กรุงเทพฯ 23มี.ค. – ปตท. ต่อเวลาส่วนลด LPG-NGV อีก 3 เดือน มุ่งลดต้นทุนค่าครองชีพประชาชน ส่วนมาตรการลดค่าไฟฟ้าFTชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ประโยชน์รวม 20.8ล้านมิเตอร์
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์พลังงานโลกที่ยังคงผันผวน การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง คณะกรรมการจัดการ ปตท. จึงมีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาท/คน/เดือน ต่อไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2565
สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) โดย ปตท. ได้สนับสนุนส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นมา เป็นงบประมาณรวมกว่า 15.6 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ปตท.ได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และราคาขายปลีกเอ็นจีวี ตามมาตรการ “เอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกัน “ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน จากเดิมสิ้นสุดในวันที่ 15 มีนาคม 2565 เป็นวันที่ 15 มิถุนายน 2565 คิดเป็นมูลค่าที่สนับสนุนทั้งสิ้นกว่า 3,322 ล้านบาท (เริ่มมาตรการช่วยเหลือฯ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึง 15 มิถุนายน 2565) โดยผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เคยได้รับสิทธิ์ผ่านมาตรการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกันราคาจะอยู่ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่ ครม. เห็นชอบช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่าไฟฟ้าผันแปรหรือ Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม จากที่ เอฟทีงวดนี้จะขยับขึ้น 23.38 สตางค์ต่อหน่วย นั้น ประชาชนส่วนใหญ่จะได้ประโยชน์ เพราะมีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ไม่เกิน 300 หน่วยทั่วประเทศ ราว 20.8 ล้านมิเตอร์ จากมิเตอร์ผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อย หรือครัว เรือนมีราว 23 ล้านมิเตอร์ โดยคาดว่าจะใช้วงเงินจากภาครัฐเข้ามาสนับสนุนการลดค่าไฟฟ้าครั้งนี้ราว 1,700 ล้านบาท ในขณะเดียวกันก็เป็นการรณรงค์การประหยัดพลังงาน ไปในตัว เพราะหากใช้เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ก็จะไม่ได้ส่วนลด อย่างไรก็ตามมีการประเมินด้วยว่าหากรัฐบาลยังช่วยเหลือประชาชนด้วยการลดค่าไฟฟ้าเอฟทีระดับนี้ต่อไปจนถึงสิ้นปี 2565 แล้วจะต้องใช้งบประมาณสนับสนุนรวม 7 พันล้านบาท
ส่วนการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึงนั้น ก็เป็นผลมาจากราคาน้ำมันโลกขยับขึ้นสูงมาก ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไม่มีเงินอุดหนุน และล่าสุดจนถึง20มี.ค.65กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิว ติดลบแล้วกว่า 3.28หมื่นล้านบาท โดยสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีการแถลงรายละเอียดในบ่ายวันนี้ .-สำนักข่าวไทย