รฟม. ชี้แจงคดีคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีส้ม

กรุงเทพฯ 17 ก.ย.- รฟม. ชี้แจงข้อเท็จจริงทางคดี เกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ยืนยันในส่วนคดีอาญาศาลยังไม่ประทับรับฟ้อง และ รฟม. จะเดินหน้าประกวดราคารอบใหม่ ต่อไป


นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า สำหรับข้อเท็จจริงทางคดีเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ว่า กรณีเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดพร้อมเพื่อกำหนดพยานและกำหนดประเด็นในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งโจทก์และจำเลยไม่ได้เดินทางไปศาล โดยโจทก์มอบหมายผู้รับมอบอำนาจและทนายความ ส่วนจำเลยมอบหมายให้พนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยเช่นเดียวกัน ซึ่งในกระบวนการพิจารณา ศาลเห็นว่า เนื่องจากคู่ความยังไม่ได้รับเอกสารที่ใช้ในการไต่สวนครบถ้วน ศาลจึงเห็นควรเลื่อนนัดพร้อม เพื่อกำหนดพยานและกำหนดประเด็นในการไต่สวนมูลฟ้องออกไปเป็นวันที่ 25 ต.ค.64 เวลา 13.00 น.

ส่วนประเด็นเรื่องข้อเท็จจริงทางคดีเกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ตามที่ รฟม.ได้เคยชี้แจงไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย.64 ยังคงยืนยันข้อเท็จจริงเดิมว่า ปัจจุบันมีการฟ้องคดีรวมจำนวน 3 คดี แบ่งเป็นคดีที่อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองกลาง จำนวน 2 คดี ได้แก่ คดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 และคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 และเป็นคดีที่อยู่ในระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จำนวน 1 คดี ซึ่งคดีนี้ศาลเพียงแต่รับคำฟ้องของโจทก์ไว้ไต่สวนมูลฟ้องเท่านั้น แต่ยังมิได้มีการรับฟ้องคดีดังกล่าวไว้พิจารณาแต่อย่างใด


ส่วนคดีหมายเลขดำที่ 2280/2563 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่จำหน่ายคดีในข้อหาที่ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์ร่วมลงทุนที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการเพิกถอนหลักเกณฑ์อยู่ในการพิจารณาของศาลปกครองอีกต่อไป คงเหลือแต่ข้อหาที่ผู้ฟ้องคดีขอให้ รฟม. และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 ชดใช้ค่าเสียหายในมูลละเมิดจำนวน 500,000 บาท เท่านั้น ส่วนคดีหมายเลขดำที่ 580/2564 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่รับคำฟ้องข้อหาเกี่ยวกับการการกระทำละเมิด และคำขอห้ามมิให้คณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ รฟม. กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกเอกชนในโครงการพิพาทครั้งใหม่ ไว้พิจารณา โดยให้เหตุผลว่า การดำเนินการคัดเลือกเอกชนเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 และ รฟม. ตามกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่มีประเด็นพิพาทเกี่ยวกับการดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในครั้งใหม่อีกต่อไป ดังนั้น รฟม. ขอยืนยันว่า การดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) เป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการที่กฎหมาย รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนกำหนดอย่างครบถ้วนแล้ว

“ในส่วนคดีอาญาฯนั้น ขณะนี้อยู่ในชั้นไต่สวน ศาลยังไม่ประทับรับฟ้อง ซึ่งต้องรอฟังคำสั่งหลังจากนี้ ส่วนคดีทางปกครองยังเหลือ เรื่องที่เอกชนฟ้องละเมิดชดใช้ค่าเสียหาย 5 แสนบาท และเรื่องขอให้เพิกถอนการยกเลิกการคัดเลือกเอกชนครั้งแรก ส่วนประเด็นที่ห้ามไม่ให้รฟม.ประมูลคัดเลือกเอกชนรอบใหม่นั้น ศาลลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องในเรื่องนี้ รฟม. จึงดำเนินการคัดเลือกเอกชนใหม่ต่อไป “ผู้ว่า รฟม.กล่าว

สำหรับความคืบหน้า ในการประกวดราคา รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้น นายภคพงศ์ กล่าวว่า เบื้องต้น มีกำหนดนัดหมายประชุมคณะกรรมการมาตรา 36 ในสัปดาห์หน้า โดยอยู่ระหว่างรอกรรมการมาตรา 36 ตอบยืนยัน เพื่อกำหนดวันประชุมที่ชัดเจนต่อไป ซึ่งขณะนี้ตามแผนงานที่ รฟม.กำหนดไว้ คือ จะนำเสนอร่าง RFP ให้คณะกรรมการฯ พิจารณาอนุมัติ และประกาศขายเอกสาร RFP ในเดือน ต.ค.64 จากนั้นจะเปิดให้เอกยื่นข้อเสนอในเดือน ธ.ค.64 และประเมินข้อเสนอช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.65 คาดว่าเจรจาต่อรองได้ข้อยุติในเดือน มี.ค.65 จากนั้นจะเสนอผลการคัดเลือกต่อคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป


นายภคพงศ์ กล่าวด้วยว่า ในการประมูลคัดเลือกครั้งแรก มีเอกชน 2 ราย ยื่นข้อเสนอ การร่วมลงทุนฯ จำนวน 2 รายคือ 1. บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) 2. กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ เมื่อ รฟม.ประกาศยกเลิกการประมูลครั้งแรก ทาง BEM ได้มารับซองเอกสารข้อเสนอและค่าธรรมเนียมซื้อซองคืนแล้ว ส่วนกลุ่มกิจการร่วมค้าฯ นั้น ปรากฏว่า มีบริษัท 1 ในกลุ่มฯ มารับคืนค่าธรรมเนียมการขายเอกสารคัดเลือกไปแล้ว จึงถือว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าฯ ถูกถอดจากทะเบียนในการยื่นข้อเสนอทำให้กลุ่มกิจการร่วมค้าฯ สิ้นสุดการเป็นผู้ยื่นข้อเสนอในการร่วมลงทุนดังกล่าว และสิ้นผลผูกพันในกระบวนการคัดเลือกดังกล่าวด้วย แม้สมาชิกอื่นที่เหลือจะไม่ได้มารับเอกสารคืนก็ตาม และถือว่าในการประมูลครั้งแรกไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอเหลืออยู่ในกระบวนการคัดเลือก

ส่วนการเปิดคัดเลือกรอบใหม่ เอกชนที่เข้าซื้อซองจะได้สิทธิยื่นข้อเสนอตามปกติ และกระบวนการที่กฎหมาย รวมถึงมติคณะรัฐมนตรี และมติคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน ครบทุกประการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจตั้งด่าน เจ็บ 6 นาย

คนร้ายวางระเบิดตำรวจขณะตั้งด่าน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี บาดเจ็บ 6 นาย เด็ก 3 ขวบ เจ็บ 1 ราย เชื่อสร้างสถานการณ์ ก่อนครบรอบ 21 ปี ไฟใต้