ธอส.ปล่อยกู้ไตรมาสแรก กว่า 47,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – ธอส.ปล่อยกู้ไตรมาสแรกกว่า 47,000 ล้านบาท ซื้อบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท 24,867 ราย รับอานิสงแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำตอบโจทย์ลูกค้า


ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 47,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.34% เมื่อเทียบกับปีก่อน ปล่อยสินเชื่อใหม่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท 24,867 ราย ทำให้ผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ประกอบด้วย สินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 0.63%, สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 0.82%, เงินฝากรวมเพิ่มขึ้น 0.85% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น 0.82% ของยอดสินเชื่อรวม สะท้อนการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า ยืนยันตลอดปี 2568 ธอส.ทำตามนโยบายรัฐบาล หนุนคนไทยมีบ้านเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 ธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 47,414 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 41,817 บัญชี เพิ่มขึ้น 34.34% และ 51.95% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปล่อยกู้ใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลางวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 24,867 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 37% ส่งผลให้ผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2567 มีสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,811,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.63%, ธอส.มีสินทรัพย์รวม 1,899,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82%, เงินฝากรวม 1,644,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.85% ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มีจำนวน 104,537.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.82% ของยอดสินเชื่อรวม, การตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเป็นจำนวนสูงถึง 153,436 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.52% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL ที่ระดับ 146.78% สะท้อนถึงความมั่นคงและพร้อมในการรองรับผลกระทบในอนาคต และอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ระดับแข็งแกร่งที่ 15.59% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดที่ 8.50%


ปัจจัยหลักทำให้ ธอส. ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยต่ำที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและประชาชนทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย และผลิตภัณฑ์สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป อาทิ สินเชื่อซื้อ-สร้างอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เพียง 3.00% ต่อปี มียอดนิติกรรมจำนวน 9,384 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.30% ต่อปี มียอดนิติกรรม 9,419 ล้านบาท, สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 7,480 ล้านบาท, สินเชื่อบ้านอยู่เย็นเป็นสุข ปี 2568

อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.20% ต่อปี มียอดนิติกรรม 3,735.34 ล้านบาท, โครงการบ้าน ธอส. เพื่อคุณ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 3.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 2,759 ล้านบาท, โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อบุคลากรภาครัฐ ปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 2.50% ต่อปี มียอดนิติกรรม 275 ล้านบาท ขณะที่การช่วยเหลือคนไทยให้รักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป ธอส. ได้ดำเนินการตามนโยบายกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย โดยมีลูกค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 21,483 ราย คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 25,558.52 ล้านบาท

“ด้วยลูกค้ามีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเป็นจำนวนมาก ประกอบกับ ธอส. ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงทำให้ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้เพิ่มขึ้นถึง 34.34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ดังนั้น จึงมั่นใจว่าการปล่อยสินเชื่อในปี 2568 ของ ธอส. จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยบวกสำคัญมาจากมาตรการกระตุ้น
ภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ในการลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง เหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยในระดับราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 สนับสนุนการซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนในช่วงปีนี้ให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 – 30 มิถุนายน 2569 ในทุกระดับราคา จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคงค้างในระบบได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบขยายตัวดีขึ้น” นายกมลภพ กล่าว


สำหรับในปี 2568 ธอส. ยังคงเดินหน้าสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้น ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง รวมถึงประชาชนกลุ่มเปราะบาง เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านการมีที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ด้วยการจัดทำสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสนับสนุนการให้ประชาชนที่ต้องการที่อยู่อาศัยเข้าถึงสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง.-515- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ค.-“หัวหน้าอิ๊งค์” เก็บตัวเงียบ ไม่เข้าประชุม สส.เพื่อไทย ขณะที่ “ภูมิธรรม” เผยนายกฯ เข้มแข็ง เชื่อที่ผ่านมาทำดีสุดแล้ว พร้อมสู้ต่อ ฝากบอก สส. สู้ไปด้วยกัน ขอทุกคนจับมือฝ่าวิกฤติ ลั่นไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ด้าน “วิสุทธิ์” ย้ำ สส. ห้ามขาด ห้ามตาย ป่วยก็ให้อดทนกินยา ป้องกันองค์ประชุมล่ม การประชุม สส.พรรคเพื่อไทยวันนี้ (2 ก.ค.) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ประธานการประชุม และมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมนั่งหัวโต๊ะด้วย ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เดิมทีแจ้งว่าจะเข้าร่วมประชุมด้วย แต่หลังจากศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ก็ได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด รวมถึงยกเลิกการเข้าร่วมประชุม สส. พรรคเพื่อไทยด้วย ด้านนายภูมิธรรม กล่าวในที่ประชุมว่า […]

“ฟิล์ม-ดีเจแมน” ไกล่เกลี่ยได้ ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท

ศาลอาญา 2 ก.ค. – “ฟิล์ม รัฐภูมิ” จับมือปรับความเข้าใจ “ดีเจแมน” ในศาล ไกล่เกลี่ยกันได้-ยอมถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาท แต่คดีแจ้งความที่กองปราบฯ ยังเดินหน้าต่อ วันนี้ (2 ก.ค.68) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ภายหลังการไกล่เกลี่ยกันระหว่างนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ ฟิล์ม นักร้อง-นักแสดงชื่อดัง ที่เป็นโจทก์ฟ้อง นายพัฒนพล กุญชร หรือ ดีเจแมน เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ในกรณีกล่าวหาว่า นายรัฐภูมิ เรียกเงิน 14 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือคดี Forex-3D เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 2 ฝ่าย ใช้เวลาในการเจรจากันนานเกือบ 3 ชั่วโมง นายฟิล์ม เปิดเผยหลังการเจรจากันว่า อย่างที่เคยพูดไว้ว่า ถ้าทุกอย่างคุยกันได้ ตนก็พร้อมให้อภัยทุกเรื่อง เพราะที่ฟ้องไม่ได้มีเจตนาอะไร ก็อยากยืนยันในความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง เพราะผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด แล้วก็ไม่เคยไปตบทรัพย์ หรือไม่เคยไปทำอะไรที่ไม่ดี ซึ่งในห้องพิจารณาคดีที่ได้มีการคุยกัน […]

รวบเพิ่มอีก 1 แก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงิน 3.4 ล้าน

นนทบุรี 2 ก.ค. – สืบนครบาลบุกรวบเพิ่มอีก 1 คน แก๊ง “เสือปุ่น” ร่วมปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ระหว่างเข้าจับกุมพยายามปีนหลังคาหลบหนี สุดท้ายไม่รอด ตกลงมาบาดเจ็บ เร่งล่าอีก 4 รายที่ยังหลบหนี ภาพขณะตำรวจสืบนครบาล บุกรวบนายนนทวัฒน์ หรือสอง ที่บ้านพักย่านนนทบุรี หลังร่วมแก๊งนายวรวัฒน์ หรือ “เสือปุ่น” คนดังสายคุกในโซเชียล ปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท ในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว โดยนายสอง พยายามหลบหนีด้วยการปีนหลังคาบ้านและตกลงมาถูกเศษกระจกบาดขาได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายสอง ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าก่อน จากนั้นนำตัวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน โดยมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเข้ามาสอบปากคำนายสองด้วยตนเอง สำหรับคดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ถูกจับกุมเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) 2 คน คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว ทำหน้าที่เป็นเอเย่นต์หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านเฟซบุ๊ก และ น.ส.นานา ซึ่งอ้างว่าถูกนายหนาวชักชวนมาก่อเหตุ ล่าสุดคือนายสอง ทำให้ยังเหลือผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนี […]

“พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ​ แม้ไร้​ รมว.กลาโหม

กลาโหม 2 ก.ค.- “พล.อ.ณัฐพล​” ยัน​ไม่มีสุญญากาศ ​แม้ไร้​ รมว.กลาโหม​ เผย​ชายแดนกัมพูชา​มีแนวโน้มดีขึ้น​ หลัง “เตีย​ เซ็ยฮา​” ยอมคุย​เปิดเวที​ GBC​ แต่อยู่ระหว่างต่อรอง​ ย้ำ​คำนึงถึงศักดิ์​ศรีของ​ 2 ประเทศ​ ขอบคุณนายกฯ เชื่อมั่น​ พร้อมระบุ​ กต.​เตรียมรับมือปม “ฮุน มา​เนต” นำ​ 3 ปราสาท​ -​ 1 พื้นที่สู่ศาลโลก พลเอกณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง ภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา ว่า ขณะนี้สถานการณ์ยังทรงอยู่ แต่เราได้ใช้กลไกในทุกระดับของกองทัพ ในการประสานงานกับกัมพูชา และพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการพูดคุยแบบทวิภาคี​ สิ่งที่กระทรวงกลาโหมคาดหวัง คือกลไก​ GBC​ ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน ในขณะเดียวกันระดับรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีการพูดคุย​ ซึ่งมีสัญญาณที่ดีขึ้นเล็กน้อย คือทางกัมพูชาเริ่มคุยด้วยจากก่อนหน้านี้ที่ไม่คุยเลย แต่ยอมรับว่ายังมีการต่อรองกันอยู่ ซึ่งฝ่ายไทยยึดถือศักดิ์ศรีของ 2 ประเทศ […]