กรุงเทพฯ 3ก.ย.-สมาคมธนาคารไทยแจงมิจฉาชีพไซเบอร์สวมรอยทำธุรกรรมร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ ย้ำหากพบเห็นหรือถูกสวมรอยทำธุรกรรม ให้แจ้งธนาคารผู้ออกบัตรได้ทันที พร้อมแนะ 10 แนวทางทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัย
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เผยถึงกรณีมิจฉาชีพทางไซเบอร์ ที่มีลักษณะตัดเงินผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้า ว่า ปกติวิธีการซื้อของออนไลน์ของโลกที่เป็นธุรกรรมเล็กๆนั้น ไม่มีความจำเป็นต้องใช้รหัสเลข 3 หลักหลังบัตร หรือรหัส OTP ก็เลยเป็นที่มาที่ว่า เมื่อมิจฉาชีพได้ตัวเลขหน้าบัตร หรือข้อมูลที่อยู่หน้าบัตร ซึ่งประกอบด้วยเลข 12 หลัก ชื่อเจ้าของบัตร และวันหมดอายุ ก็จะข้อมูลบัตรไปสุ่มและสวมรอยทำธุรกรรมผ่านร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศที่ไม่มีระบบยืนยันตัวตน จึงทำให้เกิดปัญหาลักษณะเช่นนี้จำนวนมากในช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งหากพบเห็นหรือถูกสวมรอยทำธุรกรรมสามารถแจ้งไปยังธนาคารผู้ออกบัตรได้ทันที เพื่อทำการคืนเงินให้กับเจ้าของบัตร จากนั้นธนาคารจะไปดำเนินการกับร้านค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้าต่างประเทศ
โดยที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับสมาคมธนาคารไทยและธนาคารแห่งประเทศไทย และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานระบบการชำระเงิน ชมรมธุรกิจบัตรเครดิต และชมรมตรวจสอบและป้องกันการทุจริต เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหา และวางมาตรการป้องกันปัญหาเชิงรุก พร้อมยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้สูงขึ้น โดยเฉพาะธุรกรรมบัตรเดบิตสำหรับร้านค้าออนไลน์ในต่างประเทศ พร้อมกันนี้สมาคมธนาคารไทย ได้ออกสื่อประชาสัมพันธ์ แนะ 10 แนวทางทำธุรกรรมออนไลน์อย่างปลอดภัย ประกอบด้วย 1.ทำธุรกรรมการเงินออนไลน์กับร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ 2.หลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมการเงินหรือไม่ผูกข้อมูลบัตรเครดิตกับร้านค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มที่ไม่มีระบบการยืนยันตัวตนด้วย OTP หรือที่ไม่ใช้เทคโนโลยี 3D Secure 3.ไม่ส่งต่อ OTP ให้กับบุคคลอื่น 4.ตั้งรหัสผ่านที่ยากต่อการคาดเดาในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ 5.ไม่ใช้รหัสผ่านร่วมกันในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ และร้านค้าออนไลน์ 6.ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน 7.ปรับวงเงินชำระสินค้าให้เหมาะสมกับการทำธุรกรรมการเงินในโลกออนไลน์ 8.สังเกตการแจ้งเตือนบัญชี เงินเข้า-เงินออก จากธนาคาร และการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตอย่างสม่ำเสมอ 9.หากพบรายการบัญชีผิดปกติควรติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรทันที 10.ติดตามข่าวสารจาก TB-CERT และช่องทางที่เป็นทางการของธนาคารเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้ามากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย