นนทบุรี 30 ก.ค.-พาณิชย์จับมือ สตาร์ทอัพไทย เชื่อมแพลทฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ พร้อมแจกโปรหนุนร้าน Thai SELECT เพิ่มยอดขายเจาะกลุ่มรักสุขภาพที่ชื่นชอบเมนูอาหารไทยแท้แต่ไม่มีเวลาปรุงเองเข้าถึงอาหารไทยระดับพรีเมื่ยมได้อย่างสะดวกง่ายดาย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือธุรกิจสตาร์ทอัพ และแพลทฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ (ฟู้ดเดลิเวอรี่) ชื่อดัง ได้แก่ Robinhood และ Hungry hub กระตุ้นยอดขายให้ร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคที่ชื่นชอบอาหารสุขภาพ โดยการค้นหาร้านอาหารและส่วนลดจากหลากหลายเมนูยอดฮิตบนโลกออนไลน์ที่นิยมสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มสั่งอาหาร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคปัจจุบันเป็นอย่างดี ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลร้านอาหารที่มีคุณภาพ ทั้งด้านรสชาติ ความสะอาด การให้บริการ ในราคาที่ตรงตามความต้องการ
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กรมฯ จะเริ่มต้นเชื่อมโยงกับร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวนกว่า 60 ร้านในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลก่อนเป็นลำดับแรก เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงและมีธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นจำนวนมาก โดยจะร่วมมือกับธุรกิจสตาร์ทอัพ เช่น Punpro และ Salehere จัดทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดออนไลน์ โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์สายอาหารชื่อดัง ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทั้งการแจกโค้ดส่วนลดรายการอาหาร ส่วนลดค่าจัดส่ง ร่วมกับโปรโมชั่นของทางร้าน นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ร่วมมือสตาร์ทอัพที่มีแพลทฟอร์มสั่งอาหาร ได้แก่ Robinhood, Hungry hub ช่วยให้ความรู้แนะนำการใช้งานระบบหลังร้านแก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เช่น ระบบการรับออเดอร์ ระบบการรับชำระเงิน ระบบจัดส่ง รวมทั้งการจัดเตรียมอาหารสำหรับเดลิเวอรี เป็นการติดอาวุธให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและพร้อมปรับธุรกิจเข้าสู่ยุค New Normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยผู้บริโภคที่สนใจร่วมกิจกรรมสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น/เว็บไซต์ของ Robinhood, Hungry hub และค้นหาร้านอาหารภายใต้แคมเปญ “DBD ชวนฟิน กิน Thai SELECT” ได้ทันที ซึ่งระบบจะประมวลผลการค้นหาร้านอาหารที่อยู่ใกล้บ้าน สถานที่พักอาศัย หรือจุดที่ผู้บริโภคอยู่ ณ ตอนนั้นมากที่สุดโดยอัตโนมัติ ผู้บริโภคสามารถสั่งอาหารได้ทันทีหรือจองบริการล่วงหน้า สามารถเลือกสั่งอาหารได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค โดยให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2564
ทั้งนี้ การให้บริการดังกล่าว จะสร้างประโยชน์ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย คือ 1.ธุรกิจร้านอาหาร โดยกรมฯ ช่วยผลักดันให้ร้านอาหารรายย่อยนำระบบการสั่งอาหารและการชำระเงินออนไลน์มาช่วยเพิ่มยอดขายให้สามารถอยู่รอดได้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 โดย SME ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าใช้แพลตฟอร์ม (GP) ควบคู่กับการได้รับการส่งเสริมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย ยกระดับธุรกิจร้านอาหารทั้งด้านคุณภาพ รสชาติ ความสะอาด และเทคโนโลยีการบริหารจัดการหลังร้านเพื่อช่วยลดต้นทุน รวมทั้ง สามารถต่อยอดขอสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจรายย่อยเสริมสภาพคล่องธุรกิจได้อีกด้วย 2.ธุรกิจสตาร์ทอัพ ได้แสดงศักยภาพในการนำเทคโนโลยีมาช่วยลดอุปสรรคและขยายตลาดธุรกิจร้านอาหาร ได้ฐานข้อมูลร้านอาหาร และพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค 3.ผู้บริโภคสามารถค้นหาเมนูและสั่งอาหารที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วในราคาที่ยอมรับได้ ประหยัดค่าจัดส่ง รับบริการใกล้สถานที่พักอาศัย หรือ จุดที่อยู่ ณ เวลานั้น ทำให้ได้อาหารไทยที่คุณภาพ ทั้งด้านรสชาติ ความสะอาด ราคาและปริมาณเดียวกับการซื้อที่ร้าน ผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02 547 5158 e-Mail : service@dbd.go.th สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และ www.dbd.go.th
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ประเทศไทยมีร้านอาหารประมาณ 600,000 ร้านทั่วประเทศ อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งสิ้น 92,659 ร้าน (ข้อมูลจากเว็บไซต์ Wongnai) แบ่งเป็นนิติบุคคล จำนวน 8,541ร้าน และบุคคลธรรมดา จำนวน 84,118 ร้าน และร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 940 ร้าน ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร 238 ร้าน ภาคเหนือ 154 ร้าน ภาคกลาง 238 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 115 ร้าน ภาคใต้ 143 ร้าน ภาคตะวันออก 52 ร้าน ข้อมูล ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2564 นี้เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย