ระยอง 31 ม.ค. – รมว. ทส. ระบุปฏิบัติการวาง Boom ดักน้ำมัน 5 ชุดเพื่อกั้นร่องเสม็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังไม่พบคราบน้ำมันพัดสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด แต่ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เพราะเป็นหาดสำคัญและมีปะการังน้ำตื้น ด้านบริษัท SPRC ออกแถลงการณ์ยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่วาง Boom ดักน้ำมัน 5 ชุดเพื่อกั้นร่องเสม็ดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ยังไม่พบคราบน้ำมันพัดสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด บริเวณนี้มีชายหาดที่สวยงามและปะการังน้ำตื้น หากคราบน้ำมันเข้าไปถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้ขอให้ทุกฝ่ายทั้งหน่วยงานจากกระทรวง กองทัพเรือ และประชาชนเฝ้าระวังและป้องกันร่วมกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ส่วนที่หาดแม่รำพึงซึ่งขจัดคราบน้ำมันหมดแล้ว แต่ยังต้องจัดเก็บทรายที่ปนเปื้อนออกให้หมด โดยยังคงขอความร่วมมือประชาชนไม่เข้าไปในจุดที่คราบน้ำมันพัดขึ้นมาเพราะอาจปนเปื้อนออกไปสู่พื้นที่อื่นได้
นายวราวุธกล่าวต่อว่า การดำเนินคดีบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ทางหน่วยงานต่างๆ จะดำเนินการตามกฎหมายที่แต่ะละหน่วยรับผิดชอบ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะดำเนินคดีฐานสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้มอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดชายทะเลและมีอุตสาหกรรมน้ำมันอยู่ ขอให้เข้มงวดกวดขันในการติดตามตรวจสอบการบำรุงรักษาระบบปฏิบัติงานต่างๆ ให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอเพราะเมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้สร้างความเสียหายและเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ต้องติดตามอย่างต่อเนื่องและใช้เวลานานหลายปีกว่าจะฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติที่สูญเสียไปให้มีความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 8 ระบุว่า ยังคงมีการใช้เรือในการวางทุ่นกักน้ำมัน (boom) ในทะเลเพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวของน้ำมันเข้าพื้นที่ชายฝั่ง ใช้แผ่นซับน้ำมัน (absorbent sheet) ดูดซับน้ำมัน ซึ่งพบว่าปริมาณคราบน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง ใช้ vacuum truck เพื่อดูดน้ำมันบริเวณที่มีคราบน้ำมันหนาแน่น และได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์เพื่อให้การขจัดคราบน้ำมันรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทางบริษัทยินดีที่จะรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งระยะสั้น และระยะยาว โดยจะเปิดรับเรื่องร้องเรียนสำหรับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และร่วมมือกับทางจังหวัดในการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเพื่อให้สามารถจัดการเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว โดยสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 038-699-881
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะดำเนินการปฏิบัติงานในการขจัดคราบน้ำมันด้วยความปลอดภัย ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะดำเนินการเพื่อขจัดคราบน้ำมันให้ได้มากที่สุดเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลรวมถึงชายฝั่ง.-สำนักข่าวไทย