ทางหลวงปั้นแผนพัฒนา 10 ปี “ทางเลี่ยง-วงแหวน” ทั่วไทย

กรุงเทพฯ 28 เม.ย.- กรมทางหลวงเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายถนนวงแหวน-ทางเลี่ยงเมือง กว่า 57 แห่งทั่วไทย พร้อมเร่งจัดทำ Action Plan ระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ปี 68-78 ทั้งระยะสั้น กลาง ยาว อีก 25 แห่งทั่วประเทศ หวังรองรับการขยายตัวของเขตเมืองในจังหวัดหลักของภูมิภาค เศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างต่อเนื่อง


นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า จากที่มีการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆเพื่อรองรับการขยายตัวของชุมชน เขตเมืองต่าง ๆ ในภูมิภาค อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ พื้นที่ของประเทศไทย ส่งผลทำให้โครงข่ายถนนทางหลวงเดิมที่มีอยู่กว่า 53,000 กม.ทั่วไทย และที่กระจายไปในพื้นที่ชุมชน ต้องรองรับการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทำให้บางเส้นทาง หรือ บางช่วงที่ต้องผ่านตัวชุมชน เขตเมืองจราจรติดขัด ขณะที่กรมทางหลวงได้มีการก่อสร้างขยายช่อง จราจรเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนแบบเต็มเขตทางไปแล้ว ทำให้ปัจจุบัน ไม่สามารถก่อสร้างเพิ่มช่องจราจรได้อีก ขณะที่ความต้องการในการเดินทางยังสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้ทางที่ต้องการเดินทางผ่านเมืองประสบปัญหาจราจรติดขัด เกิด ความล่าช้าในการเดินทาง รวมถึงบางครั้งมีปัญหาอุบัติเหตุ ทำให้ผู้ใช้ทางในชุมชนไม่ได้รับความปลอดภัยแก้รถติดเขตชุมชน รองรับขยายเมือง

โดยจากปัจจัยต่างๆดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กรมทางหลวงต้องวางแผน พัฒนาก่อสร้างทางเลี่ยงเมือง – วงแหวนรอบนอก ในจังหวัดหลักๆของประเทศที่มีการอัตราการเติบโตปริมาณจราจรสูง เพื่อแยกปริมาณการจราจรที่ไม่จำเป็นต้อง เดินทางผ่านพื้นที่ชุมชนเมืองออกมา ซึ่งถนนทางเลี่ยงดังกล่าวเมื่อทำแล้วจะช่วย ลดจราจรติดขัด ลดปัญหาอุบัติเหตุ รวมถึงช่วยรองรับการพัฒนาของชุมชนเมือง รองรับการกระจายความเจริญลงสู่ท้องถิ่น ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน


“ขณะเดียวกันข้อดีของการก่อสร้างทางเลี่ยง หรือ วงแหวนรอบนอกเขตเมือง จะทำให้ประชาชนคนเดินทางไม่ต้องผ่านชุมชน หรือ เมือง แต่ข้อเสียอาจจะมีอยู่บ้าง ที่โครงการทางเลี่ยงเมือง จะใช้ระยะเวลาก่อสร้างที่ยาวนานเฉลี่ยกว่า6-10 ปี สาเหตุเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ขีดเส้นขึ้นมาใหม่ ต้องมีการเวนคืนที่ดิน ดังนั้นการก่อสร้างเมื่อได้เริ่มสร้างจะเป็นทางเลี่ยงเมืองก่อน หากโครงการสำเร็จก็จะเป็นการ สร้างต่อเชื่อมเป็นวงแหวนรอบนอก” นายสราวุธกล่าว

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่ากรมทางหลวงได้ทำการวางแผนพัฒนาทางเลี่ยงเมือง และถนนวงแหวนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีทางเลี่ยงเมืองและถนนวงแหวนที่ ก่อสร้างแล้วเสร็จทั่วประเทศ จำนวน 50 แห่ง ระยะทางรวม 984.633 กิโลเมตร ซึ่งสามารถจำแนกตามภาคต่าง ๆ ดังนี้ คือ ภาคเหนือ มี 13 แห่ง ระยะทาง 281.024 กม., ภาคกลาง มี 13 แห่ง ระยะทาง 189.437 กม., ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ มี17 แห่ง ระยะทาง 339.095 กม., ภาคใต้ มี 7 แห่ง ระยะทาง 175.077 กม. เดินหน้าสร้างทางเลี่ยงเมือง7แห่งทั่วไทย

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในปัจจุบัน กรมทางหลวงได้มีการก่อสร้างทาง เลี่ยงเมืองและถนนวงแหวนที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง และจะแล้วเสร็จให้ประชาชน สัญจรได้ในปี 66-67 จำนวน 7 แห่ง มีระยะทางรวม 145.525 กิโลเมตร ซึ่ง สามารถจำแนกตามภาคต่าง ๆ ดังนี้ ภาคเหนือ อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1 แห่ง คือ ทางเลี่ยงเมืองเชียงของจังหวัดเชียงราย ระยะทาง 9.103 กม. วงเงินก่อสร้าง 1,044 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค.67 ส่วนภาคกลางอยู่ระหว่าง ก่อสร้าง 1 แห่ง ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ด้านตะวันออก ตอนแยกทางหลวง หมายเลข 117-บรรจบทางหลวงหมายเลข 225 ระยะทาง 20.000 กม. วงเงิน ก่อสร้าง 3,196 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.67


สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 3 แห่ง ระยะทางรวม 95.040 กม. ประกอบด้วย 1.วงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา วงเงินงบประมาณ 7,650 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.66 2.ทางเลี่ยงเมืองหนองคาย(ด้านตะวันออก) วงเงินงบประมาณ 2,893 ล้านบาท คาดจะแล้วเสร็จใน เดือน ส.ค.66 และ 3.ทางเลี่ยงเมืองบึงกาฬ วงเงินงบประมาณ 1,714 ล้านบาท คาดว่าจะแล้ว เสร็จเดือน มี.ค.66 ส่วนภาคใต้ อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 แห่ง ระยะทางรวม 21.382 กม. ประกอบด้วย 1.ทางเลี่ยงเมืองปัตตานี วงเงินงบประมาณ 1,851 ล้านบาทคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67 และ 2.ทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ด้านตะวันออก วงเงินงบประมาณ 569 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จ เดือน เม.ย.66 เร่งทำ Action Plan 10 ปี รองรับเศรษฐกิจท้องถิ่นโต

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงในอนาคตของกรมทางหลวง นอกจากสร้างถนนเพิ่มขยายเลน บำรุงรักษาถนนที่มีอยู่แล้ว ขณะนี้ทาง กรมทางหลวงยังได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาโดยเฉพาะทางเลี่ยงเมืองเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า หากจะมีการพัฒนา หรือ ขยายโครงข่าย ถนนให้เกิดประสิทธิภาพและ คุ้มค่าต่อการลงทุนงบประมาณของภาครัฐ และเกิดประโยชน์สูงสุดมากที่สุด จะต้องมีการพัฒนาโครงข่ายทางเลี่ยงเมือง และ วงแหวนรอบนอกเขตเมือง

ดังนั้น กรมทางหลวงจึงได้มีการศึกษาเพื่อจัดทำแผนพัฒนาทางเลี่ยงเมือง (Action Plan) ระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ปี 68-78 เพื่อมาแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณเขตเมืองในภูมิภาคทั่วไทย ทั้งนี้ในการดำเนินการศึกษาจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ 1 ศึกษาความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจ วิศวกรรม และตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นของโครงการทางเลี่ยงเมืองในอนาคตที่มีศักยภาพ โดยพิจารณาปัญหาการจราจร รวมถึงแนวโน้มการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม และแนวโน้มการพัฒนาเมือง รวมถึงการบูรณาการร่วมกับการวางผังเมือง หน่วยงานในท้องถิ่นและชุมชน ส่วนที่ 2 จะมีการวิเคราะห์ความคุ้มค่า และจัดลำดับ ความสำคัญของโครงการ เพื่อจัดทำแผนพัฒนาทางทางเลี่ยงเมืองของกรมทางหลวง ทั้งในช่วงระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาวต่อไป เพื่อให้การพัฒนาโครงข่ายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับแผนพัฒนาทางเลี่ยงเมือง และถนนวงแหวนในอนาคตระยะ 10 ปีนั้น เบื้องต้นจะกระจายสร้างทั่วไทย ซึ่งโครงข่ายจะเป็นทั้งแนวใหม่และเสริมโครงข่ายเดิม ให้สมบูรณ์ จำนวนกว่า 25 แห่ง ระยะทางรวมกว่า 484.05 กม. แบ่งเป็นภาค เหนือ 7 แห่ง ระยะทาง 116.6 กม., ภาคกลาง 4 แห่ง ระยะทาง 116.7 กม., ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 แห่งระยะทาง 119.6 กม., ภาคใต้ 7 แห่ง ระยะทาง 131.15 กม.อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 19 คนไทยรับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์

15 พ.ค.- เปิดปฏิบัติการ “The Scam เงินแท้ คนเก๊” รวบ 19 คนไทยขายชาติ รับจ้างกดเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยึดทรัพย์รวม 6.6 ล้านบาท พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ร่วมแถลงข่าว กรณีมีผู้เสียหายจากการถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยทำกันเป็นขบวนการ ซึ่งสายที่ 1 อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ มีพัสดุมาส่ง จากนั้นได้ให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง (สายที่ 2) เมื่อผู้เสียหายโทรกลับไป อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองคลัง โดยให้ทำตามขั้นตอนที่คนร้ายสั่ง อ้างเพื่อเพิ่มเงินบำนาญ โดยได้หลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินครั้งแรกจำนวน 720,000 บาท และต่อมาได้มีสายที่ 3 โทรเข้ามาหาผู้เสียหาย อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าการทำธุรกรรมที่ได้ทำไปก่อนหน้านั้นผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอก เป็นเหตุให้ต้องระงับบัญชี และให้ทำตามขั้นตอนจากธนาคารแทน ผู้เสียหายหลงเชื่อ ทำให้ต้องโอนเงินไปอีกเป็นจำนวน 6 ครั้ง แต่มาทราบภายหลังว่าสุดท้ายเป็นการโอนเงินออกจากบัญชีทุกบัญชีของตนเองไปยังบัญชีของคนร้าย รวมความเสียหายทั้งหมด 3,942,767 บาท พฤติการณ์ดังกล่าว ผู้ต้องหาในคดีนี้ ได้ร่วมกันกระทำความผิดเป็นกระบวนการ ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการสืบสวนพิสูจน์ทราบข้อมูล […]

นายกฯ เยือนเวียดนามวันแรก เดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ

เวียดนาม 15 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามอย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าความร่วมมือสองประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและเทคโนโลยี.-สำนักข่าวไทย

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

ยังปิดล้อม! เหตุชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จ่อปรับยุทธวิธี

15 พ.ค.- ยังปิดล้อม! เหตุชายคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า ด้านผู้ช่วย ผบ.ตร. รุดลงพื้นที่ เน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ เตรียมปรับยุทธวิธีระงับเหตุ เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เดินทางลงพื้นที่เหตุชายคลุ้มคลั่งก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่เจ้าหน้าที่ ภายในบ้านพักหลังวัดลครทำ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดย พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า จะเข้าไปพูดคุยกับทาง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังเน้นยํ้าเรื่องความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบพื้นที่ ซึ่งจะยังไม่มีการยกระดับมาตรการหรือยุทธวิธีใดๆ ยึดการเจรจาเป็นหลักแม้สถานการณ์จะล่วงเลยมานานกว่า 9 ชั่วโมง แต่ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ส่วนกรณีชาวบ้านหลายครัวเรือนที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านของผู้ก่อเหตุนั้น เบื้องต้นจะหารือกับทาง พล.ต.ท.สยาม เรื่องมาตรการเยียวยา ตำรวจเตรียมปรับยุทธวิธีระงับผู้ก่อเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางลงพื้นที่อีกครั้ง พร้อมให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังให้แม่ของผู้ก่อเหตุเข้าไปเจรจาอยู่ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุวางอาวุธและมอบตัว ตอนนี้ผู้ก่อเหตุได้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน แต่ท่าทีโดยรวมของผู้ก่อเหตุเย็นลง อาการคลุ้มคลั่งก็ลดลงด้วย หากการเจรจาไม่เป็นผลหลังจากนี้อาจจะมีการปรับยุทธวิธีต่อไป -420 .-สำนักข่าวไทย