กรุงเทพฯ 9 พ.ย.-PIN เข้าเทรดวันแรก เปิด 4.00 บาท +2.56% ชูศักยภาพทำเลทองพื้นที่เศรษฐกิจ EEC ตั้งเป้ารายได้โตต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 60%
บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค (PIN) นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกในวันนี้ โดยใช้ชื่อย่อ ‘PIN’ ในการซื้อขายหลักทรัพย์ เปิดตลาดที่ราคา 4.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 2.56% จากราคาจองซื้อ ที่ 3.90 บาท จำนวนหุ้นไอพีโอ 290 ล้านหุ้นที่ราคาพาร์ 1 บาท
โดย นายพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) เชื่อมั่นว่า บริษัทฯ มีศักยภาพการดำเนินงานที่มีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมานานกว่า 25 ปี ในการเป็นผู้พัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco Industrial Town) ภายใต้มาตรฐาน ISO14001 และรางวัล Eco-Excellence ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและระยอง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการนิคมอุตสาหกรรม และ Logistics Park รวมทั้งหมด 7 แห่ง พื้นที่รวมกันกว่า 7,500 ไร่ อยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ใกล้ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุด และอยู่บนถนนสายหลักเชื่อมต่อสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินอู่ตะเภา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน รองรับนโยบายภาครัฐที่ต้องการดึงเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve โดย PIN เตรียมเปิดขายพื้นที่พัฒนาแล้วในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง6 ในจังหวัดระยองภายในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยล่าสุดมีการตกลงทำสัญญาซื้อขาย แล้วกว่า 3 แปลง พื้นที่ 60 ไร่มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังเดินหน้าพัฒนาโครงการ Logistics Park แห่งใหม่ ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง โดยพัฒนาที่ดินให้เช่าในระยะยาวและสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า พื้นที่อาคารรวมประมาณ 100,000 ตารางเมตร โดยแบ่งเป็นสองเฟส คาดแล้วเสร็จเฟสแรกภายในปี 2565 ทำให้ผลักดันรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้นและเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) จากรายได้ค่าเช่าอาคารโรงงานและคลังสินค้า รวมถึงค่าบริการจากการให้บริการพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มขึ้น เพื่อสนับสนุนความมั่นคงด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยตั้งเป้ารายได้รวมบริษัทฯ โตต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
สำหรับสัดส่วนการนำเงิน 1,100 ล้านบาทที่ได้จากการระดมเงินทุนในครั้งนี้ ไปใช้ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ลงทุนในโครงการ logistics park ที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง ประมาณร้อยละ 70 ส่วนที่ 2 คือการคืนเงินกู้จากสถาบันการเงินประมาณร้อยละ 10-15 และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นทุนหมุนเวียนภายในบริษัทฯ
ขณะที่บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่นๆ ของบริษัทฯ จึงมั่นใจว่า PIN เป็นหุ้นของกิจการที่อยู่ในช่วงเติบโต หรือ Growth Stock ที่น่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน .-สำนักข่าวไทย