นักเศรษฐศาสตร์ชี้ผลกระทบขับรัสเซียออกจากระบบ SWIFT

กรุงเทพฯ 27 ก.พ. – นักเศรษฐศาสตร์เผยขับไล่รัสเซียออกจากระบบ SWIFT ส่งผลต่อธุรกรรมการเงิน ส่งออกน้ำมัน เสียหาย 2.72 ล้านล้านบาท “คริปโทเคอร์เรนซี” กลายเป็นพระเอก ชำระเงินระหว่างประเทศ จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน


รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า เมื่อประเทศตะวันตกขับไล่รัสเซียออกจากระบบ SWIFT นับว่ามีผลต่อเศรษฐกิจรัสเซีย เพราะต้องพึ่งพารายได้เป็นเงินตราต่างประเทศจากการขายน้ำมันและพลังงานมากกว่าร้อยละ 40 ของงบประมาณ และคิดเป็นร้อยละ 60 ของมูลค่าส่งออกทั้งหมด ระบบ SWIFT เชื่อมโยงสถาบันการเงินทั่วโลกมากกว่า 11,000 แห่ง ให้บริการมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก หากรัสเซียไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินในระบบ SWIFT ได้ ย่อมส่งผลต่อการชะงักงันของการส่งออกและกระทบรายได้จำนวนมาก ทำให้จีดีพีของรัสเซียลดลงไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 85,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.72 ล้านล้านบาท

การใช้มาตรการคว่ำบาตร ทำให้รัสเซียออกจาก SWIFT เป็นเพียงมุ่งเป้าไปยังธนาคารเป้าหมาย ทำให้ผลกระทบสร้างความเสียหายต่อรัสเซียยังคงอยู่ในวงจำกัด ขณะเดียวกัน รัสเซียอาจไปใช้ระบบ China’s Cross-Border Inter-Bank Payment System หรือ คริปโทเคอร์เรนซี แทน แต่ยอมรับไม่สามารถทดแทนระบบ SWIFT ได้ เพราะอิหร่านเคยถูกปิดกั้นจากระบบ SWIFT ทำให้การค้าต่างประเทศของอิหร่านหายไปกว่าร้อยละ 30


ดร.อนุสรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ด้วยการปิดกั้นไม่ให้รัสเซียเข้าถึงเทคโนโลยีและตลาดการเงินของชาติตะวันตก การยึดทรัพย์สินของกลุ่มผู้นำรัสเซีย ผู้ใกล้ชิดประธานาธิบดีปูติน และการควบคุมการส่งออกสินค้าบางประเภทไปยังรัสเซีย มาตรการเหล่านี้ส่งผลต่อแรงกดดันทางการเมืองและทางการทหารมากกว่ามาตรการ SWIFT จึงกลายเป็นการทำสงครามแบบผสมผสาน หรือ Hybrid Warfare เพราะมีทั้งมาตรการทางเศรษฐกิจ มาตรการการเงิน มาตรการโจรกรรมทางไซเบอร์ ได้สร้างความปั่นป่วนในระบบการสื่อสารโทรคมนาคม ความระส่ำระสายในระบบการชำระเงิน จะถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ มีการปฏิบัติการข่าวสาร (Information Operation : IO) และปฏิบัติการทางจิตวิทยาอย่างมากมาย มีการสร้างข่าวปลอม ส่งผลต่อความผันผวนในตลาดการเงินมากยิ่งขึ้น

คริปโทเคอร์เรนซี นับว่ามีบทบาทเพิ่มขึ้นเพื่อการโอนเงินและการชำระเงินระหว่างประเทศในสงครามรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากคริปโทเคอร์เรนซี มีลักษณะของการเงินแบบกระจายศูนย์ ไม่มีศูนย์กลางควบคุม จึงถูกใช้เพื่อรับมือการคว่ำบาตรทางการเงินและเศรษฐกิจของชาติตะวันตกต่อรัสเซีย และการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการเงินให้กองทัพยูเครน อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงในการเกิดฟองสบู่คริปโทเคอร์เรนซีแตก เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อุปสงค์ต่อคริปโทเคอร์เรนซีของรัสเซียและยูเครน ไม่เพียงพอต่อการประคับประคองราคาที่ทรุดตัวลงอย่างรุนแรง ในสถานการณ์สงครามเช่นนี้ คริปโทเคอร์เรนซีได้รับความนิยมจะเป็น Stablecoin ผูกกับเงินดอลลาร์ฯ ประชาชนในยูเครนจะถือ Stablecoin มากกว่าเงินสด เนื่องจากจะปลอดภัยกว่า

รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวอีกว่า สถาบันการเงินไทยควรระมัดระวังในการถูกใช้ให้เป็นเครื่องมือหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของระบอบปูติน เพราะผลประโยชน์ทางการเงินได้ไม่คุ้มค่ากับผลเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นติดตามมา จุดยืนของไทยควรเป็นจุดยืนของการต่อต้านสงคราม ต่อต้านการรุกรานประเทศอื่น และต่อต้านการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ สนับสนุนการเคารพบูรณภาพแห่งดินแดน สนับสนุนสันติภาพและการเจรจาเพื่อยุติสงคราม ไทยควรวางตัวเป็นกลาง เพราะความขัดแย้งและสงครามรัสเซีย-ยูเครน มีความซับซ้อนมาก และประเทศไทยไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงจากปัญหาดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร

เจรจาล่ม ตัวแทนจีนไม่พอใจ ลุกกลางวงเจรจา ยันไม่ติดเงินใคร ด้านบริษัท 9PK นำเอกสารชี้แจง พร้อมขอให้บริษัทจีนช่วยอนุมัติเงินมาจ่ายให้กลุ่มผู้รับเหมาก่อน

จับแล้วโจรบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่

จับแล้วโจรมาเลย์บุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ จนมุมสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ เผยมาหาลูกชายที่ จ.นนทบุรี แต่ลูกไม่ให้เข้าบ้าน

ปิดล้อมจับชายวัย 43 ยิงเพื่อนบ้าน-ตร.เจ็บ 4

ตำรวจปิดล้อมนานถึง 11 ชั่วโมง จับชายวัย 43 ปี ใช้ปืนยิงเพื่อนบ้านและตำรวจที่เข้าระงับเหตุ บาดเจ็บรวม 4 ราย หลังโมโหเพื่อนบ้านติดกล้องวงจรปิดหันส่องไปทางบ้านผู้ก่อเหตุ ยิงแก๊สน้ำตา-ญาติเกลี้ยกล่อม ยังไม่เป็นผล

แผ่นดินไหวขนาด 5.8 ในไต้หวัน-ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาไต้หวันรายงานวันนี้ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดด 5.8 ที่เทศมณฑลอี้หลาน (Yilan) ซึ่งเป็นพื้นที่ชนบทห่างไกลทางตจะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

ข่าวแนะนำ

ปชช.ทยอยกลับภูมิลำเนา จราจรมุ่งหน้าเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่น

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปริมาณรถมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือและอีสาน เริ่มหนาแน่น แต่ยังเคลื่อนตัวตามกันได้ ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลและอำนวยความสะดวกการเดินทาง

นายกฯ ระดมทีมสร้างความเชื่อมั่น ดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย

“นายกฯ แพทองธาร” ระดมทีมท่องเที่ยว ทำความเข้าใจ สร้างภาพลักษณ์ไทยไม่อันตราย หลังแผ่นดินไหว ตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวแทนยอดที่หาย ดึงชาติอื่นแทนจีน

ยังมีหวัง! พบแสงไฟใต้ซากโซน B คาดเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษม พบแสงไฟใต้ซากอาคารบริเวณโซน B คาดเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือจากผู้สูญหาย เชื่อมีความหวังพบผู้รอดชีวิต 90% เร่งส่องกล้องตรวจสอบใต้โพรง