กรมทางหลวง เสริมศักยภาพโลจิสติกส์ภาคอีสาน

กรุงเทพฯ 13 ก.ย.-กรมทางหลวง ขยาย 4 ช่องจราจร  ทล.202 ตอน บ.เมืองเตา – อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด แล้วเสร็จ เสริมศักยภาพด้านคมนาคมขนส่งโลจิสติกส์ภาคอีสาน 

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวง โดย สำนักก่อสร้างทางที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 202  สาย อ.พยัคฆภูมิพิสัย – อ. เกษตรวิสัย ตอน บ.เมืองเตา – อ. เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ระยะทาง 15.6 กิโลเมตร แล้วเสร็จ ตามนโยบายด้านการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกระทรวงคมนาคม เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ


สำหรับทางหลวงหมายเลข 202 เป็นทางหลวงสายสำคัญในการเดินทางของภาคอิสาน  ทางหลวงสายนี้มีจุดเริ่มต้นที่ แยกทางหลวงหมายเลข 201 บริเวณสี่แยกโรงต้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ผ่านพื้นที่ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.มหาสารคาม จ.ร้อยเอ็ด จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ สิ้นสุดที่ อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี  ระยะทางรวมทั้งหมด 387 กิโลเมตร  โดยอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง 380 กิโลเมตร  ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ก่อสร้างขยายเป็น 4 ช่องจราจรแล้วเสร็จ 148 กิโลเมตร 

 เนื่องด้วยมีผู้ใช้เส้นทางสายนี้เป็นจำนวนมากและมีปริมาณการจราจรที่หนาแน่นเพิ่มขึ้นทุกๆปี ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัดเนื่องจากมีขนาด 2 ช่องจราจร กรมทางหลวงเล็งเห็นความสำคัญจึงได้ปรับปรุงขยายทางหลวงสายดังกล่าวในส่วนที่เหลือ โดยขณะนี้มีส่วนที่อยู่ในขั้นตอนการออกแบบรายละเอียดและเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นระยะทาง 81 กิโลเมตร  และอยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างอีกระยะทาง 135.4 กิโลเมตร  และปัจจุบันได้ก่อสร้างแล้วเสร็จบางส่วนในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ระยะทาง 15.6 กิโลเมตร  ระหว่าง กม.162+000 – กม.164+024 , กม.165+411 – กม.167+300 และ กม.172+000 – กม.183+772  โดยก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร (ไป-กลับ)ผิวทางและไหล่ทางเป็นแอสฟัลต์คอนกรีต ผิวจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านในกว้าง 1.50 เมตร ส่วนไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร พร้อมปรับปรุงเกาะกลาง มีการก่อสร้างสะพานเพื่อให้รถขนาดเล็กสามารถลอดกลับใต้สะพานได้ จำนวน 2 แห่ง และก่อสร้างสะพานข้ามคลอง จำนวน 5 แห่ง พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง งบประมาณ 796,296,000 บาท


เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะเชื่อมโยงระบบโลจิสติกส์ระหว่างจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดอำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งให้มีความสะดวกรวดเร็วและความปลอดภัย สามารถรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต  ช่วยลดอุบัติเหตุในการเดินทางบนถนน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่และพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล