อากาศหนาวต่อเนื่องถึง 20 ม.ค. ฤดูร้อนนี้ร้อนน้อยกว่าปีที่แล้ว

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุช่วงอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทยผ่านพ้นไปแล้ว แต่จะยังคงเย็นต่อเนื่องถึงวันที่ 20 ม.ค. จากนั้นจะค่อยๆ อุ่นขึ้น แล้วเข้าสู่ฤดูร้อนกลางเดือน ก.พ. โดยฤดูร้อนปีนี้จะไม่ร้อนเท่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในสภาวะลานีญากำลังอ่อน ทำให้มีความชื้น และจะมีฝนตกลงมาคลายความร้อนเป็นระยะ ๆ


นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า มวลอากาศเย็นกำลังแรงที่แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง โดยช่วงที่หนาวเย็นที่สุดผ่านพ้นไปแล้ว วันที่อากาศหนาวเย็นที่สุดคือ เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.68) ระยะ 2 – 3 วันที่ผ่านมา ซึ่งอากาศหนาวเย็น โดยหนาวถึงหนาวจัดบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เป็นสภาพอากาศที่หนาวที่สุดในรอบ 2 – 5 ปี

ในช่วงวันที่ 16 – 20 มกราคม 2568 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ จะทำให้อุณหภูมิลดลงอีกครั้งกับมีลมแรง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนจะได้สัมผัสกับความหนาวเย็นต่อเนื่อง แต่จะไม่หนาวถึงหนาวจัดเหมือนกับช่วงวันที่ 12 – 13 มกราคม ส่วนภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก อากาศจะเย็นในตอนเช้า จนถึงประมาณวันที่ 20 มกราคม จากนั้นจะค่อยๆ อุ่นขึ้น แล้วเข้าสู่ฤดูร้อนกลางเดือนกุมภาพันธ์ตามปกติ


ปัจจุบันปรากฏการณ์เอนโซอยู่ในสภาวะลานีญากำลังอ่อน โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่เข้าสู่ฤดูร้อนจะยังคงเป็นลานีญาและเข้าสู่สภาวะเป็นกลางประมาณกลางเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน คาดว่าฤดูร้อนปีนี้อุณหภูมิจะไม่สูงเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยฤดูร้อนปี 2567 อยู่ในสภาวะเอลนีโญ ทำให้ปีนี้มีความชื้นมากกว่า

ในเดือนมีนาคมและเมษายนปีนี้ซึ่งปกติเป็นช่วงที่ร้อนที่สุด อาจมีวันที่ร้อนถึงร้อนจัด บางพื้นที่ที่อุณหภูมิจะสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส แต่คาดว่าจะไม่ร้อนต่อเนื่องหลายวันและอาจมีฝนตกลงมาคลายความร้อนได้บ้าง ดังนั้นจึงถือว่าในปี 2568 เป็นปีที่ฝนมาเร็ว คาดว่าจะเข้าสู่ฤดูฝนประมาณกลางเดือนพฤษภาคมตามปกติและการกระจายตัวของฝนในต้นฤดูจะกระจายได้ดี แต่การประเมินฝนตลอดฤดูว่า จะฝนมากหรือน้อยนั้น ต้องติดตามในช่วงใกล้ฤดูฝนอีกครั้งเนื่องจากปรากฏการณ์เอนโซจะประเมินทุก 3 เดือน

นายสมควร กล่าวว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้ (15 ม.ค.) ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยต้องเตรียมรับสถานการณ์ฝนเนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น จึงทำให้ภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง โดยภาคใต้ตอนล่างต้องระวังฝนตกหนักบางแห่ง


นอกจากนี้ยังต้องระวังคลื่นลมที่มีกำลังแรงขึ้นทั้งบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายฝั่งต้องระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งตั้งแต่วันที่ 16 – 18 มกราคมนี้.-512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้มีฝนลดลง ภาคเหนืออากาศร้อนจัด ด้านกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 30%

หมายจับแก๊งไทใหญ่

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติ

ออกหมายจับ 2 คนร้ายแก๊งไทใหญ่ 999 ยกพวกบุกใช้มีดไล่ฟันเพื่อนร่วมชาติย่านประชาสงเคราะห์ เร่งตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

การประชุมเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่เริ่มแล้ว

การประชุมลับเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ ที่จะเป็นพระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่นครรัฐวาติกัน ได้เริ่มขึ้นต้นแล้วในวันนี้

ระอุอีกครั้ง KNLA ร่วม KNDO โจมตีทหารเมียนมา

ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านตรงข้าม จ.ตาก กลับมาระอุอีกครั้ง กองกำลัง KNLA ร่วมกองกำลัง KNDO โจมตีทหารเมียนมา ฐานเรปะนาดิ ผู้อพยพทะลักข้ามฝั่งเข้าไทยกว่า 100 คน