ไทยลงนาม MOU มลฑลไห่หนาน ขยายการค้าระหว่างกัน


นนทบุรี 20 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เป็นสักขีพยานลงนาม MOU ความร่วมมือทางการค้าไทย-ไห่หนานของจีนถือเป็นมินิเอฟทีเอฉบับแรก ที่เพิ่มช่องทางการค้าและการลงทุนทุกมติ แถมโอกาสสินค้าไทยเข้าไปทำตลาดไห่หนานเพิ่ม พร้อมยังส่งเสริม SMEs 2 ฝ่ายความร่วมมืออุตสาหกรรมและการลงทุนด้วย คาดดันมูลค่าการค้าระหว่างกันเพิ่ม 2 ปีเป็น 12,000 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยานฝ่ายไทย และนายเฝิง เฟย (H.E. Mr. Feng Fei) ผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน เป็นประธานสักขีพยานฝ่ายจีน ในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ด้านความร่วมมือทางการค้าระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กับกรมพาณิชย์ไห่หนาน มณฑลไห่หนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ โดยมีนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้ลงนาม ร่วมกับนายเฉินซี (Mr.Chen Xi) อธิบดีกรมพาณิชย์ไห่หนาน โดยมีสักขีพยานฝ่ายไทย ได้แก่ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และสักขีพยานฝ่ายจีน ได้แก่ นายหนี เฉียง (Mr. Ni Qiang) รองผู้ว่าการมณฑลไห่หนาน  นางสาวไต้ เจิน (Ms.Dai Zhen) ผู้อำนวยการสำนักงานการต่างประเทศไห่หนาน  
 
อย่างไรก็ตาม การลงนาม MOU ครั้งนี้ถือเป็นมินิเอฟทีเอฉบับแรกที่ไทยได้ลงนามกับมลฑลของจีน ซึ่งในเร็วๆนี้ยังมีการลงนามเพิ่มเติมอีก โดยไม่เพียงแต่จีนเท่านั้น ยังจะมีประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอีกหลายประเทศด้วยกัน ดังนั้น การลงนาม MOU กับไห่หนานถือเป็นกาาสร้างความร่วมมือทางการค้าเชิงลึกระดับมณฑล เพื่อขยายการส่งออกสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดเมืองรองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงของจีน ที่สำคัญ



รัฐบาลจีนมีนโยบายผลักดันให้เป็นเมืองท่าการค้าเสรีระดับสูงที่มีอิทธิพลในระดับโลกเทียบเท่าฮ่องกง ดังนั้น หากมีความร่วมมือต่อกันจะเป็นประโยชน์ต่อการค้าระหว่างกันในอนาคต โดยตลอดปีที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทย และกรมพาณิชย์ไห่หนานของจีน ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดแม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จนที่สุดได้เกิดผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งใน ซึ่งการลงนามใน MOU จะนำไปสู่การขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน อำนวยความสะดวกในกิจกรรมการค้าต่าง ๆ สนับสนุนการขยายการค้าในสินค้าส่งออกสำคัญระหว่างกัน ร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซ และการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ รวมถึงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการร่วมกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ของทั้ง 2 ฝ่าย

ทั้งนี้ โดยสาระสำคัญของ MOU ประกอบด้วย 5 มิติ ได้แก่ 1.แลกเปลี่ยนข้อมูลและมาตรการสนับสนุนสำหรับ SMEs ความร่วมมือทางอุตสาหกรรม การลงทุน และการจัดตั้งตัวแทนการค้าร่วมกันในประเทศของตน  2.ส่งเสริมและเชื่อมโยงธุรกิจ ยกระดับความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมของ SMEs ผ่านโครงการสนับสนุนต่าง ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้า แลกเปลี่ยนบุคลากร การขยายโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดที่สาม การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ และการจัดคณะผู้แทนการค้าเพื่อการพัฒนาสินค้าท้องถิ่นสู่ตลาดโลก
3.อำนวยความสะดวกในกิจกรรมทางการค้าต่าง ๆ ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้จัดหรือจัดร่วมกัน เช่น การจัดสัมมนา การประชุมวิชาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการ การจับคู่ธุรกิจการค้า งานแสดงสินค้า คณะผู้แทนการค้า เป็นต้น ด้วยการแบ่งปันข้อมูล ความรู้ บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี เพื่อขยายโอกาสทางการค้าร่วมกัน 4.สนับสนุนการขยายการค้าในสินค้าส่งออกสำคัญระหว่างกัน เช่น สินค้าอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เป็นต้น และ 5.ส่งเสริมความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซและการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน ตามที่ผู้เข้าร่วมตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ผลจากการพัฒนาความสัมพันธ์การค้าเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์ประเทศไทยกับมณฑลไห่หนาน ผ่านการลงนาม MOU ครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิดการขยายมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นเป็น 12,000 ล้านบาทภายใน 2  ปี ซึ่งสินค้าไทยที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ผลิตภัณฑ์ยางพารา อาหารสำเร็จรูป ของใช้ตกแต่งบ้าน ธุรกิจด้านการเงิน  โดยในปี 2563 มูลค่าการค้าระหว่างไทย-ไห่หนาน มีมูลค่า 295.07 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาทกว่า 9,200 ล้านบาท สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปไห่หนาน ได้แก่ สตาร์ช  ไซคลิกไฮโดรคาร์บอน ปิโตรเลียมโค้ก ปิโตรเลียมบิทูเมน ยางผสม (คอมพาวนด์) ยางธรรมชาติ สินแร่และหัวแร่ไทเทเนียม ยาและเวชภัณฑ์ ข้าว    


นอกจากนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดกิจกรรมคู่ขนานเจรจาธุรกิจการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้นำเข้าจีน โดยเฉพาะผู้นำเข้าจากไห่หนาน จำนวน 119 คู่ โดยมีผู้ส่งออกไทย 53 บริษัท และผู้นำเข้าจีน 29 บริษัท ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี คาดการณ์มูลค่าการค้าใน 1 ปี 595.75 ล้านบาท สินค้าไทยที่ได้รับความนิยม ได้แก่ ข้าวสาร อาหารพร้อมรับประทานและเครื่องดื่ม ผลไม้ กุ้งแช่แข็งและอื่นๆ เป็นต้น

ทั้งนี้ แม้สถานการณ์โควิดที่ไทยยังมีปัญหาอยู่ แต่หากดูยอดมูลการค้าส่งออกโดยรวมของไทยในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมามีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสัปดาห์หน้ากระทรวงพาณิชย์จะแถลงตัวเลยการส่งออกในเดือนกรกฎาคม 64 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างวิเคราะห์ตัวเลขอยู่ แต่เบื้องต้นยังเป็นตัวเลขขยายตัวเป็นบวก 2 หลักเช่นเดิม แต่จะเป็นบวกแค่ไหนสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น