โอไมครอนมาฉุดช่วงปีใหม่ไม่ค่อยคึกคักมากนัก

กรุงเทพฯ 24 ธ.ค.- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเผยผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ คนกังวลหลายด้านฉุดเงินสะพัดเพียง 85,796,49 ล้านบาท ติดลบร้อยละ 6.2 ต่ำสุดรอบ 12 ปี ย้ำเกิดจากโอไมครอน แนะรัฐบาลเร่งแก้ไขเศรษฐกิจรวมถึงคุมโควิดให้น้อยลงพร้อมมีวัคซีนที่ดีและมีคุณภาพ


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า โดยภาพรวมแม้ส่วนใหญ่จะวางแผนท่องเที่ยวและสังสรรค์กันเป็นส่วนใหญ่ แต่จากปัญหาความกังวลแพร่ระบาดเชื้อโอไมครอน ทำให้การท่องเที่ยวและสังสรรค์อาจจะไม่คึกคักมากนัก เพราะยังกลัวการติดเชื้อโอไมครอน ดังนั้น พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงปีใหม่นี้ คนส่วนใหญ่จะเน้นสังสรรค์อยู่กับบ้านและหากจะท่องเที่ยวก็จะเน้นท่องเที่ยวที่ไม่ใกล้มากนัก แต่หากจะไปก็จะเน้นไปในพื้นที่ที่ดูแลด้านความปลอดภัยลดการติดเชื้อโควิดให้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม โดยเฉลี่ยการใช้จ่ายต่อตัวต่อคนในช่วงเทศกาลปีใหม่ของผู้บริโภคในปี 65 นี้ คาดว่าจะมีการใช้จ่ายต่อคนในกิจกรรมต่างๆอยู่ที่ 5,400 บาท ซื้อสินค้าคงทนตั้งแต่ 10,000 บาท และท่องเที่ยวในต่างประเทศกว่า 21,500 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขการใช้จ่ายใกล้เคียงกับเทศกาลปีใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เม็ดเงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้จะอยู่ที่ 85,796,49 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 6.2 ต่ำสุดในรอบ 12 ปีนับจากปี 54


“หากไม่เกิดการแพ่รเชื้อโอไมครอน เงินน่าจะสะพัดไม่ต่ำกว่า 120,000-140,000 ล้านบาท แต่เมื่อโอไมครอนเข้ามาทำให้เงินสะพัดช่วงปีใหม่นี้อยู่ที่ 85,796,49  ล้านบาทเท่านั้น ดังนั่น ถือว่าโอไมครอนทำให้ระบบงินสะพัดปีใหม่นี้หายไปเกือบ 50,000 ล้านบาท”นายธนวรรธน์ กล่าว

นอกจากนี้ สิ่งที่ประชาชนมีความกังวลและอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขในช่วงปี 65 คือ ปัญหาเศรษฐกิจไทยในปีหน้าให้ดีขึ้น เร่งแก้ไขปัญหาค่าครองชีพผ่านโครงการของรัฐให้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง โครงการช้อปดีมีคืน และโครงการใหม่ๆเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาการติดเชื้อโควิดของคนในประเทศให้น้อยลง โดยให้มีวัคซีนชนิดที่ดีและมีคุณภาพให้เพียงพอ และการทำให้การเมืองไทยให้ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมาเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%