นนทบุรี 10 มี.ค.-อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาดึงกรมการแพทย์ และ สวทช.ร่วมกันพัฒนาศักยภาพนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา หวังเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพของไทยให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความเหลื่อมล้ำในระบบสาธารณสุข ลดการนำเข้านวัตกรรมทางการแพทย์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญากล่าวภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมกรมทรัพย์สินทางปัญญากับ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อเดินหน้าเสริมแกร่งนวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา มั่นใจช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนด้านสาธารณสุข ลดความเหลื่อมล้ำและภาระค่าใช้จ่ายจากการนำเข้าเทคโนโลยีทางการแพทย์ของประเทศ รองรับการเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ของไทย
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าของประเทศ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในการเติบโต กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการแพทย์ และ สวทช. มีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะสนับสนุนงานวิจัย พัฒนา และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ นำไปสู่การคุ้มครองและใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพของไทยให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ ลดความเหลื่อมล้ำในระบบสาธารณสุข ลดการนำเข้านวัตกรรมทางการแพทย์ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ทั้ง 3 หน่วยงานจึงร่วมขับเคลื่อนแนวคิดดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ผ่านการบูรณาการองค์ความรู้และทรัพยากรระหว่างหน่วยงานในหลายมิติ อาทิ การส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการแพทย์โดยนำฐานข้อมูลสิทธิบัตรมาวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยีก่อนเริ่มการวิจัย การส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยพิจารณาคำขอรับสิทธิบัตรแบบเร่งด่วนให้กับนวัตกรรมทางการแพทย์ที่มีประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม การให้คำปรึกษาเชิงลึกด้านทรัพย์สินทางปัญญาผ่านศูนย์ให้คำปรึกษาด้านทรัพย์สินทางปัญญา (IPAC) ตลอดห่วงโซ่มูลค่าทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพและการแพทย์ของไทย สร้างผลงานสิทธิบัตรที่มีมูลค่า ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด พร้อมสร้างรายได้เข้าประเทศผ่านการซื้อ-ขายสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐที่เข้มแข็ง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยทรัพย์สินทางปัญญาและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุขอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย