กรุงเทพฯ 15 มี.ค.-นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย ระบุเกษตรกรหาซื้อปุ๋ยยากขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตชะลอนำเข้า ราคาปุ๋ยชนิดต่างๆ ในตลาดโลกปรับขึ้นเกือบ 50-190% แต่ ก.พาณิชย์ ยังตรึงราคาจำหน่ายในประเทศตามเพดานราคาที่กำหนดไว้นานแล้ว ชี้รัฐบาลควรอุดหนุนเกษตรกรผ่าน ก.เกษตรฯ
นายเปล่งศักดิ์ ประกาศเภสัช นายกสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทยกล่าว่า ยังคงรอคำตอบจากกระทรวงพาณิชย์ หลังจากทำหนังสือขอให้ปรับเพดานราคาจำหน่ายในประเทศเนื่องจากราคาแม่ปุ๋ยที่ผู้ประกอบการต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นมากได้แก่ ยูเรีย ปรับขึ้น 178% แอมโมเนียมซัลเฟต (AS) 122% ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (DAP) 51% และโพแทสเซียมคลอไรด์ (MOP) 193% สาเหตุเพราะราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกปรับสูงต่อเนื่อง โดยก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปุ๋ยจึงส่งผลให้ราคาปุ๋ยสูงขึ้นตามไปด้วย
กระทั่งเกิดความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน ราคายิ่งพุ่งขึ้นอีก เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกปุ๋ยรายใหญ่รายหนึ่งของโลก เช่นเดียวกับเบลารุส แต่เส้นทางขนส่งต้องผ่านท่าเรือของยูเครนทำให้ไม่สามารถส่งออกได้ โดยไทยนำเข้าปุ๋ยจากรัสเซียและยูเครนมากเป็นอันดับ 3 รองจากจีนและซาอุดีอาระเบีย
นายเปล่งศักดิ์กล่าวว่า ปุ๋ยเป็นสินค้าควบคุมซึ่งกรมการค้าภายในกำหนดเพดานราคาจำหน่าย แต่ไม่ได้ปรับขึ้นตามต้นทุนมานานมากแล้ว ล่าสุดบริษัทผู้ผลิตปุ๋ยบางรายชะลอการสั่งซื้อจากต่างประเทศเนื่องจากขายไม่คุ้มทุน จึงส่งผลให้เกษตรกรหาซื้อได้ยาก โดยหากไม่เร่งแก้ไข อาจเกิดภาวะปุ๋ยขาดแคลนและส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ผลผลิตทางการเกษตรในฤดูกาลเพาะปลูกที่กำลังจะมาถึงใน 2 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องกังวลว่า หากให้ปรับเพดานราคาจำหน่ายแล้ว ผู้ผลิตจะเอาเปรียบเกษตรกรเนื่องจากกรมการค้าภายในประเมินต้นทุนของแต่ละบริษัทได้ จึงสามารถกำหนดเพดานราคาใหม่ให้เหมาะสม
สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน หากปรับราคาปุ๋ย แล้วทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น รัฐบาลสามารถอุดหนุนปุ๋ยซึ่งเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญหรือชดเชยค่าปุ๋ยให้เกษตรกรเช่นเดียวกับจีนและอินเดียทำในขณะนี้เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารในประเทศและส่งออกผลผลิตด้วย โดยสามารถทำโครงการผ่านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดังที่เคยทำมาหลายโครงการในอดีต.-สำนักข่าวไทย