นกแอร์เตรียมปรับ “พรีเมียม แอร์ไลน์”

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- ผู้บริหารนกแอร์ ระบุเตรียมปรับจากโลว์คอสต์แอร์ไลน์ เป็นพรีเมียมแอร์ไลน์ช่วงสิ้นปีนี้ พร้อมยืนยันหากเปิดให้บริการแล้ว จะไม่มีการหยุดบินอย่างแน่นอน ส่วนความคืบหน้าแผนฟื้นฟูล่าสุด ผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหนี้แล้ว

นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์เปิดเผยถึงความคืบหน้าแผนฟื้นฟูสายการบินว่า กระบวนการฟื้นฟูกิจการ เพื่อให้สายการบินสามารถกลับมาใช้บริการได้อย่างมั่นคง โดยสายการบินได้ยื่นต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และมีการประชุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีมติยอมรับแผนฟื้นฟูกิจการ ของเจ้าหนี้รวมกันร้อยละ 70 ของจำนวนหนี้ทั้งหมด จำนวนเงิน 5,153 ล้านบาท และในวันที่ 26 สิงหาคมนี้จะมีการนัดพิจารณาอีกครั้ง โดยเนื้อหาในแผนฟื้นฟูจะมีการขอวงเงินฉุกเฉิน เนื่องจากสายการบินมีปัญหาเกี่ยวกับสภาพคล่อง ต่อผู้ถือหุ้นและสถาบันการเงิน รวมถึงนักลงทุน คือจะมีการเพิ่มทุน 5 พันล้านบาท เป็นระยะรวมแล้วภายใน 5 ปี


มีการนำเข้าเครื่องบิน ปีละ 2 ลำ เป็นเครื่อง Boeing 737-800 หรือเทียบเท่า และมีการทำการบินเพื่อสนับสนุนเมืองรอง โดยเฉพาะเบตง รวมถึงสนามบินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยเครื่องบิน Q400 ที่มีความปลอดภัยสูงและมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ล่าสุดได้ยื่นขอกับกพท. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาแล้ว คาดว่าจะสามารถนำเข้าภายในปีนี้

ส่วนการทำการบินในขณะนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยออกมาตรการุห้ามสายการบินรับส่งผู้โดยสารในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมจนถึงวันนี้ ทำให้ซึ่งทำให้สายการบินไม่สามารถทำการบินเข้าออกท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งคาดว่ามาตรการนี้จะสิ้นสุดถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ทำให้สายการบินนกแอร์ต้องไปตั้งฐานการบินที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาแทน เนื่องจากมองว่ายังมีผู้โดยสารที่จำเป็นจะต้องเดินทางอยู่ และตัวท่าอากาศยานไม่ไกลกรุงเทพฯมาก จึงสะดวกในการเดินทางมากกว่าสนามบินอื่น


ขณะที่สิ้นปีนี้ นกแอร์มีแผนที่จะปรับโฉมสายการบินใหม่ จากสายการบินโลว์คอสเป็นสายการบินพรีเมี่ยม โดยใช้จุดแข็งด้านบริการ รวมถึคงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทมี่จะออกมา เพื่อตอบสนองความต้องการผู้โดยสาร เช่น บริการต่อรถ ต่อเรือไปยังสถานที่ต่างๆ ส่วนกรณีที่ระบุว่า ตั๋วโดยสารของนกแอร์ มีราคาแพงนั้น ยอมรับว่า ขณะนี้มีราคาสูงขึ้นจริง จากแผนการบินแห่งใหม่ที่อู่ตะเภา ทำให้ต้องเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ จากสนามบินดอนเมืองและต่างจังหวัด ใช้บุคลากรทั้งส่วนหน้าส่วนหลังต่อวันมากถึง 200 คน เพื่อให้ทำการบินที่สนามบินอู่ตะเภาได้

นอกจากนี้ยังมีมาตรการต่างๆ โดยเฉพาะมาตรการเว้นระยะห่างที่ทำให้ทำให้อัตราการบรรทุกผู้โดยสารเที่ยวบินหรือลงเพียงแค่ร้อยละ 50 ตามข้อกำหนดของ กพท. ซึ่งสายการบินเตรียมขออนุญาตให้บบรทุกผู้โดยสารเพิ่มได้เป็นร้อยละ 70 เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารเพียง 30 คนต่อเที่ยวเท่านั้น รวมถึงให้พิจารณาการเปิดให้บริการที่สนามบินดอนเมืองด้วย

“การไปตั้งฐานการบินที่อู่ตะเภา รายได้ไม่สร้างผลกำไร 30 คนต่อ 1 เที่ยวบินจะไม่ขาดทุนได้อย่างไร ทำเพราะเป็นหน้าที่เป็นสายการบินคนไทย ต้องรับใช้ประชาชนในยามลำบาก ไม่ใช่บินแล้วไม่คุ้ม ไม่บิน ไม่ใช่นกแอร์” นายวุฒิภูมิ


โดยขณะนี้ นกแอร์มีการเพิ่มเส้นทางเชื่อมภาคเหนือกลางอีสานใต้ให้ง่ายต่อการเดินทางมากที่สุด ซึ่งขณะนี้มีเส้นทางที่เปิดให้บริการเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภามีจังหวัดเชียงใหม่เชียงราย อุดรธานี อุบลราชธานี สกลนครสุ ราษฎร์ธานี ภูเก็ตนครศรีธรรมราช และจังหวัดตรัง สำหรับความมั่นคงของบริษัท ความเสี่ยงปิดกิจการ หน่วยงานที่กำกับดูแล คงมองเรื่องพฤติกรรม ยืนยันว่า นกแอร์มีความพร้อม ไม่เคยมีการควบรวมไฟล์ต ให้ดูพฤติกรรมย้อนหลัง การทิ้งผู้โดยสาร ซื้อตั๋วแล้วมั่นใจได้ ขณะเดียวกันนกแอร์ยังมีกระแสเงินสดเพียงพอ มีเงินกู้ฉุกเฉิน และทุนบริษัทค่อนข้างแข็งแรง มีการเตรียมกระแสเงินสดอยู่ได้เกิน 6 เดือน

ด้านนายไต้ ชอง อี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินนกแอร์ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายของสายการบินสายการบินมีขึ้นอยู่กับว่ามีการทำการบินหรือไม่ ถ้าไม่มีก่ารทำการบิน อยู่ที่ประมาณ 30 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างเช่น ค่าน้ำมันร้อยละ 30 ของค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน สำหรับเรื่องสงครามราคา นายวุฒิภูมิมองว่า ยังมีอยู่ แต่ขณะนี้ถือว่าแต่ละสายการบินค่อนข้างบาดเจ็บอยู่จากโควิด-19 แต่ละสายเอาเครื่องบินออกจากฝูงมากกว่าร้อยละ 50 แต่นกแอร์ยังมี 22 ลำเหมือนเดิม และจะเอามาใหม่ 6 ลำ มองถึงคู่แข่ง สงครามราคาเชื่อว่า ภาครัฐจะเข้ามาดูอย่างแน่นอน เพราะอาจจะมีการทุ่มราคาตลาด อาจมีการผูกขาด บางสายอาจได้เปรียบที่ได้บินเจ้าเดียวในบางเส้นทาง

ส่วนสายการบินจะมีการปรับลดหรือเพิ่มพนักงานภายใต้แผนฟื้นฟูหรือไม่นั้น ก่อนสถานการณ์โควิดมีพนักงานประมาณ 1,500 คนแต่มีบางส่วนที่ลาออก และมีการปรับลดนักบิน หากเทียบกับสายอื่นถือว่าน้อยมาก ตอนนี้เหลือ 1,411 คน พร้อมยืนยันว่า การลดพนักงานไม่ได้เป็นการเชิญออก แต่เป็นการขออาสา Golden hand check ในบางหน่วย เพราะจำนวนไม่สอดคล้องกับจำนวนเครื่อง อาจจะรับเพิ่มในส่วนของพาณิชย์ ไอที นโยบายจนถึงสิ้นปีงดทำงาน 3-15 วัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

มติสภาฯ 313:142 หนุนเดินหน้าโหวตนายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.-มติสภาฯ 313 : 142 เสียง เลื่อนวาระโหวตนายกฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อนเป็นอันดับแรก ในการประชุมสภาฯ ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ช่วงในการพิจารณาญัตติขอเลื่อนเรื่องด่วนที่ 8 พิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายยกฯ ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญ ที่ใช้เวลาอภิปรายแสดงความเห็นนานกว่า 1 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานในความเห็นของฝั่งที่คัดค้านไม่ให้เลื่อนวาระพิจารณา ได้ย้ำถึงประเด็นความไม่ชอบตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดหลักการตรวจสอบถ่วงดุล ระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายค้าน ตามที่ข้อตกลง (MOA) ระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน มีข้อความต่อการสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ บริหาร4 เดือน เพื่อทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนยุบสภา ซึ่งตอนหนึ่งในการอภิปรายของ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ระบุว่า การให้ความเห็นชอบนายกฯ ตามมาตรา 159 ระบุว่าต้องทำโดยเปิดเผย และต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสส.ทั้งสภาฯ ตีความเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ว่าต้องการให้มีรัฐบาลเสียงข้างมาก กรณีที่มีข่าวซึ่งตนไม่สบายใจต่อระบบพิศดารในการเมือง ไม่มีเห็นพรรคการเมืองรวมตัวเลือกนายกฯและแสดงตัวไม่ร่วมรัฐบาล “ผมถามว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ผมและประธานสภาฯ ตีความไม่ได้ แต่สงสัยระแวงได้ ผมขอให้ทุกพรรคที่ประสงค์จัดตั้งรัฐบาลให้เข้าร่วมรัฐบาลทุกพรรค หากไม่ร่วมแต่จะเป็นฝ่ายค้านนั้นขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน […]

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สดุดีทหารกล้าในเหตุการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา

กองทัพไทย 5 ก.ย.-ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สดุดีทหารกล้าในเหตุการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา สะท้อนจิตวิญญาณนักรบที่ยิ่งใหญ่ก้าวข้ามยศตำแหน่ง เพื่อทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทย พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ประธานพิธีวางพวงมาลาสดุดีทหารกล้า บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเชิดชูเกียรติและตอบแทนความเสียสละของกำลังพล 15 นายที่พลีชีพเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินและอธิปไตยของชาติ พร้อมทั้งร่วมไว้อาลัยต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ 14 คน จากเหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชาระหว่างวันที่ 24–28 กรกฎาคม 2568 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและเครือข่ายมวลชน ร่วมในพิธี กว่า 4,440 คน รวมทั้งผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส นายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย และนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักข่าว สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ระบุถึงการจัดพิธีสดุดีทหารกล้าและไว้อาลัยประชาชนที่สูญเสียจากเหตุการณ์ปะทะไทย-กัมพูชาในครั้งนี้ ว่า เป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วน และสิ่งสำคัญคือการได้เห็นถึงคุณค่าของนักรบตัวเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมาจากทุกภูมิภาคของประเทศ บางคนมาจากหมู่บ้านเล็กๆ และบางคนมาจากครอบครัวที่ยากจน เมื่อวันหนึ่งมีภัยคุกคามก็ได้เข้ามาร่วมกันจับอาวุธเพื่อปกป้องแผ่นดิน ถือเป็นคุณค่าสูงสุดที่ก้าวข้ามยศและตำแหน่ง สะท้อนจิตวิญญาณของนักรบ จึงต้องร่วมกันแสดงให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่แผ่นดินไทยให้เกียรติทหารเหล่านี้และวันนี้ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็ได้ทำหน้าที่นั้นแล้ว ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุถึงความสูญเสียในส่วนของพลเรือนว่า เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึง และจะต้องช่วยกัน […]

เครื่องบิน “ทักษิณ” ออกนอกเส้นทางไปไหน ?

4 ก.ย. – ไปไหน? เครื่องบินส่วนตัว “ทักษิณ” เลี้ยวออกนอกเส้นทาง หลังบินออกจากดอนเมือง ระบุปลายทางสิงคโปร์ พบบินวนอยู่ 2 รอบ ก่อนไปต่อ จับตามุ่งหน้า “ดูไบ” ตามที่มีกระแสข่าวหรือไม่. – สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” บินสิงคโปร์แล้ว ทนายยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น14

4 ก.ย.- “ทักษิณ” นั่งเจ็ทส่วนตัวบินสิงคโปร์แล้ว ตม.ไม่มีอำนาจกักตัว หลังศาลยกฟ้องคดี ม.112 ขณะที่ “ทนายวิญญัติ” ยัน 9 ก.ย. มาศาลฟังคดีชั้น 14 แน่นอน ช่วงเย็นวันนี้มีกระเเสข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร ขอเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวที่จอดไว้กับลานบินเอกชนย่านดอนเมือง เเละทราบว่าขอเดินทางไปยัง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายทักษิณมีบ้านพักส่วนตัวที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และอีกกระเเสเเจ้งว่านายทักษิณขอเดินทางไปพบเเพทย์ที่สิงคโปร์ 2 วัน เเละจะกลับมาขึ้นศาล โดย ตม.ตรวจสอบหนังสือเดินทางเเละสอบถามเหตุผลในการเดินทางของนายทักษิณในตอนนี้เเล้วเเละอนุญาตให้นายทักษิณเดินทางได้ กระเเสข่าวนี้เกิดขึ้น ท่ามกลางการเตรียมลงมติของสส.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 วันที่ 5 กันยายน 2568 เเละวันที่ 9 กันยายน นายทักษิณต้องไปฟังคำตัดสินคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งศาลฎีกาแผนคดีอาญานักการเมืองนัดให้นายทักษิณ ไปฟังคำวินิจฉัยในคดีนี้กับผู้บังคับการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังก่อนหน้านี้ศาลอาญา ตัดสินยกฟ้องนายทักษิณในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม เเละอยู่ระหว่างที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะอุทธรณ์หรือไม่ หลังจากนั้นนายวิญญัติ ชาติมนตรี […]