กระทรวงการคลัง 29 ต.ค.-รมว.คลัง หนุนออมเงินระยะยาว เนื่องในวันออมแห่งชาติ ประจำปี 2564 ย้ำวินัยการออมถือเป็นวาระแห่งชาติ รองรับวิกฤติเหตุฉุกเฉิน บอร์ด กอช. เห็นชอบดึงแรงานงาน ม.40 สมัครสมาชิก กอช. ขยายเวลาเป็นสมาชิก กอช. อายุ 65 ปี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เนื่องในวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปี ถือเป็น “วันออมแห่งชาติ” การสร้างเสริมวินัยการออมให้กับประชาชน ถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงผลักดันให้ เป็นวาระแห่งชาติ และเป็นภารกิจหลักของ กอช. คือการส่งเสริม และสร้างวินัยการออมให้กับประชาชนทุกคน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ เข้าสู่การออมเงินเพื่อการชราภาพ
จากแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ( 2561– 2580) มุ่งส่งเสริมการออมและการลงทุนระยะยาวของประชาชน เพื่อสร้างหลักประกันและความมั่นคงในการดำรงชีวิตยามชราภาพ ให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเมื่อเผชิญกับปัญหาโควิด-19 พบว่าหลายคนมีเงินใช้ในยามฉุกเฉินน้อยมากไม่ถึง 1 เดือนหรือแทนไม่มีใช้จ่าย เพราะไม่ได้ออมเงินเอาไว้ใช้ ปกติหากเกิดเหตุฉุกเฉินควรมีเงินรองรับใช้ในครอบครัว 6 เดือน หากมีการออมเงินระยะยาว กองทุน กอช. จึงเป็นช่องทางการออมขั้นพื้นฐาน เพื่อออมเงินเอาไว้ให้มีบำนาญใช้ในยามเกษียณเหมือนข้าราชการ และแรงงานในระบบ กอช. มีความคุ้มครองผลตอบแทนการลงทุนไม่ต่ำกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ และเงินออมสะสมนำไปลดหย่อนภาษีเต็มจำนวน
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.45 ล้านคน ส่วนใหญ่เกือบครึ่งเป็นเกษตรกร และอีกเกือบครึ่งประกอบอาชีพค้าขาย รับจ้างทั่วไป ประกอบอาชีพอิสระ โดยมีอีกส่วนหนึ่งเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา และอีกส่วนหนึ่งเป็นลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน จึงต้องการส่งเสริมให้เข้ามาสมัครสมาชิก กอช.เพิ่มเติม
นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า บอร์ด กอช. เห็นชอบ แก้ไข พ.ร.บ. กองทุนการออมแห่งชาติ เปิดให้ แรงานตาม ม.40 กลุ่มอาชีพอิสระ สมัครเข้าเป็นสมาชิก กอช. เพื่อส่งเสริมเงินออมในระยะยาว และยังขยายเวลาการเป็นสมาชิก กอช.ถึง 65 ปี ในปี 2564 กอช. ได้ปรับแผนรองรับปัญหา COVID-19 มุ่งส่งเสริมการให้ความรู้ การวางแผนทางการเงินในรูปแบบออนไลน์ ให้กับสมาชิก กลุ่มภาคีเครือข่าย ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน
เลขาธิการ กอช. เพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กอช. เปิดให้สมาชิกออมเงินได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี ถึง อายุ 60 ปี ส่งเงินออมสะสมตั้งแต่ 50 บาท สูงสุด 13,200 บาทต่อปี รัฐ จ่ายเงินสมทบให้ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปตามช่วงอายุของสมาชิก พร้อมรับสิทธิประโยชน์ 3 ต่อในการเป็นสมาชิก ดังนี้
ต่อที่ 1 รับเงินสมทบเพิ่มจากรัฐ ตามช่วงอายุของสมาชิก
• ช่วงอายุ 15 – 30 ปี รัฐสมทบให้ 50% ของเงินออมแต่ละครั้ง
โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 600 บาท
• ช่วงอายุ >30 – 50 ปี รัฐสมทบให้ 80% ของเงินออมแต่ละครั้ง
โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 960 บาท
• ช่วงอายุ >50 – 60 ปี รัฐสมทบให้ 100% ของเงินออมแต่ละครั้ง
โดยรวมกันทั้งปีไม่เกิน 1,200 บาท
ต่อที่ 2 รัฐบาลคุ้มครองผลตอบแทนเงินออมสะสม เมื่อสมาชิกออมครบอายุ 60 ปี
ต่อที่ 3 ลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวนเงินออมสะสม
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครสมาชิกและส่งเงินออมสะสม กอช. ได้ใกล้บ้าน โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียว ในการตรวจสอบสิทธิก่อนการสมัครได้ที่แอปพลิเคชัน “กอช” หรือที่เว็บไซต์ กอช. (www.nsf.or.th) หรือธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ทุกสาขา ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ สำนักงานคลังจังหวัด ตัวแทน กอช. ประจำหมู่บ้าน สถาบันการเงินชุมชน 127 แห่ง ไปรษณีย์ไทย เคาน์เตอร์เซอร์วิส เทสโก้โลตัส บิ๊กซี ตู้บุญเติม แกร็บ และเครือข่ายรับสมัครทั่วประเทศ .-สำนักข่าวไทย