 21 เส้นทาง ปรับแผนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้ร่วมหารือกับนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหารถเมล์ ขสมก. และรถร่วมบริการ ขาดช่วงไม่เพียงพอต่อการใช้บริการของประชาชนโดยเฉพาะช่วงหลังจากเวลา 20.00 น. โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบกบอกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นสาเหตุที่รถไม่เพียงพอ มาจากประเด็นที่ในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 รถเมล์มีผู้ใช้บริการลดลงอย่างมากเฉลี่ยเหลือเพียง 20% ของช่วงปกติ และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายมีผู้โดยสารกลับมาใช้บริการแล้วประมาณ 70% ก็ทำให้มีความจำเป็นต้องประเมินและจัดการเดินรถใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการ รวมทั้งปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านการปฏิรูปเส้นทางเดินรถ ซึ่งเอกชนที่ได้รับอนุญาตเดินรถในแต่ละเส้นทาง อาจยังไม่สามารถบรรจุรถได้ครบตามจำนวนทั้งหมดในช่วงแรก ก็ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากการหารือในวันนี้ได้สรุปแนวทางแก้ไขปัญหา 5 ข้อ คือ 1. ขอให้ ขสมก. และรถร่วมบริการ ดำเนินการปรับเที่ยววิ่งใหม่ให้สอดคล้องแต่ละช่วงเวลา เช่น ชั่วโมงเร่งด่วน ขอให้เพิ่มความถี่และปริมาณรถเข้าไป เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ 2. ขอให้ ขสมก. ปรับแผนการเดินรถสอดคล้อง ปริมาณผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางจริงในแต่ละเส้นทางหลังสถานการณ์โควิด 3. ให้ ขสมก.สามารถตัดเส้นทางเดินรถ ให้สั้นลงเป็นช่วง ๆ ตามความต้องการใช้งานของประชาชน เพื่อให้สามารถนำรถกลับมาหมุนเวียนเดินรถในช่วงที่มีผู้โดยสารคับคั่งด้วยความถี่มากขึ้น 4. และให้ ขสมก. สามารถบริหารจัดการรถในรถแต่ละสาย สามารถนำรถจากเส้นทางที่มีความต้องการใช้น้อยและมีพนักงานเพียงพอ จากเขตการเดินรถอื่นมาใช้ในเส้นทางที่มีความต้องการใช้บริการสูง โดยในข้อ 3 และข้อ 4 นี้ กรมการขนส่งทางบกจะอำนวยความสะดวกลดขั้นตอนในการขออนุญาตให้สามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
และสุดท้ายข้อ 5 กรมการขนส่งทางบกขอให้ ขสมก. การันตีการเดินรถในทุกพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่เดินรถอยู่ ให้มีบริการเพียงพอตั้งแต่ 05.00-22.00 น. ไม่นับรวมรถที่วิ่งตลอดคืนใน 21 เส้นทาง ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน
“การปรับแผนการเดินรถทั้งหมด 5 ข้อนี้ ขอให้ ขสมก. เริ่มดำเนินการทันทีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป” อธิบดีกรมการขนส่งทางบกกล่าว
ส่วนประเด็นปัญหาสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบกับผู้ให้บริการเดินรถในหมวด 2 และหมวด 3 หรือรถที่วิ่งจากกรุงเทพมหานครไปต่างจังหวัด และรถที่วิ่งระหว่างจังหวัด ซึ่งได้รับผลกระทบราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ต้องแบกภาระต้นทุนพลังงานนั้น
อธิบดีกรมการขนส่งทางบกระบุว่า เรื่องดังกล่าวภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ กรมการขนส่งทางบกได้ทำเรื่องเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยต้องขอความเห็นชอบทั้งในส่วนของกระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลังด้วย โดยเป็นมาตรการให้ส่วนลดคูปองน้ำมันลิตรละ 2 บาทแก่ผู้ประกอบการเดินรถ หมวด 2 และ 3 ซึ่งยังใช้น้ำมันดีเซล เดินรถให้บริการอยู่ ปัจจุบันมีประมาณ 6,000 คัน ส่วนการประชุมของคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางนัดต่อไป ยอมรับว่าจะมีการรายงานเรื่องสถานการณ์ต้นทุนราคาน้ำมันเข้าสู่ที่ประชุมด้วย แต่ยังไม่มีการพิจารณาวาระอนุมัติให้รถร่วมบริการ บขส. ปรับราคาค่าโดยสารแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย