ศูนย์วิจัยกสิกรฯ คง GDP ปี 64 โต 2.6%


กรุงเทพฯ 8 มี.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคงประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2564 ไว้ที่ 2.6% ในกรณีพื้นฐาน แต่ปรับกรอบประมาณการจากเดิมที่ 0.0-4.5% มาที่ 0.8%-3.0%


นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่ากรอบประมาณการใหม่สะท้อนความเสี่ยงขาลงต่อเศรษฐกิจที่ลดลง ตามความคืบหน้าของการกระจายวัคซีนและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในเศรษฐกิจหลัก คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะผ่านจุดต่ำสุดแล้วและส่งผลบวกต่อภาพการส่งออกไทยมากขึ้น ขณะที่การปรับลดกรอบบนสะท้อนภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในภาพรวมที่ยังใช้เวลา และช้ากว่าเศรษฐกิจโลก เนื่องจากมีการพึ่งพิงรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง ทำให้แปรผันตามความก้าวหน้าของการกระจายวัคซีนและการเปิดรับนักท่องเที่ยวของไทยเป็นสำคัญ

นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่าจากอัตราการฉีดวัคซีนของตลาดสำคัญ 10 แห่งไปถึงช่วงเดือนกันยายน ประเมินได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยจาก 10 ตลาดสำคัญ (ได้แก่ จีน ยุโรปตะวันตก สหรัฐฯ รัสเซีย เอเชียและอาเซียนบางประเทศ) อาจทำได้ราว 1.9 ล้านคน ซึ่งเมื่อรวมกับช่วง 9 เดือนแรกของปี จึงเห็นว่าตัวเลข 2 ล้านคนในปี 2564 ยังมีความเป็นไปได้ ภายใต้เงื่อนไขวัคซีนพาสปอร์ตสามารถดำเนินการได้ หรือการเดินทางระหว่างประเทศมีข้อจำกัดน้อยลง ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้าไทย จำเป็นที่ผู้เกี่ยวข้องในภาคการท่องเที่ยวจะต้องได้รับวัคซีน หากประเมินจากการจ้างงานในธุรกิจโรงแรมในพื้นที่ 20 จังหวัดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจต้องการวัคซีนอย่างน้อย 2.2 แสนโดส ก่อนเดือนตุลาคม ซึ่งเบื้องต้นทางการก็อยู่ระหว่างพิจารณาและคงเกิดขึ้นได้หากวัคซีนมาตามแผน


ส่วนประเด็นติดตามที่จะมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจในระยะถัดไป ได้แก่ การกระจายวัคซีนในประเทศและแนวทางเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และแรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากภาครัฐ แม้ว่าการทยอยเริ่มฉีดวัคซีนในประเทศจะยังไม่ครอบคลุมประชากรจำนวนมาก จนทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ แต่ก็คาดว่าหากมีการแพร่ระบาดอีกระลอกในประเทศจะไม่รุนแรงเท่ากับที่ผ่านมา

นางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีประเด็นเฉพาะหน้าเรื่องภาระหนี้ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่จะยังค้างอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยล่าสุดชี้ว่า ครัวเรือนยังกังวลกับสถานการณ์รายได้ลด ปัญหาค่าครองชีพ และภาระหนี้สูง อันทำให้มี 10.8% ของผู้ตอบแบบสอบถาม มีภาวะทางการเงินเสี่ยงต่อวิกฤต จึงยังจำเป็นต้องมีการต่ออายุมาตรการดูแลให้กับครัวเรือนเหล่านี้ เช่นเดียวกับธุรกิจเอสเอ็มอี ขณะที่มาตรการฯ สามารถทำได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น ตามพัฒนาการของระยะหนี้ที่ขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากสถาบันการเงิน ที่น่าจะผ่านจุดที่แย่ที่สุดมาแล้วเช่นเดียวกับทิศทางเศรษฐกิจ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน