ไออาร์พีซีคาดไตรมาส1/65 จะมีกำไรสตอกน้ำมันหลังราคาพุ่งแรง

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.-บมจ.ไออาร์พีซี คาด ไตรมาส 1 /2565 จะมีกำไรสตอกน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบดูไบใกล้แตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรร่วมทุนสร้างธุรกิจใหม่ คาดรายได้จากสินค้าเกรดพิเศษปีนี้เพิ่ม มีสัดส่วนจากกำลังผลิตเป็น 24 % ยืนยันกำลังผลิตปิโตรเคมีไม่ลด แม้ว่าจะชัตดาวน์โรงกลั่นปลายปีก็ตาม


นายชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC กล่าวว่า จากกรณีวิกฤติสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” ในขณะนี้ ทั่วโลกกำลังจับตาดูว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด ซึ่งในส่วนของประเทศไทยไม่ได้พึ่งพาน้ำมันและก๊าซฯจากรัสเซีย แต่ได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น โดยรัสเซียส่งออกน้ำมันดิบ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และประมาณ 2.8 ล้านบาร์เรล/วันส่งออกไปยุโรป หากถูกคว่ำบาตร ส่วนนี้ส่งออกไม่ได้ แต่หากทางกลุ่มโอเปกใช้น้ำมันสำรองที่มีอยู่ 2-4 ล้านบาร์เรล/วันมาผลิตทดแทน รวมทั้งกรณีหากอิหร่านกลับมาส่งออกได้ ก็คาดว่าผลกระทบทางด้านกำลังผลิตที่หายไปคงไม่มากนัก แต่ก็จะมีผลทางจิตวิทยาที่ทำให้ราคาน้ำมันขยับขึ้น ส่งผลต้นทุนแนฟทาผลิตปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นด้วย แต่ราคาปิโตรเคมีก็ปรับตาม โดยภาพรวมแล้ว ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ ปีนี้ คาดจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

ส่วนจะมีกำไรสตอกน้ำมันหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันปลายปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/65 คาดว่าจะมีกำไร
สตอก เพราะราคาในขณะนี้สูงกว่า สิ้นไตรมาส 4/64 ที่ราคาน้ำมันดิบดูไบปิดไปที่ 78.4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ กลุ่ม ปตท.คาดการณ์ก่อนเกิดเหตุวิกฤติ “ยูเครน”ว่า ในไตรมาส1-2 ในปีนี้ ราคาดูไบจะอยู่ที่ 78-83 เหรียญ/บาร์เรล และมาร์จิ้น ของราคาดีเซล-เบนซิน คาดอยู่ที่ 12-14 เหรียญ/บาร์เรล ในขณะที่ ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเดิมคาดการณ์อาจปรับลดลงบ้าง แต่ในขณะนี้ก็ปรากฏว่าราคาสินค้ามีแนวโน้มปรับเพิ่มตามราคาน้ำมัน


นายชวลิต กล่าวว่า ในปีนี้ โรงกลั่นไออาร์พีซีมีแผนซ่อมบำรุง ราวไตรมาส 3และ4 ทำให้กำลังกลั่นเฉลี่ยปีนี้จะลดลงเหลือ 1.8-1.85 แสนบาร์เรล/วัน จากปี 2564 กำลังกลั่น อยู่ที่ 1.92 แสนบาร์เรล/วัน แต่จะไม่กระทบกำลังผลิตปิโตรเคมีเพราะได้วางแผนเพิ่มกำลังกลั่นเพิ่มในไตรมาส 2มากกว่า 2 แสนบาร์เรล/วัน และวางแผนนำเข้าวัตถุดิบมาทดแทน ส่วนทางด้านการเงินปีนี้จะออกหุ้นกู้ไม่เกินไตรมาส2 /65 เพื่อลดผลพวงจากแนวโน้มดอกเบี้ยโลกที่กำลังขยับขึ้น ซึ่งปริมาณคาดจะใกล้เคียงกับวงเงินที่จะคืนเงินกู้ในปีนี้ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนรายได้ปีนี้จะเติบโตกว่าปีที่แล้วหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ แต่จะทำแผนเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีที่สุด

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนการลงทุนธุรกิจ 5 ปี (2022-2026) ในวงเงินรวม 41,350 ล้านบาท ตามกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างสัดส่วนรายได้จากธุรกิจใหม่ให้เพิ่มมากขึ้น และสร้างความแข็งแกร่งในฐานธุรกิจปัจจุบัน โดยตั้งเป้าหมาย EBITDA 25,000 ล้านบาทในปี 2025 และ 35,000 ล้านบาทในปี 2030 มุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ พร้อมขับเคลื่อนองค์กร สู่ความยั่งยืนในทุกมิติ สร้างคุณค่าร่วมต่อสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas: GHG) ลง 20% ในปี 2030 โดยวงเงินลงทุนดังกล่าวประมาณ35 % จะเป็นการเตรียมเงินสำหรับการลงทุนในอนาคตตามแผนงานซึ่งจะมีทั้งการร่วมทุนและการเข้าซื้อกิจการ และตั้งเป้าจะมีกำลังผลิตที่เป็นสินค้าเกรดพิเศษราว 30 % ใน 5 ปีข้างหน้า โดยปีนี้จะเพิ่มเป็น 24 % จากปี 2564 อยู่ที่ราว 21 % และจะเพิ่มเป็น 55% ในปี 2030

“เราวางแผนดำเนินการภายใต้กลยุทธ์ การต่อยอดการเติบโตจากกลุ่มธุรกิจในปัจจุบัน การลงทุนในกลุ่มธุรกิจข้างเคียง และการสร้างธุรกิจใหม่ ด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน และต่อยอดความแข็งแกร่งในธุรกิจปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการสร้างธุรกิจใหม่ ซึ่งศึกษาไปพร้อมๆกันกลุ่ม ปตท. รองรับการคาดการณ์ที่คาดว่าจะมีการใช้น้ำมันในยานยนต์ลดลง ก็จะมองถึงทิศทางการพัฒนาเคมิคอล เฮสท์แคร์ การปรับตัวรองรับอีวี ซึ่ง ไออาร์พีซีได้เสนอพื้นที่บ้านค่าย จ.ระยองให้เป็นพื้นที่โรงงานประกอบรถยนต์อีวีของกลุ่ม ปตท. รวมทั้งเร่งพัฒนาเม็ดพลาสติกรองรับการผลิตอีวี และผลิตภัณฑ์อะเซทิลีนแบล็ก (acetylene black) เพื่อใช้ในลิเธียมแบตเตอรี นับว่าเป็นโอกาสของเรา”นายชวลิตกล่าว


โครงการลงทุนที่สำคัญ ใน 5 ปีนี้ เช่น โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและปรับปรุงคุณภาพน้ำมันดีเซล ตามมาตรฐานยูโร 5 (Ultra Clean Fuel Project: UCF) มูลค่า 1.33 หมื่นล้านบาท โครงการ Strengthen IRPC เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร โครงการลงทุนทั่วไป และอื่นๆ ตลอดจนการพัฒนา จะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 1 ปี 2024 โดยแผนงานจะบูรณาการกระบวนการทำงานให้สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อตอบสนองลูกค้า และแสวงหาตลาดใหม่ เช่น การเข้าสู่ตลาด Advanced Material สำหรับวัสดุด้านสุขภาพ การแพทย์ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง (Health & Life Science) การดำเนินการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) การวิจัยและพัฒนาด้าน Energy Solution ให้สอดรับกับพลังงานในอนาคต (Future Energy) และระบบการกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Energy Storage) เป็นต้น

ด้านความคืบหน้าโครงการผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ (Non-woven Fabric) ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักสำคัญสำหรับผ้าชั้นกรองหน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ และแผ่นกรองอากาศ ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 60% ในการร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด จะสามารถผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2 ปี 2022 เพื่อช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และยกระดับด้านสาธารณสุข และอุปกรณ์ทางการแพทย์ของประเทศไทย

ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับรางวัล S&P Global Sustainability Award 2022 ในระดับ Bronze Class ในกลุ่มอุตสาหกรรมการกลั่นและค้าน้ำมันและก๊าซ (Oil and Gas Refining and Marketing) และยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (DJSI) ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 สะท้อนความสามารถในการดำเนินธุรกิจด้วยนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี มีธรรมาภิบาล รวมทั้งคำนึงถึง เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม และผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ให้เติบโตไปพร้อมกัน “IRPC สร้างสิ่งที่ดีเพื่ออนาคต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ตร.เข้มปราบแข่งรถบนทางด่วน เร่งสอบเหตุรถชน 11 คัน

17 ส.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ย้ำปราบปรามแข่งรถในทางอย่างเข้มงวด กรณีเกิดอุบัติเหตุรถชน 11 คัน บนทางด่วนศรีรัช–อุดรรัถยา เร่งตรวจสอบ พบความผิดใด ดำเนินคดีทุกกรณี วันนี้ (17 สิงหาคม 2568) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร และหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีวันที่ 16 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 00.30 น. ศูนย์วิทยุ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกันหลายคัน บนทางด่วนศรีรัช – อุดรรัถยา ขาออก มุ่งหน้า จังหวัดปทุมธานี พื้นที่ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยการทางพิเศษเร่งเข้าตรวจสอบ พบรถยนต์เสียหายรวมทั้งสิ้น 11 คัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ทั้งหมด ผลการตรวจไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม จากพฤติการณ์เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการขับรถด้วยความประมาท […]

สัปดาห์หน้าถกคดี “หมอบี” รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หนี

17 ส.ค.- กองปราบเตรียมประชุมคณะทำงานคดี “หมอบี” สัปดาห์หน้า รอง ผบก.ป. เชื่อเจ้าตัวยังไม่หลบหนี พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบพฤติการณ์ของนายเสกสันน์ หรือ หมอบี ซึ่งอาจเข้าข่ายฉ้อโกง กรณีเปิดรับบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการของวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า คณะทำงานจะมีการเรียกประชุมเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้ลงไปติดตามในพื้นที่ จากการสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาเทียบเคียงและพิจารณาว่า พฤติการณ์ของนายเสกสันน์ เข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ ส่วนจะเป็นวันใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือ สำหรับการรวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่ามีความคืบหน้าไปมาก คงเหลือพยานหลักฐานบางส่วนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีบุคคลที่เกี่ยวข้องหลบหนีไปนั้น พ.ต.อ.เอนก บอกว่า เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะมีใครหลบหนี มีรายงานข่าวว่า กรณีดังกล่าวหากนายเสกสันน์ หรือผู้เกี่ยวข้องมีการหลบหนีจริง ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ เนื่องจากขณะนี้เจ้าตัวยังไม่ถูกดำเนินคดี รวมถึงไม่ถือเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ทำให้ตำรวจไม่สามารถขออายัด หรือมีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งปัจจุบันคณะทำงาน โดยเฉพาะกองบังคับการปราบปราม อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับในกรณีที่พบการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิด.-419-สำนักข่าวไทย

เตือนฝนฟ้าคะนองทั่วไทย – 6 จังหวัดตะวันออกหนักสุด

กทม. 17 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยฝนฟ้าคะนองทั่วไทย เตือน 6 จังหวัดภาคตะวันออก แม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี ตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 17 ส.ค. นี้ไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย