ไทย-อียูมั่นใจโควิดไม่เป็นอุปสรรคเปิดเอฟทีเอต่อกัน

นนทบุรี 14 มิ.ย.-ผลการหารือไทยกับอียูมั่นใจแม้จะเกิดปัญหาโควิดระบาดไม่เป็นอุปสรรคต่อการเปิดเขตการค้าเสรีภายใต้กรอบเอฟทีเอไทย-อียู ย้ำจะดีต่อไทย คาดจะมีผลได้เร็วๆนี้ พร้อมกระตุ้น WTO ควรเข้ามาจัดหาวัคซีนช่วยสมาชิกด้วย


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการหารือกับนายปีร์กะ ตาปีโอละ เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ว่า ไทยได้ตอกย้ำกระบวนการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับอียูอาจเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ แม้ในช่วงนี้จะเกิดปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ไปทั่วโลกก็ไม่ถือเป็นอุปสรรคต่อกรอบการเจรจาเอฟทีเอระหว่างไทยกับอียูแต่อย่างใด หากมีผลทางปฎิบัติจริงถือเป็นโอกาสทางการค้าให้กับธุรกิจไทย ในทุกกลุ่มอย่างมาก เพราะนอกจากจะดึงดูดการลงทุนจากอียูแล้ว ยังเป็นการเพิ่มช่องทางการจ้างงาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังโควิด-19 จะปรับมาดีขึ้นได้หลังจากประเทศไทยปูพรมการฉีดวัคซีนป้องกันหมู่ให้กับคนไทยได้ทั้งประเทศในสัดส่วนที่มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนให้ผู้ประกอบการอียูเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการค้าในรูปแบบออนไลน์ เช่น งานแสดงสินค้าแบบเสมือนจริง (Virtual Trade Show) และการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (Online Business Matching : OBM) เพื่อพลิกวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้เป็นโอกาสใหม่ของภาคธุรกิจ

ในปี 2563 อียู (27 ประเทศ) เป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ของไทยรองจากอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ  มีมูลค่าการค้าระหว่างกัน 33,133.90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 1,032,788.10 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.56 ของการค้าไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปอียู 17,637.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 545,985.27 ล้านบาท และนำเข้าจากอียู 15,496.77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 486,802.83 ล้านบาท โดย 4 เดือนแรกของปี 2564 การค้าไทย-อียูมีมูลค่า 12,879.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 388,301.92 ล้านบาท โดยมีอัตราการขยายตัวร้อยละ 10.95 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 เป็นการส่งออกมูลค่า 7,291.38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 218,428.85 ล้านบาท และเป็นการนำเข้ามูลค่า 5,588.48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 169,873.06 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปอียู คือ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ ยางพารา ไก่แปรรูป และข้าว และสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากอียู คือ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรมเ  

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นไปในทางเดียวกันว่าองค์การการค้าโลก (WTO) ควรเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 โดยเฉพาะด้านการเพิ่มกำลังการผลิตและกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง ดังนั้น ตนได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับอียูเพื่อสนับสนุนให้การประชุมรัฐมนตรี WTO ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-3 ธันวาคม 2564  ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ประสบผลสำเร็จ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบการค้าพหุภาคี และยังได้หารือเกี่ยวกับมาตรการของอียูในการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขยะพลาสติก เกษตรอินทรีย์ และสวัสดิภาพสัตว์ โดยชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะสร้างความร่วมมือระหว่างกันในเรื่องดังกล่าว เพราะรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริม เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) และยกระดับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของประเทศ โดยขอให้อียูได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์ และภาคเอกชนไทยแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้มาตรการในเรื่องดังกล่าวมีความเข้มงวดเกินความจำเป็น หรือเป็นอุปสรรคทางการค้าต่อกันเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย    
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด