มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ

โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล


จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่า ไม่อยากให้เส้นผมบังภูเขา ขอให้ปราบได้จริง สิ่งที่เห็น ท่านได้ดำเนินการกับคนที่ไปหลบในประเทศเพื่อนบ้าน ภาคเหนือมาแล้ว แต่ยังไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ยังเหลือประเทศเพื่อนบ้านภาคตะวันออก วันนี้ หนู งู หนีจากภาคเหนือไปอยู่ภาคตะวันออกหมดแล้ว ท่านต้องใช้เวลานานเท่าไหน ใช้ตำรวจทำคดีกี่คน ทำไมไม่แก้กฎหมายฟอกเงินด้วย ถ้าจำเป็นอยากให้แก้เพิ่ม อย่างเรื่องสารวัตรซิว ทำไมจับไม่ได้ ตำรวจไทยเก่ง หนีไปดูไบก็ตามจับกลับมาได้ แต่นี่พนันออนไลน์ ตนคิดว่าไม่เกินความสามารถท่าน ตนไม่อยากให้เลือกปฏิบัติ วันนี้ที่ต่างชาติไม่กล้ามาลงทุนในไทย เพราะข้อมูลรั่วไหล 1 ใน 10 ของโลก มีจุดที่ต้องแก้ไขเยอะ ขอให้เป็นวาระเร่งด่วน ทำไมไม่ใช้ AI มาช่วย บทลงโทษก็เบาไป เหมือนเกรงใจ ตนจะดูว่างบ 2569 จะแต่งตั้งตำรวจสืบสวนได้กี่พันคน รัฐบาลให้เครื่องมือในการปราบปรามพอเพียงหรือไม่

“เราไปโทษต่างชาติเทา แต่ไอ้คนที่ชั่วที่สุดคือไทยดำ เรามีคนที่เอื้อให้ต่างชาติมาหากินมาหลอกคนไทย ไอ้พวกนี้ ชั่วที่สุดครับ วันนี้ขอให้ท่านทำจริง” นายจุติ กล่าว

ด้านนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน อภิปรายว่า ปัจจุบันปัญหาแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ สร้างความเสียหายมหาศาล และ 1 ใน 5 ของเหยื่อเป็นผู้สูงอายุ ที่ถูกหลอกเงินที่ตัวเองเก็บมาทั้งชีวิต จนสิ้นเนื้อประดาตัวในบั้นปลายโดยที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในวัยที่จะทำเงินทำงานหารายได้อะไรได้อีกแล้ว แสดงว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์วันนี้ไม่ใช่แค่โจรหลอกคน แต่เป็นโจรที่กำลังสร้างปัญหาสังคม ที่ทำลายระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศ ตนเชื่อว่า พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับใหม่นี้ จะช่วยให้หน่วยงานที่กำกับดูแลระบบการชำระเงินโทรศัพท์คมมนาคมมีอำนาจในการจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และให้ความเป็นธรรมกับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อได้ดีกว่าที่เป็นอยู่


นายวิโรจน์ กล่าวว่า ประเด็นที่ตนสนใจอย่างมากอยู่ที่มาตรา 8/10 ที่ระบุว่าธนาคารเครือข่ายมือถือหรือผู้ให้บริการสื่อโซเชียลมีเดียต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายด้วย ไม่ปล่อยให้ผู้เสียหายรับผิดชอบตามลำพัง แบบคนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง ตนยืนยันว่าเป็นการแก้ไขตรงจุดอย่างมาก เพราะการที่ธนาคาร เครือข่ายมือถือและผู้ให้บริการสื่อโซเชียลมีเดียไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ลูกค้าถูกโจรหลอกดูดเงินก็ผลักภาระไปให้ลูกค้ารับผิดชอบเองเต็มๆคนเดียว ตนขอถามว่าสภาวะแบบนี้ธนาคาร เครือข่ายมือถือและผู้ให้บริการสื่อโซเชียลมีเดีย จะมีแรงจูงใจอะไรในการปรับปรุงระบบความปลอดภัย และปกป้องประชาชนและเจ้าของบัญชีเงินฝากจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นตามมาตรานี้ ธนาคารไม่ต้องกลัวว่าจะเจ๊งล้มละลาย ไม่ต้องกังวล เพราะหากธนาคารต้องร่วมรับผิดชอบ เราจะเห็นการปรับปรุงระบบความปลอดภัยของธนาคารออนไลน์ครั้งใหญ่และธนาคารพาณิชย์ต่างๆจะดำเนินการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องให้เท่าทันโจร

“ไม่มีธนาคารไหนปล่อยจอยให้ลูกค้าโดนโจรดูดเงิน หลอกเงินแล้วตามจ่าย แต่ทุกวันนี้ไม่มีกฎหมาย ธนาคารเลยไม่มีแรงจูงใจที่จะปรับปรุงระบบความปลอดภัยของตัวเอง ผมคุยมาหลายธนาคาร ผมยืนยันว่าไม่มีธนาคารไหนจะยอมปล่อยให้ระบบของตัวเองด้อยประสิทธิภาพ ดังนั้น ถ้ากฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ ความเสียหายระดับ 3 หมื่นล้านบาทจะลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญทันที ดังนั้นรัฐบาลต้องใช้กลไกทางกฎหมายนี้ในการผลักดันให้ธนาคารเครือข่ายมือถือและผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียที่มีทั้งทุนทั้งเทคโนโลยีให้ไปสู้กับโจรออนไลน์ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนผู้สูงอายุในวัยเกษียณไปดวลกับโจรแบบที่ผ่านมา” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ประเด็นที่ต้องติดตามต่อนับจากนี้คือการบังคับใช้พ.ร.ก.ไซเบอร์ในภาคปฏิบัติ โดยเฉพาะการออกกฎหมายลูก ก็อยากถามว่ากฎหมายลูกจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ เพราะหากมี พ.ร.ก.โดด ทำงานไม่ได้ หรือในมาตรา 8/2 เกี่ยวข้องกับการคืนเงินให้กับผู้เสียหายก็ต้องมีการออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการเงื่อนไขและกรอบระยะเวลาก็ต้องถามเหมือนกันว่ากระทรวงดีอี ว่า มีกำหนดการหรือไม่ว่าจะออกกฎกระทรวงแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ตนยืนยันว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่ปัญหาอาชญากรรม แต่คือภัยคุกคามของระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างร้ายแรง ลองคิดดู รัฐบาลอัดฉีดเงินดิจิทัลวอลเล็ตเข้ามาในระบบ พยายามจะสร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ แต่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำตัวเป็นเครื่องดูดฝุ่น ดูดเงินออกไปปีละ 30,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับพนันออนไลน์ ที่สร้างความเสียหายปีละ 60,000 ล้านบาท สุดท้าย เงิน 100,000 ล้านบาท ที่จะสร้างพายุหมุนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์และพนันออนไลน์ดูดไปหมด เหลือแค่ 10,000 ล้านบาท แล้วหมุนกลับมาฟอกเป็นเงินบาทในประเทศไทย ซึ่งทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก

ขณะที่นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า ตนในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ สภาผู้แทนราษฎร มีความคาดหวังกับกฎหมายฉบับนี้มากกว่านี้ บรรดาพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พูดง่ายๆ คือเป็นคนจีน ดังนั้น การแก้ปัญหา เราต้องแยกออกเป็น 2 มิติ มิติแรกเป็นมิติของการทำลายโครงสร้างอาชญากรรม ซึ่งวันนี้มีปัญหา เขาขาดความต่อเนื่องในการปราบปราม วันนี้บรรดาจีนเทาทั้งหลายเริ่มกลับมาประกอบธุรกิจแบบเดิม ในสถานที่เดิมแล้ว นอกจากนี้ ที่ร้ายแรงไม่น้อยไปกว่าฝั่งเมียนมาคือกัมพูชา

“เราอาจจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชา แต่ต้องยอมรับว่าความก้าวหน้าในการปราบปรามแก๊งเหล่านี้น้อยมาก ณ วันนี้ ขาดประสิทธิภาพ” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า มิติที่ 2 คือการจัดการภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบัญชีม้า ซิมม้า วันนี้แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ แต่แนวโน้มที่มีคนถูกหลอกกลับเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เห็นว่ามีปัญหาบางอย่าง

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า เราต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ต้องมั่นใจว่าคนไทยจะได้รับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ภาระไม่ควรจะตกเป็นของประชาชน แต่วันนี้ยังเปิดให้มีช่องทางที่ควบคุมไม่ได้ วันนี้ยังไม่มีการหน่วงบัญชี ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นคือถ้าพี่น้องประชาชนถูกหลอก เงินที่จะไหลเข้าสู่บัญชีม้าแถว 1 2 3 4 ก็ยังเดินทางต่อไปได้ เราไม่สามารถตามเงินต่อได้ โอกาสที่ประชาชนจะได้เงินคืนมีเท่าไหร่ มาตรฐานอยู่ตรงไหน ดังนั้น ต้องมีไกด์บุ๊ค

ตนเชื่อว่าผู้ประกอบการทุกคนทุกค่าย มีทีมทนายความเยอะแยะมากมายในการพิจารณาในศาล เขาจะสามารถแสดงได้ว่าทำตามมาตรฐาน ไม่มีความผิดพลาดในระบบอะไรเลย ส่วนตาสีตาสา จะเอาพยานเชี่ยวชาญจากไหนในการหักล้าง ตนนึกไม่ออกว่าจะทำได้ ดังนั้น การกำหนดแบบนี้ ตนถือว่าไม่ได้เป็นการกำหนดภาระหน้าที่ความรับผิดชอบให้กับบรรดาผู้ประกอบธุรกิจอย่างแท้จริง

“ท่านสอบกันเสร็จหรือยังครับ พลตำรวจตรี ต.เต่าแสดงให้เห็นหน่อยว่ารัฐบาลนี้จะเอาผิดกับบรรดาไทยเทา เจ้าหน้าที่รัฐเทา ประชาชนจะได้เชื่อมั่น วันนี้ ท่านออกมาตรการอะไรมาก็แล้วแต่ ประชาชนก็จะตั้งคำถามว่าตกลงแล้วรัฐบาลนี้มีแรงจูงใจมากเพียงพอจริงหรือไม่ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการที่ท่านแสดงให้เห็นสิ่งที่ได้ ต้องพิสูจน์ตั้งแต่วันนี้ ผมเชื่อว่าการทำงานของสภากับทางคณะรัฐมนตรี เราจะได้ช่วยกันสนับสนุนกันและกันในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป” นายรังสิมันต์ กล่าว

จากนั้นที่ประชุมลงมติ อนุมัติ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ด้วยคะแนน 452 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออดเสียง 2 เสียง ขณะที่ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่ประชุมอนุมัติ 453 ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 2 เสียง.-312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

ตรวจพบสารหนูในบ่อน้ำแม่สาย แนะแจ้งเตือนชาวบ้าน

เชียงราย 29 พ.ค. – ผลตรวจน้ำในแม่น้ำสาย พบสารหนูเกินค่ามาตรฐาน ขณะที่บ่อน้ำชาวบ้าน ตรวจพบสารหนูเช่นกัน แนะทางการแจ้งชาวบ้านหลีกเลี่ยงการใช้ ผศ.ดร.สุรพล วรภัทราทร หัวหน้าศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีก่อกำเนิด มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พร้อม ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ลงพื้นที่แม่น้ำสาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อตรวจโลหะหนักในน้ำ (สารหนู-As) โดยใช้ชุดตรวจแบบรู้ผลทันที( IQUAN) ผลการตรวจเบื้องต้น จุดที่ 1 แม่น้ำสายที่หัวฝาย พบสารหนู 0.12 มิลลิกรัม/ลิตร (mg/L) (ค่ามาตรฐานคือ 0.01 mg/L) การตรวจน้ำประปาจากก๊อกน้ำในบ้านเรือนไม่พบเกินค่ามาตรฐาน นอกจากนี้ได้นำน้ำจากบ่อน้ำตื้น (บ่อเจาะ) ในบ้านประชาชน ห่างจากแม่น้ำสายประมาณ 100 เมตร มาตรวจด้วย ซึ่งตรวจพบสารหนูเกินค่ามาตรฐาน คือ 0.10 mg/L โดยตรวจซ้ำ 3 ครั้ง เกินค่ามาตรฐานสองครั้ง ผศ.ดร.สุรพล กล่าวว่า ขณะนี้น้ำประปายังคงปลอดภัย แต่น้ำในแม่น้ำสายค่าค่อนข้างสูง […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]

ทางออก 3 ข้อ ไทย-กัมพูชา ตกลงร่วมคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก

อุบลราชธานี 29 พ.ค. – สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เช้าวานนี้ (28 พ.ค.) บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ขณะนี้เข้าสู่วันที่ 2 แม้ไม่มีการปะทะเพิ่มเติม แต่เจ้าหน้าที่ยังตรึงกำลังแน่นหนา ส่วนชาวบ้านในพื้นที่เริ่มเตรียมความพร้อมสำหรับการอพยพ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน แต่การแก้ปัญหาที่สำคัญคือ ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศได้คุยกันแล้ว เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ข้อสรุป 3 ข้อ.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]