กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – รมว. เฉลิมชัยระบุ สั่งกรมประมงเร่งกำหนดเงื่อนไขการปล่อยเงินกู้ 1,800 ล้าน ช่วยเหลือผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจต่อเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากการจำหน่ายสินค้าได้ลดลงเพราะการระบาดของโควิด-19
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า มอบหมายให้กรมประมงกำหนดเงื่อนไขโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่อง เพื่อช่วยเหลือผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจต่อเนื่องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากตลาดทั้งภายในและต่างประเทศประสบปัญหาทางด้านการค้าด้วยปัจจัยและข้อจำกัดต่างๆ ส่งผลให้จระเข้ซึ่งเป็นขนาดที่สามารถนำไปใช้ในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กว่า 600,000 ตัวในฟาร์มเพาะเลี้ยงทั่วประเทศไม่สามารถจำหน่ายและแปรรูปเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้ ทำให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องขาดสภาพคล่องและขาดเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับโครงการนี้จะปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้แก่ผู้กู้รายบุคคลในอัตราดอกเบี้ย MRR ต่อปี ส่วนผู้กู้ที่เป็นนิติบุคคลอัตราดอกเบี้ย MLR ต่อปี โดยภาครัฐจะชดเชยดอกเบี้ยแทนผู้กู้ใอัตราร้อยละ 3 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่กู้เป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการโครงการจะแบ่งความช่วยเหลือในการสนับสนุนสินเชื่อออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
- เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ที่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า หรือเกษตรกรที่ได้แจ้งการประกอบกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภทกิจการการเพาะเลี้ยงจระเข้ตามพระราชกำหนดการประมง โดยมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 600 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงจระเข้ให้ได้ขนาดตามที่ตลาดต้องการจำนวนจระเข้ 600,000 ตัว คิดเป็นตัวละ 1,000 บาท
- ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 1,200 ล้านบาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการแปรรูปจระเข้ 600,000 ตัว คิดเป็นตัวละ 2,000 บาท
ทั้งนี้ การกำหนดเงื่อนไขขอสินเชื่อจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้นจะให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้ในระหว่างเดือนตุลาคม 2564 ถึง เมษายน 2565 โดยพร้อมจะทยอยปล่อยสินเชื่อได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 ถึง เดือนกันยายน 2565 และจะมีการติดตามการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้กรมประมงยังวางแนวทางการช่วยเหลือเพิ่มเติมในด้านอื่นๆ เช่น การส่งเสริมบริโภคเนื้อจระเข้ในตลาดภายในประเทศ โดยสนับสนุนให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เชื่อมั่นว่าการเสริมสภาพคล่องด้วยโครงการจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจระเข้และผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งระบบในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้สามารถฝ่าฟันผลกระทบและกลับมาประกอบธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินจำนวนมากให้กับประเทศได้อีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย