นายกฯ ยินดี Tiktok จ่อลงทุนไทยเพิ่ม

ทำเนียบ 28 ก.พ.- นายกฯ ยินดี Tiktok เตรียมลงทุนในไทยเพิ่ม 8.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่บริษัทฯ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน พร้อมยินดีช่วยพัฒนาทักษะบุคลากร


นางเฮเลนา เลิร์ช รองประธานฝ่ายตลาดใหม่และนโยบายสาธารณะ บริษัท ติ๊กต๊อก เทคโนโลยีส์ จำกัด และคณะ เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสเยือนประเทศไทย ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวให้การต้อนรับ พร้อมขอบคุณสำหรับความร่วมมือ และการลงทุนของบริษัท ซึ่งไทยได้ทราบมาว่าบริษัท ติ๊กต๊อก ฯ ต้องการที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น และรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้พบกันในวันนี้


ด้าน รองประธานฝ่ายตลาดใหม่และนโยบายสาธารณะ บริษัท ติ๊กต๊อก เทคโนโลยีส์ จำกัดไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ขอขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของรัฐบาล พร้อมเปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องการจะลงทุนเพิ่ม 8.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 305,000 ล้านบาท ในอีก 5 ปีข้างหน้า และรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการลงทุนในไทย โดยติ๊กต๊อกมีผู้ใช้แพลตฟอร์กว่า 50 ล้านคน ซึ่งในไทยมีผู้ใช้มากกว่า 3 ล้านบัญชีที่ใช้ Tiktok Shop ซึ่งตนทราบมาว่านายกรัฐมนตรี ก็ใช้ด้วย จึงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากหากประสบผลสำเร็จ เนื่องจาก บริษัทฯ มีพนักงานในไทยกว่า 1,000 คน ที่คอยช่วยให้แพลตฟอร์มมีความปลอดภัยและเป็นไปในทิศทางที่ถูก

ขณะที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คนไทยใช้แพลตฟอร์มติ๊กต๊อกจำนวนมาก จึงอยากจะสอบถามถึงการอบรมบุคลากรของบริษัทฯในประเทศไทย ซึ่งทางบริษัทฯ ยืนยันว่า ได้หารือกับทีมไปแล้วเมื่อวานนี้ว่าจะมีการอบรมคนไทยด้วยในปีหน้า เพื่อช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ

นายกรัฐมนตรี ยังยินดีให้ความร่วมมือกับติ๊กต๊อกในการช่วยกันแก้ไขปัญหาข่าวปลอมและการหลอกลวงทางออนไลน์ ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงติ๊กต๊อกยืนยันพร้อมให้ร่วมมือกับรัฐบาล ในการตรวจสอบเนื้อหา และการสร้างแคมเปญส่งเสริมความรู้ดิจิทัลให้กับประชาชน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับภัยออนไลน์และการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อส่งเสริมการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย โดยเชื่อมั่นว่า ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในยุคดิจิทัล ที่จะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทยให้ก้าวหน้า รวมถึงเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคในอนาคต
“ขอบคุณ ที่บริษัทติ๊กต๊อกได้ลงทุนจัดตั้งโครงการให้บริการจัดเก็บข้อมูล หรือ Data Hosting ในประเทศไทย พร้อมชื่นชมความร่วมมือในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ไทยผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop รวมถึงการสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทย ทั้งด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวไทย ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับผู้ประกอบการและผู้สร้างคอนเทนต์ชาวไทยในการเข้าถึงตลาดโลกได้อีกด้วย” นายกฯ ระบุ


จากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองให้แก่นางเฮเลนา เลิร์ช และคณะ พร้อมกล่าวถ้อยแถลง เน้นย้ำความสำคัญของการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมและสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน พร้อมชื่นชมความสำเร็จของ TikTok ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทยกว่า 50 ล้านคน ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันถึงบทบาทที่สำคัญของแพลตฟอร์มในการเชื่อมโยงผู้คน และกระตุ้นการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการที่รัฐบาลอนุมัติโดย BOI ในโครงการจัดตั้ง Data Hosting ในประเทศไทยของ TikTok ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ TikTok ต่อศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางดิจิทัลระดับภูมิภาค สอดคล้องกับเป้าหมายของไทยในการเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้เข้มแข็ง ซึ่งบทบาทของ TikTok ที่ไม่เพียงแต่เป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความบันเทิง แต่ยังมีบทบาทสำคัญในด้านการสร้างงาน การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมข้ามชาติ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ TikTok ที่มีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยเฉพาะในด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) การผลิตเนื้อหา และการพัฒนาทักษะให้กับแรงงานไทย เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรมในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นระหว่างภาครัฐและ TikTok เพื่อเปิดโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อธุรกิจและประชาชน โดยประเทศไทยมีจุดแข็งหลายด้าน ทั้งที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาค มีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มีความมั่นคง รวมถึงแรงงานที่มีทักษะสูง เมื่อรวมกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรกับนักลงทุน สิ่งเหล่านี้ทำให้ไทยเป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการขยายธุรกิจของ TikTok และการลงทุนของ TikTok ยังช่วยส่งสัญญาณไปยังนักลงทุนทั่วโลกว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนที่มีคุณภาพสูงในเศรษฐกิจดิจิทัล

นายกรัฐมนตรี ชื่นชม TikTok ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมอัตลักษณ์ของไทยในเวทีโลก และเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการท่องเที่ยวของไทยผ่านการสร้างกระแสให้กับแคมเปญต่างๆ ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะแฮชแท็ก #Thailand ที่ถูกใช้ในกว่า 4 ล้านโพสต์ เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวทีโลก รวมถึงกรณีของ “หมูเด้ง” ลูกฮิปโปแคระของสวนสัตว์ที่กลายเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์ม สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้เนื้อหาดิจิทัลในการสนับสนุนการอนุรักษ์และความยั่งยืน และได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการสนับสนุนการลงทุนของ TikTok และพร้อมให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ ทั้งการสนับสนุนด้านกฎระเบียบ การอำนวยความสะดวกในด้านการลงทุน และการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี แสดงความเชื่อมั่นว่าการลงทุนและนวัตกรรมของ TikTok จะไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ผู้สร้างสรรค์เนื้อหา และชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยรัฐบาลไทยพร้อมที่จะเดินเคียงข้างไปกับ TikTok ในการสร้างอนาคตดิจิทัลที่ครอบคลุมและยั่งยืน พร้อมขอบคุณ TikTok ที่ได้ให้ความมั่นใจในประเทศไทย และแสดงความยินดีที่เป็นพันธมิตรสำคัญในการเดินหน้าสู่อนาคตดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์ .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย

อพยพประชาชน-ผู้ป่วย หนีภัยกระสุนปืนใหญ่

24 ก.ค. – โกลาหล! เจ้าหน้าที่อพยพประชาชน รวมทั้งผู้ป่วย 170 ราย หนีภัยกระสุนปืนใหญ่กลางเมืองกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แพทย์-พยาบาล-ชาวบ้านตื่นตระหนก บางรายถึงกับร่ำไห้ ตลอดทั้งวันตั้งแต่ช่วงสายวันนี้เป็นต้นมา ชาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ต่างโกลาหล หลังเวลาประมาณ 10.50 น. มีจรวด BM21 ตกใส่ร้านสะดวกซื้อในปั๊ม ปตท.สาขาบ้านผือ ต.เมือง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บกว่า 10 ราย ห่างปั๊มออกไปราว 800 เมตร ยังพบผู้เสียชีวิตอีกหนึ่ง 1 ราย ภายในสวนยางพารา พนักงานร้านร้านสะดวกซื้อที่รอดชีวิตอย่างหวุด เล่านาทีระทึกขณะระเบิดลงหลายลูก และเกิดไฟลุกไหม้ จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดทางประตูหลัง ช่วงเวลาใกล้ 15.00 น. ยังมีกระสุนปืนใหญ่มาตกบริเวณด้านหน้า ตชด.224 ห่างจากจุดเกิดเหตุแรก 1 กิโลเมตรเศษ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน จรวด BM21 […]

ไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือด “ไทย-กัมพูชา”

24 ก.ค. – ไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุปะทะเดือดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) มีที่มาที่ไปอย่างไร พลันที่ชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 เหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวานนี้ (23 ก.ค.) ทำให้ทหาร 1 นาย บาดเจ็บสาหัสขาขาด อีก 4 นาย บาดเจ็บ ซ้ำรอยเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดถึงขีดสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยกระดับมาตรการตอบโต้สั่งปิดด่าน 4 แห่ง คือ ช่องอานม้า, ช่องสะงำ, ช่องจอม และช่องสายตะกู พร้อมปิดสถานที่ท่องเที่ยว 2 แห่ง คือ ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายทันที 07.35 น. วันนี้ (24 ก.ค.) ความรุนแรงเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม รายงานว่าได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ […]

ไม่พลาดเป้า! เอฟ-16 ทิ้งบอมบ์รอบ 2 กลับฐานปลอดภัย

24 ก.ค.- ทอ.เปิดปฏิบัติการ ส่งเอฟ-16 ทิ้งบอมบ์ฝั่งกัมพูชาไม่พลาดเป้า กลับฐานแล้วอย่างปลอดภัย เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 ก.ค.68 กองทัพอากาศ เปิดปฏิบัติการ ส่ง F-16 รอบ 2 ของวันนี้ 4 เครื่อง ในการโจมตีทางอากาศตอบโต้กองทัพกัมพูชา ในจุดสำคัญ ทางทิศใต้ของปราสาทตาเมือนธม ไม่พลาดเป้า โดยล่าสุด 17.00 น. F-16 ทั้ง 4 เครื่อง กลับฐานบิน ปลอดภัย หลังสนับสนุน เปิดปฏิบัติการ “ยุทธบดินทร์” -สำนักข่าวไทย