กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – ทูตเกษตรจับมือทูตพาณิชย์แก้ปัญหา “มังคุด” ภาคใต้ราคาตก จากเหตุติดขัดการขนส่ง แนะส่งออกผ่านด่านตงซิงและด่านรถไฟผิงเสียง แทนด่านโหย่วอี้กวนที่มีปัญหาจราจรติดขัดหน้าด่าน
นายปรัตถกร แท่นมณี กงสุล (ฝ่ายเกษตร) ประจำนครกว่างโจว กล่าวว่า ได้รายงานต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถึงมาตรการช่วยเหลือชาวสวนมังคุดภาคใต้และแก้ปัญหาการขนส่งผลไม้ไทยไปจีน จากการหารือกับทูตพาณิชย์ ประจำประเทศจีน ผู้ประกอบการล้งผลไม้ ผู้ส่งออกผลไม้ และผู้ประกอบการโลจิสติกส์ โดยเห็นร่วมกันว่า ขณะนี้มีปัญหาเกี่ยวกับขั้นตอนการปฏิบัติงานของด่านโหย่วอี้กวนทำให้การจราจรติดขัดหน้าด่าน จึงเสนอให้ใช้ด่านตงซิงและด่านรถไฟผิงเสียงแทน โดยเฉพาะด่านตงซิงที่มีศักยภาพรองรับการขนส่งสินค้าจำนวนมาก แต่ปัจจุบันมีการขนส่งผลไม้ไทยเพียง 10-20 ตู้ต่อวันเท่านั้น
ทั้งนี้ ทูตเกษตรจะเจรจาเพื่อเพิ่มเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการนำเข้าผลไม้ผ่านด่านตงซิง ขณะที่ทูตเกษตรพร้อมเร่งรัดดำเนินการตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารและจัดการผลไม้ ในการเจรจากับฝ่ายจีนเพื่อผลักดันการนำเข้าผลไม้ไทยผ่านด่านตงซิงต่อไป
สำหรับการส่งออกมังคุดไทยไปจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ ปัจจุบันพบว่า มีปัญหาการขนส่งผ่านลาวและเวียดนามเพื่อเข้าจีน โดยเฉพาะที่ด่านโหย่วอี้กวน มีปัญหาการจราจรติดขัดหน้าด่าน จึงมีรถตกค้างฝั่งเวียดนามจำนวนมาก ทูตพาณิชย์และทูตเกษตรได้เข้าไปเจรจากับทางการค้าจีน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ ได้เสนอแนะให้ผู้ส่งออกหันไปใช้การส่งออกมังคุดไปจีนผ่านด่านตงซิง และสถานีรถไฟผิงเสียงแทนด่านโหย่วอี้กวน ที่มีศักยภาพจำกัด ซึ่งได้หารือกับสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทยหาลู่ทางไปใช้ด่านตงซิง ด่านสถานีรถไฟผิงเสียงให้มากขึ้น
ส่วนปัญหาการขาดแคลนล้งและแรงงานที่จะลงไปรับซื้อและคัดแยกมังคุดในพื้นที่รวบรวมใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และชุมพรนั้น กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นครศรีธรรมราช และชุมพร โดยผู้ว่าฯ ทั้ง 3 จังหวัดรับทราบปัญหาและช่วยผ่อนผันให้ล้งและแรงงานเคลื่อนย้ายไปซื้อมังคุดที่นครศรีธรรมราช ชุมพร และจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้ได้ โดยทำงานร่วมกันระหว่างแรงงานจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด-19
สำหรับมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ จะช่วยสนับสนุนค่าบริหารจัดการในการรวบรวมมังคุด เพื่อนำไปจำหน่ายต่อกิโลกรัม (กก.) ละ 3 บาท และเพื่อการส่งออก กก.ละ 5 บาท และยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดช่วยระบายมังคุด ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ระบายไปแล้วกว่า 200 ตัน
ข้อมูลจากระทรวงพาณิชย์ระบุว่า รายงานสถิติการส่งออกมังคุดไปจีนในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 มีปริมาณการส่งออกทั้งสิ้น 82,695 ตัน มูลค่า 6,757.52 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.19 เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา . – สำนักข่าวไทย