“เอสซีจี เซรามิกส์”ขึ้นแท่น บริษัทยั่งยืนน่าลงทุน

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – เอสซีจี เซรามิกส์ ขึ้นแท่น “บริษัทยั่งยืนที่น่าลงทุน” ผลประกอบการไตรมาส 2 และครึ่งปีแรก 2564 แข่งขันได้กำไรต่อเนื่อง โชว์นวัตกรรมกระเบื้องฟอกอากาศ พร้อมดันแบรนด์ SUSUNN ลุยธุรกิจพลังงานทางเลือกเต็มตัว
          


นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO) โสสุโก้ (SOSUCO) และ คัมพานา (CAMPANA) เปิดเผยงบการเงินรวมก่อนสอบทาน ของ COTTO ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 2,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 16 จากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสำหรับงวด 177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 328 โดยในไตรมาสนี้บริษัทยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้ดีอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ผลประกอบการใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้
          

โดยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 5,613 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ สามารถทำกำไรสำหรับงวดได้ 364 ล้านบาท โดย เพิ่มขึ้น ร้อยละ 119 ใกล้เคียงที่คาดการณ์ไว้
          


“แม้ว่าราคาก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวสูงขึ้นมากแต่ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิตที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรายังสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้เป็นไปตามแผนงานได้ สำหรับยอดขายไตรมาสนี้และในครึ่งปีแรกจะเห็นได้ว่าสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนมากแม้ว่าการระบาดของ COVID-19 จะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว แต่เนื่องจากในปีนี้ช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญ โดยเฉพาะโมเดิร์นเทรดและร้านผู้แทนจำหน่ายขนาดใหญ่ ยังสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติจึงทำให้ยอดขายในตลาดระดับกลาง-ล่างยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงทั้งลาวและกัมพูชา ตลอดจนสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเมียนมาร์ ส่งผลให้ยอดขายในส่วนของตลาดต่างประเทศลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน”นายนำพล กล่าว
          

นายนำพล กล่าวต่อไปว่า ภาวะตลาดในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้คาดว่าผลกระทบของการระบาดของ COVID-19 จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในภาพรวมยังไม่ฟื้น เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ค่อนข้างมากจากปัจจัยลบหลายด้าน  ทั้งจากความยืดเยื้อของการระบาด และการกลายพันธุ์ของไวรัสที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการใช้จ่ายในประเทศ แผนการเปิดประเทศ การปิดกิจการ และการเลิกจ้างแรงงาน ล่าสุด การแพร่ระบาดของ COVID-19 รอบใหม่ที่กระจายตัวไปยังแคมป์ก่อสร้างมีผลกระทบเพิ่มเติมทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนแรงงานด้วย ส่วนแนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์น่าจะมีการชะลอโครงการใหม่และหันมาเร่งการโอนในปัจจุบันให้เร็วขึ้น ซึ่งภาครัฐอาจจะช่วยกระตุ้นได้ด้วยมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจ มาตรการฟื้นฟูการสร้างรายได้ให้ประชาชน และเร่งฉีดวัคซีนป้องกันให้ครอบคลุมจำนวนมากที่สุดอย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มที่จะชะลอตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าแต่สำหรับตลาดสร้างซ่อมตกแต่งต่อเติมเห็นว่ามีแนวโน้มที่ยังไปต่อได้โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้คนต่างก็มีประสบการณ์ที่ต้องเก็บตัวอยู่ในที่พักอาศัยเป็นระยะเวลานาน กระตุ้นให้เกิดความต้องการที่จะปรับปรุงและเตรียมความพร้อมของที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงเร่งออกสินค้านวัตกรรมในกลุ่ม Health and Clean อย่างต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่าหลังจากสถานการณ์ฯ คลี่คลายลง จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญและใส่ใจในเรื่องสุขภาพ

ในส่วนของแบรนด์ “SUSUNN” ที่ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดจำหน่ายและติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนซึ่งเป็นพลังงานสะอาดหลากหลายประเภท ในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้เริ่มเปิดตัวแบรนด์ SUSUNN อย่างจริงจัง โดยลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในส่วนของโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารสำนักงาน บริษัทโอสถสภา จำกัด (มหาชน) เรื่องเทคโนโลยีด้านการประหยัดพลังงาน หรือ Energy Saving ทั้งในด้าน Solar Business ด้าน Energy Audit และ โครงการซื้อขายไฟฟ้าและคาร์บอนเครดิต ผ่านคนกลาง บน SUSUNN Platform ล่าสุด ยังได้ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตจากโครงการลดก๊าซเรือนกระจกของ เอสซีจี เซรามิกส์ ด้วย]


นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีเรื่องที่น่ายินดีที่ บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้อยู่ในทำเนียบ “บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน” หรือ ESG Emerging List ในฐานะบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานโดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) และเป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนแบบยั่งยืนที่ทนทานต่อวิกฤตการณ์โควิด โดย COTTO เป็น 1 ใน 24 หลักทรัพย์ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าอยู่ในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2564 และติดกลุ่มหลักทรัพย์ยั่งยืนที่น่าลงทุน หรือ ESG100 ประจำปีด้วยล่าสุด จากการประเมินภาพรวมผลการดำเนินงานของ บริษัทฯ โดย สถาบันไทยพัฒน์ พบว่า บริษัทฯ ได้มีการเปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ผลการดำเนินงานด้านสังคมและผลการดำเนินงานด้านธรรมาภิบาล โดยมีภาพรวมผลการประเมินอยู่ในระดับ GOLD ซึ่งเป็นระดับสูงสุดด้วย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]